ใบรับรองแพทย์ ใบขับขี่ทำอย่างไร มีข้อควรรู้อะไรบ้าง?
สำหรับเจ้าของรถทุกคน นอกจากเรื่องของรถยนต์ที่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานแล้ว ใบขับขี่ก็เป็นอีกเรื่องสำคัญที่เจ้าของรถทุกคนต้องพกติดตัว และไม่ควรปล่อยให้หมดอายุ แต่สำหรับคนที่ไม่เคยต่อใบขับขี่มาก่อน อาจจะสงสัยว่าต้องขอใบรับรองแพทย์ ใบขับขี่อย่างไร และมีอะไรที่ต้องรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง บทความนี้มีคำตอบ
Key Takeaways
- ไม่ว่าจะเป็นการทำใบขับขี่ใหม่ หรือการต่ออายุใบขับขี่จาก 2 ปี เป็น 5 ปี หรือจาก 5 ปีเป็น 5 ปี ก็จำเป็นต้องใช้ใบรับรองแพทย์ทุกครั้ง
- สามารถขอใบรับรองแพทย์ได้จากทั้งคลินิกและโรงพยาบาล รวมถึงขอใบรับรองแพทย์ดิจิทัลผ่านแอปฯ “หมอพร้อม” ได้
- ใบรับรองแพทย์ที่คุณขอมาจะมีอายุเพียง 30 วัน นับจากวันที่ออก ดังนั้นควรวางแผนขอใกล้ ๆ วันที่จะไปทำใบขับขี่
- นอกจากใบรับรองแพทย์แล้ว ควรเตรียมบัตรประชาชนตัวจริงพร้อมสำเนา ใบขับขี่ใบเดิม และควรจองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue เพื่อความรวดเร็ว
ทำใบขับขี่ใหม่ มีเอกสารอะไรที่ต้องเตรียมบ้าง?
สำหรับเอกสารที่ต้องใช้ในการทำใบขับขี่ใหม่นั้น ไม่ได้มีเพียงแค่ใบรับรองแพทย์ แต่ยังมีเอกสารอื่น ๆ ด้วย ดังนี้่
- บัตรประชาชนตัวจริง
- สำเนาบัตรประชาชน 1 ชุด
- ใบขับขี่ใบเดิม
- ใบรับรองแพทย์สำหรับทำใบขับขี่ฉบับจริง
ทำใบขับขี่กรณีไหนบ้างที่ต้องใช้ใบรับรองแพทย์?
การต่อใบขับขี่ในทุกกรณี จำเป็นต้องขอใบรับรองแพทย์เพื่อทำใบขับขี่ใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการต่ออายุจาก 2 ปี เป็น 5 ปี หรือการต่ออายุสำหรับใบขับขี่แบบอายุ 5 ปี โดยสามารถค้นหาสถานที่รับทำใบรับรองแพทย์เพื่อต่อใบขับขี่ใกล้ฉันได้ทันที
ใบรับรองแพทย์สำหรับทำใบขับขี่ มีอายุกี่วัน?

สำหรับใครที่สงสัยว่าการขอใบรับรองแพทย์เพื่อทำใบขับขี่ ขอแล้วอยู่ได้กี่วัน คำตอบคือต้องมีอายุไม่เกิน 30 วัน โดยนับจากวันที่ออกใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาล หรือคลินิกเวชกรรมที่รับออกใบรับรองแพทย์สำหรับต่อใบขับขี่ หากอายุเอกสารเกินกว่านี้จะไม่สามารถต่อใบขับขี่ได้
ดังนั้น ใครที่ยังไม่สะดวกไปต่ออายุใบขับขี่ทันที ควรตรวจสอบให้ดีว่าใบรับรองแพทย์มีอายุกี่วัน เพื่อป้องกันปัญหากรณีเอกสารหมดอายุก่อนถึงวันยื่นจริง
ใบรับรองแพทย์ในการทำใบขับขี่ สามารถขอได้ที่ไหน?
