การันตีเช็กเบี้ยประกันรถถูกลง 30%

รถยางแตก เคลมประกันได้มั้ย


รถยางแตก เคลมประกันได้มั้ย

รถยางแตกมักเกิดขึ้นจากอะไรบ้าง?

รถยางแตกเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเกิดจากการเสื่อมสภาพของล้อรถยนต์ และเกิดการแตกจากปัจจัยภายนอก

1.รถยางแตก เพราะ ล้อยางเสื่อมสภาพ

ยางรถยนต์มีอายุการใช้โดยทั่วไปอยู่ 4-5 ปีโดยเริ่มนับจากวันที่เริ่มใช้งาน แต่โดยทั่วไปมักจะมีคำแนะนำให้ทำการเปลี่ยนยางรถยนต์ทุกๆ 3-4 ปี หรือเมื่อเดินทางได้ครบ 50,000 กิโลเมตร เมื่อครบเวลาการใช้งานของยางรถยนต์ก็แนะนำว่าควรทำการเปลี่ยนยางรถยนต์เพื่อป้องกันรถยางแตก แต่ในบางครั้งยางรถยนต์ที่มีการเก็บที่ไม่ได้มาตรฐานก็อาจจะทำให้ยางรถยนต์เกิดการเสื่อมสภาพได้เร็วยิ่งขึ้นเช่นกัน

2.การสูบลมที่มากไป หรือน้อยไปทำให้รถยางแตก

การที่ยางรถยนต์มีการสูบลมยางได้ไม่สมดุล มีการสูบที่มากเกินไป หรือน้อยเกินก็จะทำให้ยางไม่ได้อยู่ในสภาพที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งมีการขับขี่บนพื้นถนนที่ไม่ได้มาตรฐานก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ยางรถยนต์แตกได้

3.วิ่งด้วยความเร็วที่เกิดกำหนดเป็นสาเหตุให้รถยางแตก

ยางรถยนต์ทุกเส้นจะมีสัญลักษณ์ที่ระบุว่าสามารถรับความเร็วได้เท่าไหร่ ควรขับขี่ในความเร็วยางรถยนต์สามารถรองรับได้ ถ้าหากขับขี่ในความเร็วที่เกินกำหนด ก็อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ยางรถยนต์เกิดการระเบิด หรือทำให้รถยางแตกได้เช่นกัน

4.บรรทุกน้ำหนักเกินเกณฑ์ ทำให้รถยางแตก

การบรรทุกน้ำหนักในปริมาณที่มากเกินไป ก็จะทำให้ล้อรถยนต์บรรทุกน้ำหนักได้มากเกิดขีดจำกัด ผสมกับถ้ามีสภาพพื้นผิวถนนที่ไม่ดี รวมไปถึงปัจจัยภายนอกอื่นๆ เช่น ความเร็ว หรือสภาพของยางรถ ก็จะยิ่งเป็นผลให้ยางรถแตกได้ง่ายขึ้นเช่นกัน

5.ใช้ยางไม่ถูกไซส์ อาจทำให้รถยางแตก

การเลือกใช้ยางที่ไม่ถูกไซส์ เช่นการเลือกใช้ยางขนาดใหญ่ แต่งล้อล้น หรือเป็นการเรื่องใช้ยางรถยนนต์ผิดประเภทกับการใช้งาน การใช้งานแบบนี้ก็อาจจะทำให้มีโอกาสที่ทำให้รถยางแตกขึ้นได้เช่นกัน

6.การเลือกใช้ยางที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้รถยางแตก

การเลือกใช้ยางรถยนต์ที่เก่า อาจทำการซื้อต่อยางรถต่อมา หรือเป็นยางรถมือสอง เพื่อเป็นการประหยัดเงิน อาจจะต้องเลือกยางรถยนต์ที่มีคุณภาพ ได้ผ่านการตรวจมาตรฐานการใช้งานเรียบร้อยแล้ว ไม่แนะนำให้เลือกใช้ยางรถยนต์ที่เสื่อมคุณภาพ ซึ่งก็อาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รถยางแตกได้

 

ต้องทำอย่างไร เมื่อรถยางแตกต้องทำอย่างไร

เมื่อรู้สึกได้ว่ารถของคุณกำลังยางแตก อาจจะสามารถรู้สึกได้จากเสียงระเบิดของยาง การสั่นของตัวรถยนต์ และความฝืดที่พวงมาลัยในขณะที่คุณกำลังขับรถยนต์อยู่ เราควรจะต้องรับมือกับเหตุการณ์อย่างไร

