ขาดต่อประกันอยู่หรือไม่ ต่อประกันกับ SILKSPAN ลุ้นรับ voucher จาก BigC มูลค่า 100 บาท

ประกันเปิดปิด ใช้รถเท่าไหร่ จ่ายเท่านั้น


ประกันเปิดปิด

        หลายคนอาจยังไม่รู้จักกับประกันเปิดปิดว่าคืออะไร แต่ต้องบอกก่อนเลยว่าการทำประกันรถยนต์สำหรับคนมีรถคงเป็นเรื่องเรื่องใกล้ตัวที่หนีกันไม่พ้น สำหรับผู้ที่มีรถยนต์ รักรถยนต์ และต้องการจะเพิ่มความป้องกันให้แก่รถยนต์ของคุณด้วยการซื้อประกันรถยนต์ภาคสมัครใจให้กับรถยนต์ของคุณเพื่อให้ได้รับความคุ้มครองที่เพิ่มมากขึ้นมาจากประกันภาคบังคับที่อาจจะยังให้การคุ้มครองไม่ครอบคลุมในบางกรณี ที่เจ้าของรถยนต์ต้องการความปกป้อง คุ้มครองรถยนต์เพิ่มมากขึ้น โดยทั่วไปทุกคนมักจะรู้จักกับประกันภัยรถยนต์รายปี ที่มีการทำประกันปีต่อปี ให้ความคุ้มครองรายปีตลอดระยะเวลาสัญญากรมธรรม์ แต่ก็อาจจะมีหลายคนที่ไม่เคยรู้ว่าจริงๆ แล้วก็มีประกันรถยนต์อีกประเภท ซึ่งนั่นก็คือ ประกันเปิดปิด หรือประกันรถยนต์แบบตามรถระยะเวลาในการขับขี่ ขับแค่ไหนจ่ายเท่านั้น ควบคุมงบได้ จะใช้งานก็เปิด จะไม่ใช้งานก็ปิด แล้วทั้งสองเหมือน หรือ แตกต่างกันอย่างไร ประกันรถแบบเปิดปิดทำประกันออนไลน์ได้หรือไม่ SILKSPAN จะพาคุณไปรู้จักกับประกันรถยนต์แบบเปิดปิดกันในบทความนี้

 

ประกันเปิดปิด คืออะไร

        ประกันเปิดปิด (Temporary Car Insurance) คือประกันรถยนต์ที่เจ้าของรถยนต์ที่ทำการเลือกทำประกันภัยให้แก่รถยนต์สามารถเลือกเปิด หรือปิดความคุ้มครองได้ตามความต้องการ ซึ่งค่าเบี้ยจะถูกคำนวณจากระยะเวลาในการใช้งานประกันรถยนต์ที่ได้ใช้งานจริง จึงสามารถทำให้มีการควบคุ้มค่าใช้จ่าย และปริมาณที่ต้องการใช้งานได้ตามต้องการตามใจเจ้าของรถยนต์ สำหรับประกันเปิด-ปิดในประเทศไทยก็มีการให้บริการบริการอยู่ด้วยกันในหลากหลายชื่อ เช่น

  • ประกันรถยนต์แบบเติมเงิน
  • ประกันรถยนต์รายวัน
  • ประกันรถยนต์ชั่วคราว
  • ประกันรถยนต์ระยะสั้น
  • ประกันรถยนต์ตามไมล์

        ซึ่งประกันทั้งหมดที่ว่ามาก็เป็นรูปแบบความคุ้มครองเช่นเดียวกันกับประกันเปิดปิดนั่นเอง ซึ่งมีการคุ้มครอง และเงื่อนไขต่างๆ ที่เหมือนกัน แต่จะต่างกันในหลากหลายชื่อตามแต่ละบริษัทประกันภัยจะใช้เรียกประกันประเภทนี้ในการตั้งชื่อ

        สำหรับประกันภัยรถยนต์เปิด-ปิด หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่าในเมื่อมีการเปิด-ปิดประกันตามระยะเวลาในการใช้งานจริงแล้ว จะสามารถเลือกความคุ้มครองในหลากหลายชั้นแบบในประกันภัยรถยนต์ทั่วไปเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันรถยนต์ชั้น 2+, ประกันรถยนต์ชั้น 3+ และประกันรถยนต์ชั้น 3 แบบนี้ได้หรือไม่ คำตอบคือประกันเปิดปิดมีความคุ้มครองแต่ละชั้นเหมือนกันกับประกันภัยรถยนต์ทั่วไป แต่จะมีความแตกต่างในเงื่อนไข การใช้งาน และระยะเวลาในการคุ้มครอง รวมไปถึงสิทธิพิเศษที่อาจจะมีให้เพียงการทำประกันภัยรถยนต์รายปีแบบธรรมดาเท่านั้นที่สามารถได้รับ

