
ใบขับขี่หมดอายุทำยังไงดี? เช็กเลย ต่อยังไงไม่ให้พลาด

อย่างที่รู้ๆ กันดี ว่า “ใบขับขี่” นั้นเป็นเอกสารสำคัญของผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน และเป็นข้อกฎหมายที่บังคับ ว่าผู้ที่ขับขี่รถยนต์จะต้องพกใบขับขี่ติดตัวอยู่เสมอ แต่ถ้าเกิดใบขับขี่หมดอายุขึ้นมาล่ะ ควรจะต้องทำอย่างไรต่อไป? ต่อใบขับขี่หมดอายุได้อีกทีตอนไหน ใบขับขี่หมดอายุต้องต่อภายในกี่วัน หรือใบขับขี่หมดอายุขับรถได้ไหม? บทความนี้เราจะมาไขทุกข้อสงสัยที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกรณีใบขับขี่หมดอายุ 1 เดือน , ใบขับขี่หมดอายุ 3 เดือน ,ใบขับขี่หมดอายุ 6 เดือน หรือใบขับขี่หมดอายุ ไม่เกิน 1 ปี ต้องทำอะไรบ้าง รวมถึงคำถามว่าใบขับขี่หมดอายุมีโทษอย่างไร และใบขับขี่หมดอายุปรับเท่าไหร่? พร้อมแนะนำข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการใช้รถอย่างถูกต้อง ถ้าพร้อมแล้วไปชมกันเลย!
Key Takeaways
- รีบต่ออายุใบขับขี่ทันที หากใบขับขี่หมดอายุควรรีบดำเนินการต่อทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงโทษปรับและขั้นตอนยุ่งยาก ควรต่อล่วงหน้า 90 วัน
- ระยะเวลาหมดอายุมีผลต่อขั้นตอน การต่อใบขับขี่จะแตกต่างกันไป หากหมดอายุเกิน 1 ปีต้องสอบข้อเขียนใหม่ และเกิน 3 ปีต้องสอบทั้งข้อเขียนและปฏิบัติ
- อบรมออนไลน์ได้สะดวก กรมการขนส่งทางบกมีบริการอบรมต่ออายุใบขับขี่หมดอายุผ่านทางออนไลน์ ช่วยให้คุณดำเนินการได้ง่ายขึ้น
- ขับขี่ขณะใบขับขี่หมดอายุมีโทษ แม้ประกันรถยนต์ยังคุ้มครองอุบัติเหตุ แต่การขับรถโดยใบขับขี่หมดอายุมีโทษปรับตามกฎหมาย
- ต่อภาษีและ พ.ร.บ. ก็สำคัญ นอกจากใบขับขี่แล้ว การต่อภาษีรถยนต์ และต่อพ.ร.บ.รถยนต์ให้ตรงเวลาก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรมองข้าม
ต่อใบขับขี่ใหม่ล่วงหน้าได้กี่เดือน?
เพื่อความต่อเนื่องในการใช้งานและหลีกเลี่ยงปัญหาใบขับขี่หมดอายุ ผู้ขับขี่สามารถดำเนินการต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ โดยทั่วไปแล้ว กรมการขนส่งทางบกอนุญาตให้ต่ออายุใบขับขี่ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วัน หรือ 3 เดือน ก่อนวันหมดอายุจริง การดำเนินการล่วงหน้าจะช่วยให้คุณมีเวลาเตรียมตัวและเอกสารต่างๆ โดยไม่ต้องกังวลว่าใบขับขี่หมดอายุแล้วจะถูกปรับ หรือมีปัญหาในการขับขี่
ใบขับขี่หมดอายุ ต้องต่อใหม่ภายในกี่วัน?