1.ตั้งสติ และจับพวงมาลัย

เมื่อเกิดเหตุการณ์รถยางแตก อันดับแรกจะต้องตั้งสติให้ได้ และทำการจับพวงมาลัยรถให้มั่นคง ไม่ปล่อยให้พวงมาลัยหมุนอย่างไร้ทิศทาง ป้องกันไม่ให้รถเกิดการหมุนคว้างพลิกคว่ำ

2.ห้ามเหยียบเบรคทันที

การเหยียบเบรคแบบทันที หรือเบรคแบบกระทันหัน อาจทำให้รถเสียหลัก และพลิกคว่ำได้ ซึ่งการเบรคแรงๆ นี้อาจทำให้เบรค ABS ทำงานโดยไม่จำเป็น และเกิดการเสื่อมเร็วขึ้นกว่าปกติ

3.ประคองรถเข้าข้างทาง

ถ้าหากรถกำลังแล่นด้วยความเร็วให้ให้ค่อยๆ ทำการชะลอความเร็ว  และค่อยๆทำการประคองรถเข้าสูข้างทาง

4.เปิดไฟฉุกเฉิน และติดต่อขอความช่วยเหลือ

ในขณะที่กำลังจอดอยู่ข้างทางเพื่อทำการติดต่อขอความช่วยเหลือ หรือจะเป็นในช่วงจังหวะที่ทำการชะลอเพื่อเข้าสู่ข้างทางก็ใช้วิธีการเปิดไฟฉุกเฉินเป็นเป็นสัญญาณแจ้งให้คันข้างหลังรู้ว่ารถยนต์ของคุณมีปัญหา เพื่อให้รถยนต์คันข้างหลังทำการระมัดระวังในการขับตามท้าย หรือทำการแซงอย่างระมัดระวัง

ประกันรถยนต์ชั้น 1 เริ่มต้นเพียง 750

ประกันชั้น 1 เคลมได้แต่แค่ 50%

บางคนคิดว่าทำประกันรถยนต์ชั้น1 ก็ต้องเคลมได้ทุกอย่างแน่นอน แต่เรื่องของยางบางกรณีนั้นมีรายละเอียดมากกว่านั้น

ในกรณีที่รถของคุณทำประกันชั้น 1 เมื่อยางแตกโดยเกิดจากอุบัติเหตุ เช่น รถตกหลุม เบียดฟุตบาท เหยียบตะปู คุณสามารถเคลมประกันได้ แต่ประกันจะรับผิดชอบแค่ 50% เท่านั้นเพราะมีค่าเสื่อมของยาง เว้นแต่คุณจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าเพิ่งเปลี่ยนยางไป

แต่ถ้าหากว่าขับรถปกติ อยู่ๆ ยางก็แตกเอง หรือไปเหยียบตะปูเข้า ประกันจะรับผิดชอบเฉพาะส่วนของตัวรถที่เสียหายเท่านั้น ไม่สามารถเคลมยางรถได้เพราะถือว่าเกิดจากการเสื่อมสภาพของยางเอง

อีกกรณีคือ ถ้าหากคุณขับรถไปเหยียบตะปูหรือหินจนทำให้ยางฉีกขาด จนทำให้ล้อแม็กคดก็สามารถเคลมประกันได้เช่นกัน แต่ทางบริษัทประกันจะทำการตรวจสอบว่าล้อแม็กที่คดนั้นเกิดจากการไปเหยียบตะปูหรือหิน หรือผู้ขับจงใจขับรถที่ยางแตกไปเรื่อยๆ จนทำให้ล้อแม็กเสียหาย ถ้าเป็นด้วยเหตุผลแรก และล้อแม็กยังเป็นล้อเดิมที่ออกจากโรงงานบริษัทประกันจะให้ความคุ้มครองล้อแม็กเต็มราคา แต่ถ้าหากเป็นเพราะเหตุอย่างหลัง บริษัทประกันก็จะไม่รับเคลม

 

แล้วประกันชั้นอื่นๆ เคลมได้มั้ย?

สำหรับรถที่มีประกันรถยนต์ชั้นอื่นๆ เช่น ชั้น 2+ และ 3+ ให้ความคุ้มครองรถในเฉพาะกรณีรถชนรถเท่านั้น ส่วนประกันชั้น 2 และ 3 ประกันจะไม่คุ้มครองเรื่องของยางรถยนต์เลย

 

 


เขียนโดย : SILKSPAN ADVISOR & ECOMONEY
เผยแพร่วันที่ : 07/11/2023
โปรโมชั่นแนะนำ
“เช็กเบี้ยประกันรถ เซฟกว่าเดิม 30%”

กำลังโหลด