ขาดต่อประกันอยู่หรือไม่ ต่อประกันกับ SILKSPAN ลุ้นรับ voucher จาก BigC มูลค่า 100 บาท

เช็กลิสต์! 5 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์สำหรับรถมือสอง


5 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์สำหรับรถมือสอง

รถมือสอง ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่วางแผนจะซื้อรถยนต์คันแรกเลย เพราะมีราคาที่ไม่สูงมาก ยิ่งถ้าเราเลือกซื้อจากแหล่งขายรถมือสองที่น่าเชื่อถือ มีการตรวจเช็กสภาพรถอย่างละเอียด และได้รถยนต์มือสองที่ยังมีสมรรถนะดีมาใช้งาน รับรองเลยว่าจะสามารถขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่แพ้รถยนต์มือหนึ่งเลย

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์มือหนึ่ง หรือรถยนต์มือสอง สิ่งที่เจ้าของรถทุกคนควรทำเลยก็คือ “ประกันภัยรถยนต์” เพื่อที่จะได้รับความคุ้มครองในทุกการเดินทาง หมดกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แล้วประกันภัยรถยนต์มือสองมีความแตกต่างกับประกันภัยรถยนต์มือหนึ่งอย่างไร? สามารถทำประกันชั้น 1 ได้ไหม? SILKSPAN จะพาไปหาคำตอบเอง!

ประกันภัยรถยนต์มือสองแตกต่างกับประกันภัยรถยนต์มือหนึ่งอย่างไร

ประกันภัยรถยนต์มือสองไม่ได้มีความแตกต่างกันกับประกันภัยรถยนต์มือหนึ่งเลย ทั้งสองประกันล้วนจัดอยู่ในหมวดหมู่เดียวกันก็คือประกันรถยนต์ ซึ่งจะมีการแบ่งระดับเป็น ประกันรถยนต์ชั้น 1, 2+, 2, 3+ และ 3 โดยแต่ละชั้นจะมีระดับความคุ้มครองที่แตกต่างกันไป สิ่งที่จะทำให้การทำประกันในรถยนต์มือสองแตกต่างกับการทำประกันรถยนต์ในรถยนต์มือหนึ่งเลยก็คือ รถยนต์มือหนึ่งจะสามารถทำประกันได้ทุกชั้น ในขณะที่ประกันรถยนต์ชั้น 2 อาจทำประกันชั้น 1 ไม่ได้นั่นเอง

5 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์สำหรับรถมือสอง

5 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการทำประกันภัยรถยนต์มือสอง

สำหรับใครที่เพิ่งซื้อรถมือสองเป็นครั้งแรก ไม่เคยทำประกันรถยนต์มาก่อน SILKSPAN ได้สรุป 5 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการทำประกันภัยรถยนต์ในรถมือสองมาให้แล้ว จะน่าสนใจแค่ไหน ตามไปดูกันเลย!

1. รถมือสองก็สามารถทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ได้

สิ่งแรกที่คุณควรรู้เลยก็คือ รถมือสองก็สามารถทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แบบซ่อมอู่ได้ ถ้ารถยนต์มีอายุการใช้งานไม่เกิน 10 ปี ซึ่งจะทำให้คุณได้รับความคุ้มครองไม่แพ้กับรถยนต์มือหนึ่งเลย ไม่ว่าจะเป็น การคุ้มครองรถชน รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม ไม่ว่าจะมีคู่กรณี หรือไม่มีคู่กรณีก็ตาม

2. ถ้ารถมือสองอายุใช้งานเกิน 10 ปีแล้ว อย่าปล่อยให้ประกันชั้น 1 ขาด

หลังจากที่ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ไปแล้ว ถ้ารถมือสองของคุณมีอายุการใช้งานเกิน 10 ปี (นับจากวันที่จดทะเบียน) อย่าปล่อยให้ประกันขาดเด็ดขาด และควรต่อประกันกับบริษัทประกันภัยเดิมให้เรียบร้อย ก็จะช่วยให้คุณยังสามารถทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ต่อไปได้ แต่ถ้าปล่อยให้ขาดไปแล้ว ต้องการจะกลับมาทำประกันรถชั้น 1 อีกครั้ง ก็อาจจะไม่สามารถทำได้แล้ว เนื่องจากไม่เข้าเงื่อนไขที่บริษัทประกันภัยกำหนด

แจกคู่มือใบขับขี่ใหม่ สอบผ่านในรอบเดียว

3. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ อีกหนึ่งทางเลือกของคนอยากได้ความคุ้มครองสูง

ถึงแม้จะไม่สามารถทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ได้ การทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ใช้งานรถมือสองที่ต้องการได้รับความคุ้มครองสูงอยู่ เพราะยังคงได้รับความคุ้มครองเหมือนกับประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ทั้งหมด ยกเว้นแค่การชนที่จะคุ้มครองเฉพาะเหตุที่มีคู่กรณีเท่านั้น

