แชร์แนวทางซ่อมกระจกรถยนต์ร้ายด้วยตัวเอง ง่ายกว่าที่คิด

มั่นใจว่าคงไม่มีใครอยากจะต้องซ่อมกระจกรถยนต์ เพราะถึงแม้กระจกจะไม่ใช่ส่วนสำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของเครื่องยนต์ แต่ถ้ากระจกรถยนต์มีปัญหาแตกร้าวขึ้นมาเมื่อไหร่ จะส่งผลให้ไม่สามารถขับขี่ได้ตามปกติทันที ไหนจะต้องกังวลว่า จะแตกร้าวมากกว่าเดิมจากแรงลมที่สัมผัสกับตัวรถ หรือ ถ้าเกิดฝนตกขึ้นมาน้ำจะซึมเข้าภายในตัวรถหรือไม่ บทความนี้ SILKSPAN มาพร้อมแนวทางที่ช่วยให้คุณรับมือปัญหา “กระจกร้าว” ที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ได้ด้วยตนเอง จะง่ายมากแค่ไหน เชิญรับชมได้เลย !

สามารถซ่อมกระจกรถยนต์ร้าวด้วยตัวเอง ได้จริงเหรอ ?

การซ่อมกระจกรถยนต์ด้วยตนเองนั้นทำได้จริง ๆ แต่ต้องเป็นกรณีที่เป็นรอยแตกร้าวเล็ก ๆ เท่านั้น ถ้าเป็นรอยแตกร้าวขนาดใหญ่ควรจะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญซ่อมจะดีกว่า เพราะอาจเกิดอันตรายระหว่างการขับขี่ได้ นอกจากทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ที่น้อยลง ถ้าขับเร็ว ๆ อาจทำให้กระจกที่ร้าวอยู่แล้ว เกิดการแตกร้าวมากกว่าเดิม ซึ่งปัจจุบันมีอุปกรณ์ซ่อมกระจกให้ซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ แต่อาจจะต้องอาศัยความชำนาญสักหน่อย เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาเนี้ยบที่สุด

รวมสาเหตุที่ทำให้ “กระจกรถยนต์เสียหาย” ที่พบได้บ่อย

• อุบัติเหตุเฉี่ยวชน สาเหตุหลัก ๆ ของปัญหากระจกแตกร้าว เกิดขึ้นได้กับกระจกทุกบานของตัวรถ ที่พบบ่อยก็จะเป็นกรณีกระจกมองข้าง จากสาเหตุที่จอดเอาไว้เฉย ๆ แล้วโดนรถคันอื่นมาเฉี่ยวชนจนเสียหาย
• สิ่งของตกใส่ พบบ่อยกับกระจกหน้าและหลังของรถยนต์ ถ้าจอดเอาไว้ในพื้นที่กลางแจ้ง อาจมีสิ่งของตกลงมาจนทำให้เกิดรอยแตกร้าว เช่น กิ่งไม้ , สิ่งของ , ลูกเห็บ หรือ บางเคสเกิดจากแมวกระโดดลงมาใส่
• ก้อนหินดีด ปัญหาชวนปวดหัวของคนใช้รถใช้ถนน ถ้าพื้นถนนไม่ดีนัก อาจทำให้มีก้อนหินถูกดีดขึ้นมาจากรถคันอื่น มักจะกระทบบริเวณกระจกหน้า แม้จะเป็นก้อนหินเล็ก ๆ ก็ทำให้เกิดความเสียหายได้
• อากาศร้อนจัด ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ บ้านเราร้อนจนทำให้กระจกรถยนต์แตกได้จริง ๆ ซึ่งอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิกะทันหัน จาก ร้อนจัด เป็น เย็นจัด ก็ทำให้กระจกแตกได้เช่นกัน
• ความผิดพลาดในกระบวนการสร้าง หลาย ๆ ครั้งที่ปัญหาที่เกิดขึ้น สืบสาวราวเรื่องแล้วเกิดจากความผิดพลาดของผู้ผลิต ทำให้กระจกไม่มีความแข็งแรงเท่าที่ควร และ เกิดการแตกร้าวได้จากการใช้งาน

แนวทางซ่อมกระจกรถยนต์ จากกรณีที่ได้รับความเสียหายรูปแบบต่าง ๆ ด้วยตนเอง

ถ้ากระจกมีรอยแตกร้าว แต่ยังไม่อยากเดินเข้าไม่ใช่บริการของ ร้านซ่อมกระจกรถยนต์ ซึ่งอาจเป็นเพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ได้หนักหนามากนัก เราก็มีแนวทางการซ่อมแซมด้วยตนเองมาฝาก แบ่งออกเป็น 2 เคสใหญ่ ๆ ได้ดังต่อไปนี้

• วิธีซ่อมกระจกหน้าร้าว

การซ่อมกระจกรถยนต์ที่แตกร้าว ส่วนมากมักจะเกิดขึ้นกับกระจกหน้า ถึงจะเป็นรอยร้าวเล็ก ๆ ก็ไม่ควรมองข้าม เพราะเมื่อใช้งานไปเรื่อย ๆ กระจกจะสัมผัสกับแรงลมจนอาจทำให้รอยร้าวขยายตัวได้ การซ่อมแซมก็ทำได้ง่าย ๆ ด้วย “อุปกรณ์ซ่อมกระจก” ที่สามารถซื้อผ่านอินเทอร์เน็ต วิธีการใช้งานก็อาจแตกต่างกันไปตามยี่ห้อ แม้อาจจะไม่ได้เป็นการแก้ไขที่ทำให้กระจกกลับมาสมบูรณ์ 100% แต่ก็ถือว่าแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ดีเลยทีเดียว