การขอใบรับรองแพทย์เพื่อทำใบขับขี่ สามารถขอได้จากสถานที่ต่อไปนี้
- คลินิกที่รับออกใบรับรองแพทย์เพื่อทำใบขับขี่โดยเฉพาะ
- คลินิกรักษาโรคทั่วไป
- โรงพยาบาล
โดยส่วนใหญ่แล้วจะนิยมขอใบรับรองแพทย์ทำใบขับขี่กันที่คลินิกมากกว่าที่โรงพยาบาล เนื่องจากใช้เวลาตรวจเร็ว ไม่ต้องรอคิวนาน ซึ่งระยะเวลาขอเอกสารส่วนใหญ่อยู่ที่ 15-30 นาที
ขอใบรับรองแพทย์สำหรับทำใบขับขี่ ราคาเท่าไหร่?
การขอใบรับรองแพทย์สำหรับทำใบขับขี่นั้นมีราคาค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันในแต่ละแห่ง โดยส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ที่ 300 – 500 บาท หรือบางกรณีอาจมีค่าใช้จ่ายมากกว่านี้ เนื่องจากต้องตรวจโรคโดยละเอียด
ใบรับรองแพทย์ในการทำใบขับขี่ ตรวจอะไรบ้าง?
แม้ว่าการขอใบรับรองแพทย์ในการทำใบขับขี่จะใช้เวลาไม่นาน โดยปกติอยู่ที่เพียง 10-30 นาทีเท่านั้น แต่ก็มีขั้นตอนสำคัญที่แพทย์ต้องตรวจอย่างละเอียดด้วย โดยสิ่งที่ต้องตรวจมีดังนี้
- การซักประวัติทางการแพทย์ และโรคประจำตัวที่ตรวจพบล่าสุด
- ตรวจร่างกายทั่วไป โดยอายุรแพทย์
- ตรวจวัดไข้ ความดันโลหิต และตรวจปลายนิ้วเพื่อวัดระดับออกซิเจนในเลือด
- ตรวจตาบอดสี และการมองเห็น VA
หลายคนมักกังวลเรื่องการขอใบรับรองแพทย์สำหรับคนตาบอดสีแล้วอยากทำใบขับขี่ เพราะหากตรวจพบตาบอดสีรุนแรงอาจไม่สามารถทำใบขับขี่ได้ แต่หากเป็นเพียงตาบอดสีบางส่วน ก็จะยังผ่านตามเกณฑ์ของกรมการขนส่งทางบก
ใบรับรองแพทย์ ใบขับขี่ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง?

เมื่อได้ใบรับรองแพทย์มาแล้ว ให้ลองตรวจสอบเบื้องต้นดูว่ามีข้อมูลบนเอกสารครบถ้วนหรือไม่ โดยใบรับรองแพทย์ทำใบขับขี่ในปี 2568 ต้องประกอบไปด้วยข้อมูล 2 ส่วนต่อไปนี้
ข้อมูลส่วนที่ 1 : สำหรับผู้รับบริการ
- ระบุชื่อ-นามสกุล ของผู้ขอใบรับรองแพทย์ให้ชัดเจน
- ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้
- หมายเลขบัตรประชาชน
- มีประวัติสุขภาพ ทั้งประวัติการรักษาตัวในโรงพยาบาล อุบัติเหตุและการผ่าตัด รวมถึงโรคประจำตัว
- ลายมือชื่อผู้ขอใบรับรองแพทย์ พร้อมวัน เดือน ปี ที่ขอเอกสาร
ข้อมูลส่วนที่ 2 : สำหรับแพทย์
- ชื่อสถานที่ตรวจ วัน เดือน ปี ที่มีการออกเอกสาร
- ชื่อแพทย์ผู้ตรวจ พร้อมใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม ชื่อและสถานที่ตั้งของสถานพยาบาล
- ข้อมูลระบุการตรวจร่างกายของผู้รับบริการ
- สรุปความเห็นของแพทย์พร้อมคำแนะนำ
- ลายเซ็นแพทย์ที่ทำการตรวจร่างกาย
ก่อนต่ออายุใบขับขี่ใหม่ ควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?
