เบี้ยดีโดนใจ ประกันภัยชั้น 1 เบี้ยเริ่ม 750 บาท/เดือน พิเศษรับส่วนลดสูงสุด 30% เช็กเบี้ยที่นี่ กับ SILKSPAN

ตรอ. คืออะไร? ต้องเตรียมตัวก่อนตรวจสภาพอย่างไรบ้าง


ตรอ.

การตรวจสภาพรถยนต์เป็นขั้นตอนสำคัญที่เจ้าของรถทุกคนจำเป็นต้องทำ เพื่อให้รถอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ ซึ่งนอกจากการตรวจสภาพรถยนต์ตามระยะแล้ว ยังมีการตรวจสภาพตามข้อกฎหมายเพื่อต่อภาษีหรือ พ.ร.บ. ด้วย ซึ่งมักจะเรียกกันว่า ตรอ. หรือตรวจสภาพรถยนต์เอกชน ปัจจุบันมีสถานตรวจสภาพรถเอกชนเปิดให้บริการทั่วประเทศ เช่น ตรอ. นวมินทร์ และ ตรอ. ราชพฤกษ์ ที่ให้บริการตรวจสภาพทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์อย่างครบวงจร แต่การตรวจ ตรอ. จะมีข้อควรรู้ และต้องเตรียมความพร้อมอย่างไรบ้าง ในบทความนี้มีข้อมูลสำคัญมาบอกให้ทุกท่านได้ทราบกัน 


Key Takeaways

  • รถที่ต้องตรวจ ตรอ. คือรถจักรยานยนต์ อายุ 5 ปีขึ้นไป และรถยนต์ (นั่งส่วนบุคคล/บรรทุกส่วนบุคคล) อายุ 7 ปีขึ้นไป การตรวจต้องทำล่วงหน้าไม่เกิน 3 เดือน ก่อนวันหมดอายุภาษีประจำปี
  • สิ่งที่ต้องเตรียมในการตรวจ ตรอ. คือสมุดคู่มือจดทะเบียนรถตัวจริงหรือสำเนา และค่าธรรมเนียม (มอเตอร์ไซค์ 60 บาท, รถยนต์ไม่เกิน 1,600 กก. 150 บาท, รถยนต์เกิน 1,600 กก. 250 บาท)
  • รถที่ดัดแปลงสภาพผิดจากเดิม ขาดต่อทะเบียนเกิน 1 ปี หรือมีปัญหาตัวเลขเครื่องยนต์ จะไม่สามารถตรวจสภาพที่ ตรอ. ได้ ต้องนำไปตรวจที่กรมขนส่งฯ เท่านั้น
  • หากตรวจ ตรอ. ไม่ผ่าน สามารถนำรถไปแก้ไขข้อบกพร่อง (เช่น ควันดำ, ระบบเบรก) และกลับมาตรวจซ้ำที่ ตรอ. เดิมได้ ภายใน 15 วัน โดยเสียค่าบริการเพียงครึ่งเดียว

ตรอ. คืออะไร

ตรอ คือ

ตรอ. คือสถานตรวจสภาพรถเอกชน หรือ ตรอ. เอกชน เป็นสถานที่ของเอกชนที่กรมการขนส่งทางบกอนุญาตให้ใช้เป็นสถานที่ตรวจสภาพรถ โดยการตรวจจะเป็นการตรวจสภาพรถยนต์ว่ามีความพร้อมใช้งานตามระเบียบข้อบังคับของทางกรมขนส่งหรือไม่ เพื่อใช้เป็นข้อมูลก่อนต่อ พ.ร.บ. รถยนต์

ข้อดีของ ตรอ. เอกชน คือช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ โดยเฉพาะผู้ที่ใช้รถจักรยานยนต์สามารถเข้ารับการตรวจสภาพได้ที่ ตรอ. มอไซค์ใกล้บ้าน ซึ่งมีหลายแห่งให้บริการตรวจสภาพรถครบทุกประเภททั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปกรมการขนส่ง ซึ่งการตรวจสภาพรถต้องทำล่วงหน้าไม่เกิน 3 เดือนก่อนวันหมดอายุภาษีประจำปี


รถอายุกี่ปีต้องตรวจ ตรอ.

พระราชบัญญัติกรมการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 และพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 กำหนดว่ารถที่จะนำมาขับขี่ต้องอยู่ในสภาพที่มั่นคง แข็งแรง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยกำหนดให้รถที่อยู่ในเกณฑ์ต่อไปนี้ต้องตรวจสภาพรถก่อนต่อภาษีประจำปี

  • รถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ที่อายุใช้งานตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป
  • รถยนต์ส่วนบุคคลเกิน 7 คน ที่อายุใช้งานตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป
  • รถบรรทุกส่วนบุคคลที่อายุใช้งานตั้งแต่ 7 ปี ขึ้นไป
  • รถจักรยานยนต์ที่อายุใช้งานตั้งแต่ 5 ปี ขึ้นไป