4. สามารถใช้ประกันภัยรถยนต์เดิมที่ติดมากับรถได้

อีกหนึ่งข้อที่เจ้าของรถมือสองควรรู้เลยก็คือ ถ้าหากเราซื้อรถยนต์มือสองมา แล้วรถยนต์ยังมีประกันภัยคุ้มครองอยู่ เราสามารถโอนประกันรถจากเจ้าของเก่ามาเป็นของเราได้ ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 กรณีหลัก ๆ ได้แก่

4.1 ประกันภัยรถยนต์มือสองแบบไม่ระบุผู้ขับขี่

ในกรณีสามารถต่อประกันรถยนต์และใช้งานประกันต่อได้เลยทันที แต่อย่าลืมรีบไปเปลี่ยนข้อมูลกับบริษัทประกันภัยให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง โดยเจ้าหน้าที่จะให้ส่งเอกสารต่าง ๆ มาแก้ไขข้อมูลให้เรียบร้อยก่อน เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนเจ้าของเดิมที่เซ็นยินยอมให้มีการโอนประกันไปให้เจ้าของใหม่ หรือหลักฐานการซื้อขายรถยนต์ เป็นต้น

4.2 ประกันภัยรถยนต์มือสองแบบระบุผู้ขับขี่

ในกรณีนี้ จะต้องเปลี่ยนชื่อเจ้าของเดิมเป็นเจ้าของใหม่ให้เรียบร้อยก่อน ไม่อย่างนั้น เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ผู้ที่เป็นเจ้าของกรมธรรม์ (ชื่อเจ้าของเดิม) จะต้องเป็นคนจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกก่อน หรืออาจร้ายแรงถึงขั้นผิดเงื่อนไขในกรมธรรม์ และทำให้ไม่ได้รับความคุ้มครองได้เลย และในส่วนของเอกสารที่ใช้เปลี่ยนชื่อเจ้าของเดิมเป็นเจ้าของใหม่ จะใช้เอกสารเหมือนกับแบบไม่ระบุผู้ขับขี่เลย

5. เลือกประกันรถมือสองให้ตอบโจทย์การใช้งาน

ข้อสุดท้ายที่เรานำมาฝากในวันนี้ก็คือ ควรเลือกทำประกันรถมือสองให้ตอบโจทย์การใช้งาน เพื่อที่จะได้คุ้มค่ากับเบี้ยประกันภัยที่จ่ายไป เช่น ถ้าหากคุณซื้อรถยนต์มือสองที่มีอายุการใช้งานเกิน 10 ปีมาแล้ว และจำเป็นต้องขับรถเดินทางไกลบ่อย ๆ หรือจอดรถในสถานที่เปลี่ยว การทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ จะเหมาะสมกว่า เพราะให้ความคุ้มครองครอบคลุมกรณีรถสูญหายด้วย แต่ถ้าซื้อมาใช้งานทั่วไป ส่วนใหญ่จะจอดรถภายในบ้านเท่านั้น การทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ ก็อาจจะคุ้มค่ากว่า เป็นต้น

ทำประกันรถยนต์มือสองล่วงหน้ากับ SILKSPAN รับโปรสุดคุ้ม!

จบกันไปแล้วกับการแนะนำ 5 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการทำประกันภัยรถยนต์สำหรับรถยนต์มือสอง SILKSPAN หวังว่าจะช่วยให้เจ้าของรถยนต์คันใหม่ทุกคนเข้าใจเกี่ยวกับการทำประกันรถยนต์มากขึ้น สามารถเลือกทำประกันรถมือสองที่เหมาะสมกับตนเอง และคุ้มค่ากับเบี้ยประกันที่จ่ายไปมากที่สุด

พิเศษ! สำหรับใครที่วางแผนจะซื้อรถยนต์คันใหม่ในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์มือหนึ่ง หรือรถยนต์มือสอง สามารถจองสิทธิ์ซื้อประกันรถยนต์ล่วงหน้ากับ SILKSPAN ได้แล้ววันนี้ พร้อมรับสิทธิประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ส่วนลดสุดคุ้มสูงสุด 30% ผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิต หรือเงินสด ได้สูงสุด 10 เดือน พร้อมบริการเสริมช่วยเหลือฉุกเฉินและเบิกค่าเดินทาง หากสนใจ สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ที่ด้านล่างนี้เลย!

ขาดต่อประกันอยู่หรือไม่ ต่อประกันกับ SILKSPAN ลุ้นรับ voucher จาก BigC มูลค่า 100 บาท


เขียนโดย : SILKSPAN ADVISOR
เผยแพร่วันที่ : 21/11/2024
รับข้อเสนอพิเศษ
  1. ส่วนลดสูงสุด 30%
  2. แบ่งจ่ายได้สูงสุด 10 เดือน (บัตรเครดิต และเงินสด)
  3. บริการเสริมช่วยเหลือฉุกเฉิน และเบิกค่าเดินทาง
  4. บริการเปรียบเทียบเบี้ยประกันจากบริษัทประกันกว่า 20 แห่ง

กรอกรายละเอียดเพื่อรับข้อเสนอจากพนักงานของเรา

“เช็คเบี้ยประกันรถฟรี 24 ชม.”

กำลังโหลด