
ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการ “ยกเลิกบัตรเครดิต” มี ผลดี และ ผลเสีย อย่างไรบ้าง

หากคุณกำลังถือบัตรเครดิตอยู่หลายใบ แล้วมีบางใบที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน หรือกรณีที่อยากจะยกเลิกบัตรเครดิตที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนไปใช้บัตรเครดิตจากสถาบันการเงินอื่น หรือ แค่อยากจะปิดบัตรเครดิตเพื่อลดภาระหนี้ คุณอาจกำลังเผชิญกับข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับ “การยกเลิกบัตรเครดิต” ว่าจะมีผลดีผลเสียอย่างไร ? จะส่งผลกระทบต่อเครดิตบูโรจริงไหม ? มีขั้นตอนการดำเนินการอย่างไรบ้าง ? ทุกข้อสงสัย ไปตามหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันในบทความนี้
การยกเลิกบัตรเครดิต คืออะไร ? ต้องแจ้งใคร ทำอย่างไร
การยกเลิกบัตรเครดิต หมายถึงการ “ปิดบัตรเครดิต” โดยถาวร เป็นการแจ้งกับสถาบันทางการเงินว่า เราไม่ต้องการใช้บัตรเครดิตใบนั้นอีกต่อไป ไม่ใช่แค่เพียงการหยุดใช้บัตรเท่านั้น เพราะในระบบจะยังถือว่าเรายังเป็นผู้ถือครองอยู่ การยกเลิกจะต้องเป็นตามขั้นตอนที่ถูกต้องเท่านั้น และจะต้องชำระยอดคงค้าง ที่เกิดขึ้นจากการใช้วงเงินบัตรเครดิตให้หมด จึงจะถือว่าเป็นการยกเลิกบัตรเครดิตอย่างสมบูรณ์
-
วิธีการยกเลิกบัตรเครดิตของแต่ละธนาคาร
แม้ขั้นตอนของแต่ละธนาคารจะแตกต่างกันอยู่บ้าง ทว่าโดยส่วนใหญ่แล้วการยกเลิกบัตรเครดิตนั้น มีขั้นตอนเหมือน ๆ กัน สามารถทำได้ทั้งการโทรไปที่เบอร์ของคอลเซ็นเตอร์ธนาคารนั้น ๆ บางธนาคารก็สามารถใช้แอปพลิเคชันเพื่อยกเลิกได้เลย แต่ถ้าให้ชัวร์สุด ๆ กรณีมีข้อสงสัยบางอย่างที่ต้องการสอบถามกับเจ้าหน้าที่ แนะนำให้เดินทางไปที่ธนาคารด้วยตนเองเลยจะเป็นการดีที่สุด
-
ยกเลิกทางโทรศัพท์หรือสาขา แบบไหนสะดวกกว่า ?
แน่นอนว่าการยกเลิกบัตรเครดิตทางโทรศัพท์ ย่อมเป็นวิธีการที่สะดวกรวดเร็วมากกว่าอยู่แล้ว เพียงโทรไปที่เบอร์คอลเซ็นเตอร์ของธนาคารที่สมัครบัตรเครดิตเอาไว้ แต่ในกรณีที่มีข้อสงสัย เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่อาจยังไม่ได้ใช้ หรือ สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับดอกเบี้ยต่าง ๆ อยากแนะนำให้เดินทางไปที่ธนาคารด้วยตนเอง จะเป็นการคลายข้อสงสัยได้มากกว่า สุดท้ายไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกด้วยวิธีไหน ต้องอย่าลืมขอ “เอกสารยืนยันการปิดบัญชี” เสมอ
ผลดีของการยกเลิกบัตรเครดิต มีอะไรบ้าง ?
-
ลดภาระหนี้ในอนาคต
หากคุณถือบัตรเครดิตอยู่หลายใบ หรือ เริ่มรู้ตัวว่าตนเองขาดวินัยในการใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิต มีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายเกินตัว แม้อาจจะดูเหมือนเป็นการตัดไฟแต่ต้นลมไปบ้าง แต่การยกเลิกบัตรเครดิตก็เป็นอีกหนึ่งวิธี ที่ช่วยลดภาระหนี้สินได้เป็นอย่างดี ช่วยให้คุมค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย
-
ไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรายปี
แม้ในปี 2568 การสมัครบัตรเครดิต KTC หรือ บัตรเครดิต UOB ส่วนใหญ่จะยังได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีอยู่ ไม่เหมือนกับบัตรเครดิตจากกสิกรที่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม แต่ถึงอย่างไรก็มีเงื่อนไขที่จะถูกยกเว้นค่าธรรมเนียมอยู่เสมอ อาทิเช่น การใช้จ่ายตามยอดขั้นต่ำที่กำหนด เป็นต้น
-
ปิดบัตรที่ไม่ใช้งานแล้ว ไม่เสี่ยงข้อมูลรั่วไหล
มิจฉาชีพทุกวันนี้ มีวิธีการที่น่ากลัวขึ้นเรื่อย ๆ แม้เราจะพยายามระแวดระวังเพียงใด ก็ยังมีข่าวเกี่ยวกับการถูกดูดเงินจากบัญชี หรือ การตัดเงินจากบัตรเครดิตที่ไม่ได้ใช้ ออกมาอยู่ตลอด เพราะฉะนั้นหากมีบัตรหลายใบ การยกเลิกบัตรเครดิตที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว จึงเป็นการลดความเสี่ยงที่จะถูกเล่นงานโดยมิจฉาชีพได้

ยกเลิกบัตรเครดิต มีผลเสียอะไรบ้าง ?