รถแบบไหนที่ตรวจ ตรอ. ไม่ได้บ้าง

แม้ว่า ตรอ. จะเป็นทางเลือกที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องต่อภาษีรถยนต์ แต่ก็มีข้อจำกัดสำหรับรถบางประเภทที่ผู้ใช้ต้องนำเข้าไปตรวจสภาพที่กรมขนส่งเท่านั้น โดยรถที่ไม่สามารถตรวจสภาพที่ ตรอ. ได้ มีดังนี้

  • รถยนต์ที่ผ่านการดัดแปลงสภาพผิดจากเดิมที่จดทะเบียน เช่น เปลี่ยนสี หรือดัดแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งของรถ
  • รถที่ขาดต่อทะเบียนเกินกว่า 1 ปี
  • รถที่ใช้ LPG หรือ NGV ที่ยังไม่มีการตรวจสภาพก๊าซและอุปกรณ์ควบมาก่อนตรวจ ตรอ.
  • รถที่มีปัญหาตัวเลขเครื่องยนต์ เช่น ตัวเลขเลือน ตัวเลขถูกขูด หรือมีการเแก้ไขตัวเลข

ตรอ. ตรวจอะไรบ้าง

ตรอ. ตรวจอะไรบ้าง

การตรวจ ตรอ. มีรายละเอียดที่ต้องตรวจสอบในหลายด้านเพื่อให้มั่นใจว่ารถยนต์จะมีประสิทธิภาพในการใช้งาน และมีความปลอดภัยในระหว่างขับขี่ โดยสิ่งที่ ตรอ. ต้องทำการตรวจมีดังนี้

  •       ตรวจความถูกต้องของข้อมูลรถ เช่น ทะเบียนรถ, ลักษณะรถ, แบบรถ, สีรถ, หมายเลขตัวรถ, ชนิดเครื่องยนต์ และชนิดเชื้อเพลิง
  •       ตรวจใต้ท้องรถ เพื่อเป็นการตรวจสอบระบบบังคับเลี้ยว, เครื่องยนต์, ระบบไอเสีย, ระบบเชื้อเพลิง, และระบบเบรก
  •       ตรวจสภาพภายในและภายนอก เช่น ตัวถัง, เข็มขัดนิรภัย, ระบบไฟ, พวงมาลัย และที่ปัดน้ำฝน
  •       ตรวจสอบประสิทธิภาพของเบรกโดยการทดสอบบนลูกกลิ้ง
  •       ตรวจสอบระบบไฟหน้า โดยวัดจากทิศทางเบี่ยงเบนและความเข้มของแสงไฟ
  •       ตรวจวัดค่าก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์และก๊าซไฮโดรคาร์บอน
  •       ตรวจควันดำในเครื่องยนต์ดีเซลโดยใช้กระดาษกรองต้องไม่เกิน 50% ความทึบแสงไม่เกิน 45%
  •       ตรวจวัดเสียง ความดังต้องไม่เกิน 100 เดซิเบล 

ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือจักรยานยนต์ ทุกคันต้องผ่านขั้นตอนการตรวจตามมาตรฐาน เช่นเดียวกับที่ ตรอ. ทั่วประเทศใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ขับขี่


เตรียมเอกสารตรวจ ตรอ. มีอะไรบ้าง

ก่อนเข้าตรวจสภาพรถยนต์ ตรอ. เจ้าของรถจำเป็นต้องเตรียมความพร้อม เพื่อให้ขั้นตอนการตรวจและการต่อภาษีเป็นไปอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางหลายรอบ โดยเอกสารที่ต้องใช้ในการตรวจสภาพรถมีดังนี้

เอกสารที่ต้องเตรียมก่อนตรวจ ตรอ.

  • เล่มทะเบียนรถ (ตัวจริง) ใช้สำหรับตรวจสอบข้อมูลรถ เช่น เลขตัวถัง สีรถ และชนิดเครื่องยนต์
  • สำเนาบัตรประชาชนเจ้าของรถ เพื่อยืนยันตัวตนในการเข้ารับบริการ
  • ใบรับรองการตรวจสภาพรถ (กรณีตรวจซ้ำ) ใช้เมื่อกลับมาตรวจใหม่หลังจากไม่ผ่านการตรวจในครั้งก่อน
  • เอกสารโอนรถ (ถ้าหากมีการเปลี่ยนเจ้าของ) ควรดำเนินการให้เรียบร้อยก่อนเข้าตรวจ เพื่อป้องกันความล่าช้าในการต่อภาษีหรือ ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์

เมื่อผ่านการตรวจตามเกณฑ์แล้ว เจ้าของรถจะได้รับ ใบรับรองการตรวจสภาพรถยนต์ ตามแบบที่กรมขนส่งทางบกกำหนด ซึ่งมีอายุใช้งาน 3 เดือน และสามารถใช้ใบรับรองนี้ในการต่อภาษีและต่อ พ.ร.บ. ได้ทันที


