ประกันชั้น 1

RT-PCR กับ Rapid Test แตกต่างกันอย่างไร ?


RT-PCR กับ Rapid Test แตกต่างกันอย่างไร ?

ในปัจจุบันการตรวจหาเชื้อโควิด-19 สามารถทำได้หลากหลายวิธี ทั้งแบบ RT-PCR และ Rapid Test ซึ่งทั้งสองวิธีต่างออกแบบมาเพื่อใช้งานสำหรับการตรวจหาเชื้อทั้งคู่ แต่มีข้อแตกต่างกันอย่างไรลองมาทำความเข้าใจกัน

 

การตรวจแบบ RT-PCR และ Rapid Test ต่างกันอย่างไร

RT-PCR

หรือ ที่ย่อมาจาก Real-Time Polymerase Chain Reaction จะเป็นการ Swab เก็บตัวอย่างเชื้อที่บริเวณลำคอ และหลังโพรงจมูก ทราบผลในเวลาประมาณ 24-48 ชั่วโมง มีความแม่นยำสูงและเป็นการตรวจที่แนะนำจาก WHO สามารถตรวจหาเชื้อในปริมาณที่น้อยได้ เนื่องจากการตรวจแบบ RT-PCR เป็นการตรวจที่ต้องใช้ห้องปฏิบัติการเฉพาะทาง จึงจำเป็นต้องรับการตรวจโดยผู้เชี่ยวชาญจากสถานพยาบาลหรือสถานที่ที่รับตรวจโดยเฉพาะ

 

Rapid Test

เป็นการตรวจเชื้อโควิด-19 ผ่านการเก็บตัวอย่างเชื้อที่บริเวณลำคอ หลังโพรงจมูก โพรงจมูก น้ำลาย หรือเลือด บางชนิดสามารถทำเองได้ เช่น วิธีการตรวจแบบ Rapid Antigen Test สะดวกและใช้ระยะเวลาน้อยกว่าแบบ RT-PCR ใช้เวลาตรวจและรอผลประมาณ 10-30 นาที แต่เป็นการตรวจที่เหมาะสำหรับการคัดกรองเบื้องต้นเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะไม่แม่นยำมากแต่เป็นวิธีการที่เหมาะสมสำหรับการตรวจผู้ที่สงสัยว่าติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ เพื่อลดปัญหาการแออัดและการรอคิวจากการรอตรวจแบบ RT-PCR ที่ต้องเดินทางไปตรวจสถานที่เฉพาะ

 

Rapid Test มีกี่ชนิด ?

ปัจจุบันในประเทศไทย Rapid Test จะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ

Rapid Antibody Test

1. Rapid Antibody Test

เป็นการตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยการเจาะเลือดที่ปลายนิ้วหรือท้องแขน สำหรับวิธีนี้ผู้ตรวจจะต้องได้รับเชื้อมาแล้วเป็นเวลาประมาณ 10 วันขึ้นไป วิธีการนี้มีโอกาสคลาดเคลื่อนสูง เพราะการตรวจภูมิคุ้มกันอาจไม่ได้มาจากการติดเชื้อเพียงอย่างเดียว แต่อาจมาจากการฉีดวัคซีนป้องกันหรือเป็นผู้ป่วยโควิด-19 ที่หายป่วยแล้วก็สามารถตรวจพบด้วยวิธีนี้ได้ Rapid Antibody Test Kit ปัจจุบันในไทยอนุญาตให้ใช้ได้แค่ในสถานพยาบาล เนื่องด้วยเหตุผลที่มีโอกาสคลาดเคลื่อนสูง และอาจเกิดการติดเชื้อจากการเจาะเลือดโดยผิดวิธี จึงจำเป็นต้องใช้งานโดยผู้ชำนาญการเท่านั้น

 

Rapid Antigen Test

2. Rapid Antigen Test

เป็นการตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยการเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งที่บริเวณจมูกลึกถึงคอ บริเวณลำคอ โพรงจมูก หรือน้ำลาย ซึ่งขึ้นอยู่กับการเก็บตัวอย่างของชุดการตรวจนั้นๆ สำหรับวิธีนี้ผู้ตรวจจะต้องได้รับเชื้อมาแล้วเป็นเวลาประมาณ 5-14 วันจึงจะให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำขึ้น วิธีการนี้จะต้องมีการเก็บตัวอย่างในจำนวนตามที่กำหนด หากมีจำนวนที่น้อยกว่าอาจตรวจไม่พบเชื้อ อย่างไรก็ตามหากตรวจพบเชื้อหรือเป็นผู้มีความเสี่ยงสูงควรตรวจแบบ RT-PCR ใหม่อีกครั้งเพื่อความมั่นใจ

 

ประกันรถยนต์ชั้น 1 เบี้ยเริ่มต้นที่ 750 บาท

 

Rapid Antigen Test Kit ในประเทศมีแบบไหนบ้าง?

