
ซื้อรถมือสอง ต้องดูอะไรบ้าง

ในภาวะที่เศรษฐกิจผันผวนไม่แน่นอนแบบนี้ สำหรับคนที่ต้องการใช้รถแต่ไม่อยากมีหนี้ก้อนโตหลายแสนหลายล้าน ก็คงมองรถมือสองจากเต็นท์ แต่ก็กลัวจะตาดีได้ ตาร้ายจะเสีย วันนี้เรามีเช็กลิสต์วิธีการเลือกรถมือสองให้ได้ของดีจริงๆ ไม่ปวดหัวทีหลังมาฝาก
ส่วนใหญ่เวลาไปซื้อรถมือสอง เราก็ดูสภาพรถรอบคัน มีรอยตรงไหนบ้าง ข้างในเป็นอย่างไร มีกลิ่นแปลกๆ หรือไม่ อุปกรณ์ต่างๆ ใช้ได้ปกติ เสียงเครื่องยนต์ปกติ มีกลิ่นแปลกปลอมหรือไม่ ลองขับแล้วไม่มีสะดุด แต่การเช็กเพียงเท่านี้ยังไม่พอ คุณยังต้องลงรายเอียดอีก 5 ข้อต่อไปนี้
1. ประวัติของรถ
ดูตั้งแต่รถผ่านมากี่มือแล้ว อยู่จังหวัดไหน ใช้ทำอะไรมาบ้าง เป็นรถบ้านจริงๆ หรือเปล่า เคยเปลี่ยนเครื่อง ติดแก๊สหรือไม่ เคยคัดเล่มสูญหายหรือไม่ โดยให้ดูจากเล่มทะเบียนของรถในหน้า 18 ซึ่งขอแนะนำว่าให้ดูจากเล่มจริงเท่านั้น เพราะสำเนาอาจจะไม่อัพเดทเท่ากับเล่มจริง
2. สภาพของรถ ก่อนเอามาขายที่เต็นท์
เช่น ทำสีตรงไหนบ้าง เป็นสีเดิมหรือเปล่า เปลี่ยนอะไรมาบ้าง ช่วงล่างเป็นอย่างไร เคยชนมามั้ย เคยโดยน้ำท่วมหรือไม่ ซึ่งส่วนนี้ต้องถามกับเต็นท์เอา

3. หลังจากซื้อไปแล้ว คุณจะต้องเอาไปทำอะไรอีกหรือไม่
เพราะต้องยอมรับว่าก่อนที่เต็นท์จะนำมาวางขาย ก็ต้องนำรถไปสปา เปลี่ยนอะไหล่ ของเหลว ล้อ ให้อยู่ในสถาพดี สวยอยู่แล้ว แต่เต็นท์ก็จะทำถึงแค่จุดนึงเท่านั้น ข้อมูลนี้จะช่วยคำนวณว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรหลังจากซื้อรถไปแล้ว นอกจากถามจากเต็นท์แล้ว ถ้ารถเข้าศูนย์ตลอดคุณก็สามารถเช็กกับศูนย์ได้
4. ประกันหลังการขาย และประกันอะไหล่
ซึ่งคุณควรต้องเช็กกับเต็นท์อย่างละเอียดว่าเต็นท์รับประกันหรือไม่ ส่วนไหนบ้าง ระยะเวลานานเท่าไหร่ หากคุณนำไปทำอะไรเพิ่มเติม เต็นท์หรือบริษัทประกันอะไหล่จะยังรับประกันหรือไม่ รวมไปถึงข้อมูลการทำประกันรถยนต์ สำหรับรถมือสอง
-
5. เงื่อนไข จิปาถะต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขาย ค่าโอน ขั้นตอนการส่งมอบ ต้องมีการเก็บงานก่อนส่งมอบหรือไม่ หากต้องจัดไฟแนนซ์จะมีรายละเอียดอะไรบ้าง มีพ่วงประกันหรือไม่ ซึ่งรายละเอียดนี้บางเต็นท์จะมีรายละเอียดเป็นเอกสารมาให้ เพื่อให้คุณเอาไว้ดูรายละเอียดต่างๆ ได้ แต่ถ้าหากไม่มีให้ คุณควรขอให้เต็นท์เขียนสรุปมาให้เพื่อไม่ให้เกิดการเข้าใจผิดกันทั้งสองฝ่าย
เพียงเท่านี้ก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเลือกซื้อรถมือสองที่มีคุณภาพดี สวย ถูกใจ ไม่ปวดหัว