เพื่อให้ขั้นตอนของการต่อใบขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่นมากที่สุด ผู้ขอใบขับขี่ใหม่ต้องเตรียมความพร้อมในเบื้องต้น โดยเฉพาะในด้านต่อไปนี้
- เตรียมเอกสาร : บัตรประชาชนตัวจริงพร้อมสำเนา ใบขับขี่ใบเก่า ใบรับรองแพทย์สำหรับต่อใบขับขี่ฉบับจริง
- จองคิวทำใบขับขี่ : จองคิวทำใบขับขี่ทางแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue เพื่อให้การต่อใบขับขี่รวดเร็ว แต่หากไม่สะดวกสามารถ Walk-in ได้เช่นกัน แนะนำให้ไปช่วงเช้า เพราะมีการจำกัดคิวเพียง 150 คิวต่อวันเท่านั้น
- การอบรมใบขับขี่ออนไลน์ : เมื่อจองคิวแล้ว ให้เลือกวันที่ต้องอบรมใบขับขี่ออนไลน์ ผ่าน e-Learning โดยผู้ทำใบขับขี่ใหม่ต้องอบรมให้ครบ 3 ชั่วโมง สำหรับการทำใบขับขี่ใบแรก และสำหรับการต่อใบขับขี่แบบ 5 ปี จะใช้เวลาอบรมอยู่ที่ 1 ชั่วโมง
- เตรียมร่างกายให้พร้อม : ในการทำใบขับขี่จะต้องมีการทดสอบสมรรถภาพของผู้ขับขี่ เช่น การทดสอบสายตา การทดสอบปฏิกิริยาการตอบสนอง ดังนั้นควรเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการทดสอบในด้านนี้ด้วย
หากใบขับขี่หมดอายุ เจ้าของรถต้องเตรียมเอกสารให้พร้อม นอกจากเอกสารทั่วไปแล้ว ยังควรตรวจสอบเล่มทะเบียนรถ และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น ต่อพรบรถยนต์, ต่อภาษีรถยนต์ หรือ เอกสารโอนรถ (กรณีซื้อขายเปลี่ยนชื่อ) เพราะขั้นตอนเหล่านี้มักทำควบคู่กับการต่อใบขับขี่ เพื่อความถูกต้องครบถ้วนด้านกฎหมาย
ใบรับรองแพทย์ ใบขับขี่ ต้องใช้ หากไม่มี ไม่ได้ใบขับขี่
การต่อใบขับขี่เป็นเรื่องสำคัญและ ‘จำเป็น’ สำหรับเจ้าของรถยนต์ทุกคน ซึ่งนอกจากเอกสารทั่วไปแล้ว การเตรียมเอกสารอย่างใบรับรองแพทย์ เพื่อทำใบขับขี่ ก็เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะเป็นการปฏิบัติตามข้อกฎหมายแล้ว ยังเป็นการได้ตรวจเช็กสภาพร่างกายความพร้อมในเบื้องต้นด้วย เพราะการขับขี่ต้องปลอดภัยไว้ก่อน
แต่นอกจากความพร้อมในการทำใบขับขี่จะสำคัญแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การทำประกันรถยนต์ไว้ควบคู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันรถยนต์ 2+, หรือ ประกันรถยนต์ 3+ ที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจและสบายใจให้กับเจ้าของรถมากขึ้น เมื่อต้องขับขี่ในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย หรือต้องใช้รถยนต์ทุกวัน
ทั้งนี้ เพื่อให้ได้ความคุ้มค่าทั้งเบี้ยประกันและความคุ้มครองมากที่สุด สามารถเปรียบเทียบประกันภัยชั้นต่าง ๆ ได้ที่ SILKSPAN
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
- Facebook : SILKSPAN
- Instagram : silkspan
- Line Official : @SILKSPAN
- X (twitter) : SILKSPAN
- Youtube : SILKSPAN
- TikTok : silkspan