ในส่วนของข้อสงสัยที่เราเกริ่นไปข้างต้น ที่ว่าเมื่อใบขับขี่หมดอายุต่อได้ตอนไหน? คำตอบคือ “ต่อได้ทันที” เมื่อรู้สึกตัวว่าตอนนี้ใบขับขี่หมดอายุ หากไม่อยากเจอเรื่องราวยุ่งยากที่จะตามมา รวมถึงโทษปรับที่ไม่ใช้จำเงินจำนวนน้อย ๆ ควรรีบเดินทางไปต่อใบขับขี่ในทันที สำหรับข้อสงสัยที่ว่า ใบขับขี่หมดอายุต้องต่อภายในกี่วัน? ส่วนนี้ไม่มีกำหนดเอาไว้อย่างชัดเจน แต่การปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุ ยิ่งนานปัญหาต่างๆ ก็จะยิ่งบานปลาย เพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เราขอสรุปมาให้เป็นหัวข้อดังต่อไปนี้
กรณีใบขับขี่หมดอายุไม่เกิน 1 ปี
หากใบขับขี่หมดอายุ ไม่เกิน 1 ปี รวมไปถึงถ้าใบขับขี่หมดอายุ 1 เดือน ,ใบขับขี่หมดอายุ 2 เดือน, ใบขับขี่หมดอายุ 3 เดือน ก็จะนับว่าใบขับขี่หมดอายุ ไม่เกิน 1 ปี และจะถือว่าเป็นโทษสถานเบาอยู่ ยังคงสามารถต่ออายุใบขับขี่ตามกระบวนการเดิมโดยยังไม่มีโทษปรับ แต่ในระหว่างช่วงเวลาที่อยู่ในสถานะ “ใบขับขี่หมดอายุ” แน่นอนว่าเมื่อคุณถูกเรียกตรวจจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็จะมีความผิดที่ปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุ และขอบอกเลยว่าความผิดนี้นับเป็นกระทง ถูกตรวจพบอีกก็ถูกปรับอีก ถูกตัดคะแนนความประพฤติอีก ถ้าโดนบ่อยๆ อาจถูกระงับใบขับขี่ได้เลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามการก็อาจจะมีคำถามว่าใบขับขี่หมดอายุ 3 เดือน ต้องสอบใหม่ไหม ตอบได้เลยว่า ไม่ต้องสอบใหม่ และยังไม่ต้องเสียค่าปรับใดๆ
เอกสารที่ต้องใช้ :
- บัตรประชาชนตัวจริง
- ใบขับขี่เดิมที่หมดอายุ
- ใบรับรองแพทย์ (อายุไม่เกิน 1 เดือน)
กรณีใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปี
ถ้าใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปี แต่ยังไม่เกินกว่า 3 ปี กรณีนี้จะเริ่มมีความยุ่งยากเพิ่มขึ้นมาแล้ว เพราะจากเดิมที่คุณสามารถอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ จากนั้นเดินเข้าไปยื่นเอกสารการต่ออายุใบขับขี่ แล้วก็เข้ารับการตรวจสมรรถภาพร่างกาย เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ แต่ในกรณีที่ใบขับขี่หมดอายุนานกว่า 1 ปีคุณจะต้องเพิ่มขั้นตอนของการ “สอบข้อเขียนใหม่” ซึ่งเป็นเหมือนกับการสอบเพื่อให้ได้ใบขับขี่มา และจะต้องทำคะแนนอย่างน้อย 45 จาก 50 คะแนนเต็ม ถ้าทำไม่ผ่านก็จะต้องสอบใหม่จนกว่าจะผ่าน
เอกสารที่ต้องใช้ :
- บัตรประชาชนตัวจริง
- ใบขับขี่เดิมที่หมดอายุ
- ใบรับรองแพทย์ (อายุไม่เกิน 1 เดือน)
- ผลการอบรม (หากอบรมออนไลน์)
กรณีใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี
เมื่อใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี คุณจะเข้าสู่กรณีที่เลวร้ายที่สุด เพราะเหมือนกับคุณจะต้องเริ่มต้นทำใบขับขี่ใหม่ตั้งแต่ต้น นอกจากเตรียมเอกสารให้พร้อม เข้ารับการอบรม และทำการสอบข้อเขียนให้ได้คะแนนตามเกณฑ์ที่กำหนด เท่านั้นยังไม่พอยังมี “การสอบปฏิบัติ” ซึ่งจะต้องทำ 3 ท่าพื้นฐานในการขับรถยนต์ให้ผ่าน อย่างเช่น การจอดรถให้ตรงกับจุดที่กำหนดเอาไว้, การถอยรถเข้าซองโดยที่สามารถหักพวงมาลัยได้ไม่เกิน 7 ครั้งเท่านั้น และการจอดรถเทียบขนานไปกับทางเท้า แน่นอนว่าต้องทำให้ผ่านเท่านั้น ถึงจะได้ใบขับขี่มาครอบครอง
เอกสารที่ต้องใช้ :
- บัตรประชาชนตัวจริง
- ใบขับขี่เดิมที่หมดอายุ (ถ้ามี)
- ใบรับรองแพทย์ (อายุไม่เกิน 1 เดือน)
- ผลการอบรม (หากอบรมออนไลน์)
และถ้าหากคุณมีแผนจะเปลี่ยนเจ้าของรถในช่วงที่ใบขับขี่หมดอายุ ควรตรวจสอบให้พร้อมทั้งเรื่องใบขับขี่ และเอกสารโอนรถ เพื่อให้การดำเนินการกับกรมการขนส่งทางบกเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ต้องเสียเวลาย้อนกลับมาทำเอกสารซ้ำซ้อน

ขั้นตอนการสอบกรณีใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปี
สำหรับผู้ที่ใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี คุณจะต้องดำเนินการสอบข้อเขียนใหม่ที่กรมการขนส่งทางบก โดยมีขั้นตอนดังนี้
- ยื่นคำขอ พร้อมเอกสาร เตรียมเอกสารที่จำเป็นทั้งหมด (บัตรประชาชน, ใบขับขี่เดิม, ใบรับรองแพทย์) และยื่นเรื่องที่สำนักงานขนส่ง
- ทำการอบรมใบขับขี่ เข้ารับการอบรมตามหลักสูตรที่กำหนด (สามารถอบรมออนไลน์ได้)
- สอบข้อเขียน ทำการสอบข้อเขียนระบบ E-exam ให้ได้คะแนนตามเกณฑ์ที่กำหนด (อย่างน้อย 45/50 ข้อ)
- ตรวจสมรรถภาพร่างกาย ผ่านการทดสอบสมรรถภาพร่างกายตามเกณฑ์
- ชำระค่าธรรมเนียม และรับใบขับขี่ เมื่อผ่านทุกขั้นตอน ก็สามารถชำระค่าธรรมเนียม และรอรับใบขับขี่ใหม่ได้เลย
ขั้นตอนการสอบข้อเขียนและภาคปฏิบัติใหม่ กรณีใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี
ในกรณีที่ใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี คุณจะต้องทำขั้นตอนเหมือนการขอใบขับขี่ใหม่ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงการสอบภาคปฏิบัติด้วย
- ยื่นคำขอ พร้อมเอกสาร เตรียมเอกสารที่จำเป็นทั้งหมด (บัตรประชาชน, ใบขับขี่เดิม (ถ้ามี), ใบรับรองแพทย์) และยื่นเรื่องที่สำนักงานขนส่ง
- ทำการอบรมใบขับขี่ เข้ารับการอบรมตามหลักสูตรที่กำหนด (สามารถอบรมออนไลน์ได้)
- สอบข้อเขียน ทำการสอบข้อเขียนระบบ E-exam ให้ได้คะแนนตามเกณฑ์ที่กำหนด
- ตรวจสมรรถภาพร่างกาย ผ่านการทดสอบสมรรถภาพร่างกายตามเกณฑ์
- สอบภาคปฏิบัติ ทำการสอบขับรถภาคปฏิบัติ 3 ท่าพื้นฐานให้ผ่าน
- ชำระค่าธรรมเนียม และรับใบขับขี่ เมื่อผ่านทุกขั้นตอน ก็สามารถชำระค่าธรรมเนียมและรอรับใบขับขี่ใหม่ได้เลย
ใบขับขี่หมดอายุ เสียค่าปรับเท่าไหร่?
หากคุณปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุแล้วยังขับรถอยู่ คุณจะมีความผิดตามกฎหมาย และจะต้องเสียค่าปรับ โดยทั่วไปแล้วใบขับขี่หมดอายุเสียค่าปรับเท่าไหร่ คำตอบคือมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ มาตรา 65 ซึ่งเป็นโทษที่ไม่ควรมองข้าม และหากถูกเรียกตรวจบ่อยครั้ง ก็จะถูกปรับทุกครั้งที่พบเจอ รวมถึงอาจถูกตัดคะแนนความประพฤติด้วย แล้วใบขับขี่หมดอายุโดนจับไหม? คำตอบคือโดนจับ พร้อมโดนปรับแน่นอนค่ะ
อบรมต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์อะไร?
เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่สามารถดำเนินการต่อใบขับขี่สำหรับคนที่ใบขับขี่หมดอายุได้ง่ายขึ้น กรมการขนส่งทางบกได้เปิดให้มีการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบกโดยตรง (dlt-elearning.com) ซึ่งคุณสามารถเข้าอบรมได้ทุกที่ทุกเวลาตามความสะดวก เมื่ออบรมเสร็จสิ้นจะได้รับหลักฐานการอบรมเพื่อนำไปยื่นประกอบการต่ออายุใบขับขี่ที่สำนักงานขนส่งต่อไป
ใบขับขี่หมดอายุ เคลมประกันได้ไหม?
คำถามที่หลายคนสงสัยคือใบขับขี่หมดอายุเคลมประกันได้ไหม หรือใบขับขี่หมดอายุ ประกันจ่ายไหม? โดยทั่วไปแล้ว หากเกิดอุบัติเหตุในขณะที่ใบขับขี่หมดอายุ บริษัทประกันภัยรถยนต์ยังให้ความคุ้มครองตามเดิมอยู่ รวมไปถึงในกรณีที่มีใบขับขี่ แต่ลืมพก หรือโดนยึดอยู่ ประกันรถยนต์ก็ยังให้ความคุ้มครองกับความเสียหายที่เกิดขึ้นเช่นกัน ดังนั้น การมีประกันรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 ,ประกันรถยนต์ 2+ หรือประกันรถยนต์ 3+ ก็ถือว่าเป็นการเสริมความคุ้มครองให้กับตัวคุณ และรถได้ดียิ่งขึ้น
ใบขับขี่หมดอายุต่อยังไง? แนะนำโดย SILKSPAN
สรุปได้เลยว่า เมื่อใบขับขี่หมดอายุ สามารถดำเนินการต่ออายุได้เลยในทันที โดยไม่ต้องรอกำหนดเวลาใด ๆ ทั้งสิ้น ที่จริงแล้วไม่ค่อยปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุด แต่ถ้าเกิดความผิดพลาดขึ้นมาแล้วก็ต้องรีบดำเนินการแก้ไขให้เร็วที่สุด มิฉะนั้นคุณจะต้องเจอกับเรื่องราวน่าปวดหัวมากมาย รับประกันเลยว่า เวลาที่เสียไปกับการต่ออายุใบขับขี่ คุ้มค่ามากกว่าการเสียเงินค่าปรับ และ ขั้นตอนอันแสนยุ่งยากที่เพิ่มขึ้นมา อย่างแน่นอน
นอกจากการดูแลเรื่องใบขับขี่แล้ว ผู้ใช้รถควรให้ความสำคัญกับการต่อภาษีรถยนต์ และต่อพ.ร.บ.รถยนต์ ให้ตรงเวลา เพราะถือเป็นภาระหน้าที่ทางกฎหมายที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน รวมไปถึงการมีประกันภัยรถยนต์ดีๆ มองหาประกันรถบริษัทไหนดี หรือจะซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ไหนดี ลองมาดูได้ที่ SILKSPAN เพราะเรามีทั้งประกันรถ วิริยะ ,ประกันรถ โตเกียวมารีน ,ประกันรถยนต์ ไทยวิวัฒน์ หรือประกันรถยนต์ กรุงเทพ ที่พร้อมให้คุณเช็กราคาได้ตลอด 24 ชั่วโมง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
- Facebook : SILKSPAN
- Instagram : silkspan
- Line Official : @SILKSPAN
- X (twitter) : SILKSPAN
- Youtube : SILKSPAN
- TikTok : silkspan