• กระจกมองข้างเสียหาย

ส่วนของกระจกข้าง ส่วนมากที่เจอก็จะเป็นการเฉี่ยวชน กระจกส่วนนี้จะเป็นกระจกที่แตกแล้วแตกเลย การซ่อมอาจยุ่งยากสักหน่อย รวมถึงการเฉี่ยวชนแบบแรง ๆ อาจทำให้กระจกมองข้างเสียหายจนห้อยโตงเตง กรณีเช่นนั้นก็ควรจะต้องให้ร้านซ่อมจะดีที่สุด รวมถึงเคสการซ่อมกระจกมองข้างไฟฟ้ารถยนต์ ที่อาจจะไม่ยอมพับ ให้ลองใช้น้ำยาอเนกประสงค์ฉีดที่ข้อต่อ แต่ต้องระวังอย่าให้โดนตัวสีรถ รวมถึงมองหาว่ามีอะไรมาติดพันอยู่หรือไม่ ถ้าลองแล้วไม่หาย ก็ต้องส่งซ่อมสถานเดียว

จริงหรือไม่ ? มีวิธีซ่อมกระจกรถยนต์โดยไม่ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งบาน

ถ้าสุดท้ายแล้ว การซ่อมเองคงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเท่าไหร่ การใช้บริการของร้านซ่อมกระจกรถยนต์ ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งกระจกรถยนต์ในปัจจุบันเป็นแบบ Laminate เมื่อมีรอยแตกร้าวจะกลายเป็นเหมือนใยแมงมุม ไม่เหมือนกับกระจกแบบเดิมอย่าง Tempered ที่แตกแล้วจะกลายเป็นเมล็ดข้าวโพก หากรอยแตกร้าวมีขนาดเล็ก และ ความเสียหายของกระจกไม่มากนัก สามารถใช้การ “ซ่อมเฉพาะจุด” ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนกระจกใหม่ทั้งบาน

ประกันเคลมได้หรือไม่ ? กรณีที่ต้องการซ่อมกระจกรถยนต์ร้าว

เมื่อเกิดปัญหากระจกร้าวขึ้นมา แน่นอนว่าผู้ที่ทำประกันภัยรถยนต์เอาไว้ ย่อมอยากรู้ว่าจะสามารถเคลมได้หรือไม่ ? ซึ่งการซ่อมกระจกรถยนต์ก็ยังอยู่ในประกันภัยรถยนต์ เพียงแค่จะต้องมองในบริบทของความคุ้มครองของประกันที่ทำเอาไว้ ยกตัวอย่างเช่น

• กระจกร้าวจากหินกระเด็นใส่

กรณีนี้ถ้าไม่สามารถระบุรถยนต์ที่เหยียบหินจนกระเด็นมาใส่ได้ จะถือว่าเป็น “เคลมโดยไม่มีคู่กรณี” ซึ่งจะเป็นประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้นที่สามารถเคลมได้ ถ้าเป็นร่องรอยเล็ก ๆ ไม่ได้ใหญ่มาก สามารถใช้การ “เคลมแห้ง” เมื่อมีสะดวกเอารถเข้าซ่อมก็ได้เช่นเดียวกัน

• กระจกไฟฟ้าเสียหายกรณีน้ำท่วม

การซ่อมกระจกไฟฟ้ารถยนต์จากประกันภัยรถยนต์ ถ้าเป็นการเสียหายโดยทั่วไปไม่สามารถทำได้ แต่ถ้าเป็นกรณีที่ได้รับอุบัติเหตุจนเสียหาย สามารถเคลมได้ถ้าทำประกันชั้น 1 , ประกันชั้น 2+ และ ประกันชั้น 3+ และในกรณีที่ขับรถลุยน้ำท่วมโดยไม่ได้ตั้งใจ จนระบบกระจกไฟฟ้าเสียหาย ก็สามารถเคลมได้เมื่อทำประกันชั้น 1 ติดรถเอาไว้

• กระจกแตกร้าวจากอุบัติเหตุที่มีคู่กรณี

ถ้าเป็นอุบัติเหตุที่มีคู่กรณี ส่วนนี้ค่อนข้างเข้าใจได้ง่ายกว่ากรณีอื่น ๆ เพราะสามารถซ่อมกระจกรถยนต์ได้ 100% ถ้ากรณีที่เป็นฝ่ายถูก แล้วคู่กรณีก็ทำประกันภัยรถยนต์เอาไว้เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะทำประกันชั้นไหนก็ได้รับความคุ้มครอง แต่ถ้าเป็นฝ่ายผิดจะมีแค่ประกันชั้น 1 , 2+ และ 3+ เท่านั้นที่ให้ความคุ้มครอง

บทส่งท้าย

แม้เราจะบอกว่า การซ่อมกระจกรถยนต์ด้วยตนเอง นั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิดเอาไว้ แต่ก็ต้องอาศัยความเข้าใจในกระบวนการซ่อมแซมพอสมควร และควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพเท่านั้น และที่สำคัญที่สุดคือการมี “ประกันภัยรถยนต์” ติดรถเอาไว้ เพราะถ้าเป็นเคสที่ซ่อมแซมด้วยตนเองไม่ได้ จำเป็นต้องส่งเคลม ประกันภัยรถยนต์จะสามารถแบ่งหนักให้กลายเป็นเบาได้ ซึ่ง SILKSPAN พร้อมช่วยให้คุณพบกับประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะกับคุณ สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ตลอด 24 ชั่วโมง