-
กระทบเครดิตบูโรจริงไหม ?
มีความเชื่อผิด ๆ ว่าการยกเลิกบัตรเครดิต ส่งผลเสียอย่างร้ายแรงต่อเครดิตบูโร ซึ่งจริง ๆ แล้วส่งผลเพียงนิดเดียวเท่านั้น แถมไม่ได้ทำให้คุณเสียเครดิตแต่อย่างใด เพียงแค่ข้อมูลการชำระเงินอย่างสม่ำเสมออาจจะลดน้อยลง เพราะคุณยกเลิกบัตรเครดิตไปแล้ว อาจทำให้คะแนนความน่าเชื่อถือลดลงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอะไร
-
วงเงินเครดิตลด อาจมีผลต่อการกู้ในอนาคต
สอดคล้องกับผลกระทบที่เกิดกับเครดิตบูโร การยกเลิกบัตรเครดิต
-
ยกเลิกผิดเวลา อาจเสียสิทธิพิเศษหรือแต้มสะสม
ในบัตรเครดิตประเภทที่มี โปรโมชัน , เครดิตเงินคืน หรือ การสะสมแต้มต่าง ๆ ควรมีการตรวจสอบสิทธิ์ที่กำลังจะได้รับ ก่อนตัดสินใจยกเลิกบัตรเครดิต เพราะในบางกรณีหากคุณรีบร้อนยกเลิกบัตรทิ้งไปเลย คุณก็จะอดรับสิทธิพิเศษเหล่านั้นไปโดยปริยาย นับว่าเป็นการตัดสินใจที่เสียของโดยเปล่าประโยชน์
ควรยกเลิกบัตรเครดิตตอนไหนดีที่สุด ?
จากทั้ง “ผลดี” และ “ผลเสีย” ของการยกเลิกบัตรเครดิต ทำให้รู้ว่านี่คือการตัดสินใจครั้งสำคัญ ไม่ใช่เรื่องที่จะมาตัดสินใจกันแบบปุบปับได้ เพื่อเป็นการแนะนำสำหรับผู้ที่กำลังสองจิตสองใจ ว่าจะยกเลิกบัตรเครดิตดีไหม เรามีช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการยกเลิกบัตรมาฝาก ดังนี้
-
เมื่อไม่ได้ใช้งานและไม่มีภาระค้างจ่าย
ในกรณีที่คุณมีบัตรเครดิตแต่ไม่ค่อยได้นำไปใช้จ่ายสักเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะคุณไม่มีของที่อยากได้ ไม่สนใจสิทธิประโยชน์ที่ได้จากบัตร หรืออาจจะมีบัตรหลายใบ กรณีนี้แนะนำให้ยกเลิกบัตรที่ใช้น้อยที่สุด หรือแทบจะไม่ได้ใช้เลย เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียค่าธรรมเนียม พร้อมกับเป็นการจัดระเบียบด้านการเงินให้ตนเองไปในตัวอีกด้วย
-
ก่อนถึงรอบเรียกเก็บค่าธรรมเนียมปีถัดไป
หากคุณถือบัตรเครดิตที่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมรายปีไปแล้ว เพื่อไม่ให้เงินที่เสียไปนั้นสูญเปล่า แนะนำให้ยกเลิกบัตรเครดิตในช่วงก่อนจะถึงการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมครั้งต่อไป ยกตัวอย่างเช่น คุณได้สมัครบัตรเครดิต KTC เอาไว้ และมีการเสียค่าธรรมเนียมไปแล้วในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ก็แนะนำให้เลือกยกเลิกบัตรในช่วงเดือนเมษายน ในปีถัดไป
บทส่งท้าย
สรุปได้เลยว่า การยกเลิกบัตรเครดิตนั้นไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เพราะมีทั้ง ผลดี และ ผลเสีย ที่จะตามมา ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจยกเลิก ควรต้องประเมินความจำเป็นของการใช้บัตรเครดิตให้ถี่ถ้วนเสียก่อน หากยังใช้งานอยู่เป็นประจำ โดยไม่มีภาระหนี้สินที่เกินกำลัง หรือ รู้สึกพึงพอใจกับสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากบัตรเครดิต ก็ยังไม่จำเป็นจะต้องยกเลิกบัตรแต่อย่างใด ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความจำเป็นของแต่ละบุคคล