ตรอ. ตรวจสภาพรถ ราคาเท่าไร

ตรอ. ราคา

การตรวจสภาพรถยนต์ ตรอ. มีการคิดอัตราค่าบริการที่ต้องรู้ โดยการตรวจสภาพรถ ตรอ. ราคาที่คิดจะแบ่งตามประเภทของยานพาหนะในอัตราที่เท่ากันทั่วประเทศ ดังนี้

  •       รถจักรยานยนต์ อัตราค่าตรวจสภาพคันละ 60 บาท
  •       รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม อัตราค่าตรวจสภาพคันละ 150 บาท
  •       รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม อัตราค่าตรวจสภาพคันละ 250 บาท

ตรวจ ตรอ. ไม่ผ่าน ต้องทำยังไง

การตรวจสภาพรถที่ ตรอ. มีกรณีที่ไม่ผ่านเกณฑ์ได้เช่นกัน แต่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลจนเกินไป เพราะทาง ตรอ. จะมีลิสต์รายการที่เป็นข้อบกพร่องของรถยนต์ให้ได้ทราบ ซึ่งสาเหตุที่พบบ่อยคือควันดำ ระบบเบรกทำงานไม่สมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม หากทำการแก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าวแล้ว สามารถกลับไปตรวจสภาพรถที่ ตรอ. แห่งเดิมได้ภายใน 15 วัน ซึ่งจะเสียค่าบริการเพียงครึ่งเดียว แต่หากเกินกว่า 15 วัน จะต้องชำระเต็มจำนวน


 

ลูกค้าธนชาต ทำประกันรถ1 และ2+ รับฟรี voucher lotus ที่ SILKSPAN


ตรอ. ขั้นตอนสำคัญก่อนต่อ พ.ร.บ. รถยนต์

การตรวจสภาพรถยนต์ ตรอ. เป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญสำหรับคนที่มีรถยนต์อายุตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป เพราะเป็นรายละเอียดที่ใช้ในการยืนยันสภาพรถและความปลอดภัยในการใช้งาน เพื่อใช้ในการต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ และยังช่วยให้เจ้าของรถมั่นใจได้ว่ารถยนต์ของคุณอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน นอกจากนี้หากมีการตรวจสภาพควบคู่ไปกับการทำประกันรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันรถยนต์ 2+ หรือประกันรถยนต์ 3+  ก็ยิ่งเพิ่มความมั่นใจในทุกการขับขี่ให้มากขึ้นด้วย

สำหรับท่านที่มองหากประกันภัยสำหรับรถยนต์ สามารถเปรียบเทียบค่าเบี้ยประกันและความคุ้มครองได้ที่ SILKSPAN 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ตรอ.

เพื่อไขข้อสงสัยเกี่ยวกับ ตรอ. ต่อไปนี้คือคำถามที่พบบ่อยพร้อมคำตอบที่เรารวบรวมมาตอบให้ได้ทราบกัน

ตรอ. ย่อมาจากคำว่าอะไร

ตรอ. ย่อมาจาก ตรวจสภาพรถเอกชน เป็นสถานที่ที่ได้รับอนุญาตจากกรมขนส่งทางบก เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องการตรวจสภาพรถยนต์โดยไม่ต้องเดินทางไปยังกรมขนส่ง

ตรอ. รับทําอะไรบ้าง

ตรอ. ทำหน้าที่ตรวจสภาพรถยนต์และรถจักรยานยนต์ โดยการตรวจสภาพรถจะเป็นไปตามข้อกำหนดของกรมขนส่งทางบก เช่น ตรวจสภาพรถภายในและภายนอก ตรวจระบบเบรก อุปกรณ์ไฟฟ้า ตรวจสอบสีรถ ระบบไฟส่องสว่าง เป็นต้น 

ตรวจ ตรอ. ใช้เวลานานไหม

การตรวจสภาพรถ ตรอ. ใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที ส่วนใหญ่จะไม่ถึง 1 ชั่วโมง รวมขั้นตอนตั้งแต่การเริ่มยื่นเอกสาร ตรวจสภาพ และการรับใบรับรองการตรวจ


เขียนโดย : SILKSPAN ADVISOR
เผยแพร่วันที่ : 23/09/2025
รับข้อเสนอพิเศษ

จองสิทธิ์ประกันรถยนต์

ประกันรถยนต์ รับส่วนลดสูงสุด 30% กว่า 20 บริษัทชั้นนำ

  1. ต่ออายุล่วงหน้า รับส่วนลดเพิ่ม สูงสุดกว่า 500 บาท
  2. ผ่อนบัตรเครดิต ผ่อนเงินสด ได้สูงสุด 10 เดือน
  3. ฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม.
  4. ฟรีรถใช้ระหว่างซ่อม หรือ เบิกค่าเดินทาง 1,000 บาท

กรอกข้อมูล เพื่อ “รับข้อเสนอพิเศษ” ต่อประกันรถยนต์

taff-call
“เช็คเบี้ยประกันรถฟรี 24 ชม.”
line

กำลังโหลด