ในปัจจุบันมีชุดตรวจจำหน่ายทั้งแบบ swab test และ ตรวจโดยน้ำลาย โดยชุดตรวจทั้งหมดจำเป็นที่จะต้องซื้อจากร้านขายยาหรือสถานที่เฉพาะเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันมีวิธีการตรวจได้ 3 แบบ ได้แก่

Rapid Antigen Test Kit

1. Nasopharyngeal Swab

ชุดตรวจตัวอย่างที่เยื่อบุด้านหลังโพรงจมูก ชุดตรวจประเภทนี้ก้านไม้สำหรับทำการ swab test ที่มาในชุดตรวจจะค่อนข้างยาวสำหรับการแยงเข้าไปในโพรงจมูก ใส่จนรู้สึกว่าชนกับส่วนหลังของโพรงจมูกเพื่อเก็บสารตัวอย่าง

2. Nasal Swab

ชุดตรวจตัวอย่างที่เยื่อบุโพรงจมูกด้านหน้า ชุดตรวจประเภทนี้ก้านไม้สำหรับการทำ swab test จะค่อนข้างสั้นเพื่อเก็บตัวอย่างภายในโพรงจมูกเท่านั้น ความลึกนั้นขึ้นอยู่ตามคำแนะนำการใช้ของแต่ละชุดตรวจ เช่น แยงเข้าไปให้ลึก 2.5 ซม. หรือ 1 นิ้ว เป็นต้น

3. Colloidal Gold Immunochromatography

ชุดตรวจตัวอย่างด้วยน้ำลาย ชุดตรวจประเภทนี้ใช้การตรวจจากการเก็บตัวอย่างน้ำลายประมาณ 5 mL. ในอุปกรณ์ตรวจเพื่อผสมกับน้ำยาตามคำแนะนำการใช้งาน โดยวิธีนี้ใช้เวลาเพื่อรอผลตรวจประมาณ 10 นาทีเท่านั้น

 

ชุดตรวจที่ใช้แล้วทำการทิ้งอย่างไร?

เมื่อใช้ชุดตรวจเสร็จเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าจะไม่มีการตรวจพบเชื้อโควิด-19 ก็ตาม ก็ควรกำจัดชุดตรวจให้ถูกต้องเพื่อความปลอดภัย ทำได้ง่ายๆ 3 ขั้นตอน

  1. แยกทิ้งชุดตรวจที่ใช้เสร็จแล้วใส่ถุงพลาสติกและระบุว่าเป็นขยะติดเชื้อ
  2. ราดหรือฉีด ด้วยแอลกอฮอล์ / น้ำยาฆ่าเชื้อ / สารฟอกขาว เพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อนจะปิดหรือมัดถุงให้สนิท
  3. ทิ้งถุงขยะโดยทิ้งแยกจากขยะทั่วไปเพื่อนำไปกำจัดให้ถูกต้องตามวิธี

อย่างไรก็ตามการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วย Rapid Antigen Test Kit ใช้สำหรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยเบื้องต้นเท่านั้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงและอาจไม่แสดงอาการ ใช้เพื่อลดความแออัดในการเดินทางไปตรวจด้วยวิธี RT-PCR แต่ถ้าหากตรวจพบเชื้อหรือมีความเสี่ยงสูงหรือมีอาการที่บ่งบอกถึงการติดเชื้อควรดำเนินการตรวจด้วยวิธี RT-PCR อีกครั้งเพื่อแม่นยำและเพื่อที่จะได้รับการรักษาที่ถูกต้องให้ทันท่วงที


เขียนโดย : SILKSPAN ADVISOR
เผยแพร่วันที่ : 15/08/2021
โปรโมชั่นแนะนำ
“เช็คเบี้ยกับเราซิคะ”