 

ประกันเปิดปิด เหมาะกับใคร

        ประกันเปิดปิด เป็นประกันรถยนต์ที่สามารถเลือกเปิด หรือปิดความคุ้มครองได้แบบตามใจ คิดคำนวณค่าเบี้ยตามระยะเวลาจริงที่มีการใช้งาน ดังนั้นการเลือกทำประกันเปิดปิดควรมองถึงไลฟ์สไตล์ และจุดประสงค์ของการใช้งานรถยนต์ และระยะเวลาที่ได้มีการใช้งานรถยนต์ ยกตัวอย่างเช่น

  • รถยนต์มีการใช้งานน้อยครั้ง ไม่ค่อยได้มีการนำออกมาใช้งาน 
  • นานๆ ครั้งจะมีการเอารถยนต์ออกมาใช้งาน
  • รถยนต์เน้นการจอดไว้ที่บ้านซะเป็นส่วนใหญ่ 
  • เก็บสะสมรถยนต์ไว้หลายคัน และไม่ค่อยมีโอกาสนำออกมาใช้
  • ที่บ้านมีรถยนต์หลายคัน และบางคันไม่ค่อยได้ใช้งาน
  • มีรถยนต์ไว้ใช้ยามจำเป็น แต่มีการใช้งานขนส่งสาธารณะมากกว่า

        หากไลฟ์สไตล์การใช้รถของคุณเป็นแบบนี้การเลือกประกันเปิดปิดก็ค่อนข้างตอบโจทย์การใช้งานรถของคุณ เมื่อมีการใช้งานรถยนต์ก็สามารถเลือกทำการเปิดประกันแบบเปิดปิดเพื่อรับความคุ้มครองได้ โดยทั่วไปมักมีให้เลือกใช้งานหลากหลายแพ็กเกจ เช่น การคุ้มครอง 1 เดือน แบบ 3 เดือน หรือแบบ 6 เดือน โดยสามารถทำการเปิดปิดแค่เฉพาะในช่วงเวลาที่มีการใช้งานรถยนต์ได้ ซึ่งทำได้โดยงาน ในปัจจุบันก็สามารถเลือกทำการเปิด หรือปิดประกันเปิดปิดมีการใช้งานได้ผ่านทางแอปพลิเคชันของบริษัทประกันที่ได้เลือกทำ และประกันประเภทนี้ก็ยังมีให้เลือกทั้งแบบประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันรถยนต์ชั้น 2+, ประกันรถยนต์ชั้น 3+ และประกันรถยนต์ชั้น 3 ตามแบบประกันภัยรถยนต์รายปีเหมือนกัน

        ดังนั้นสามารถตัดสินใจได้ง่ายๆ กับการทำประกันเปิดปิดโดยการตั้งคำถามเรื่องการใช้งานกับตัวเองก่อนว่าปกติมีการใช้งานบ่อยหรือไม่ หากมีการใช้งานบ่อย ขับไปทำงานเช้า-เย็นทุกวัน ไปเที่ยวเป็นประจำ ไลฟ์สไตล์การใช้งานรถยนต์แบบนี้ควรเลือกเป็นการทำประกันภัยรถยนต์แบบรายปีเพื่อรับความคุ้มครองตลอดทั้งปีจะคุ้มค่ากว่า แต่ถ้ารถยนต์ไม่ค่อยได้ใช้งานบ่อย อาจมีการใช้งานในช่วงเทศกาลเพียงกี่วัน เช่น ที่บ้านมีรถตู้คันใหญ่ที่ไม่ใช่งานเป็นประจำ แต่มักจะใช้งานในช่วงสงกรานต์เท่านั้น การเลือกประกันเปิดปิดก็ค่อนข้างตอบโจทย์การใช้งานที่สามารถเลือกให้ความคุ้มครองเฉพาะเวลาที่ใช้งาน ได้รับความคุ้มครองเหมือนกัน แต่เสียค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ถูกลง

 

แจกคู่มือใบขับขี่ใหม่ สอบผ่านในรอบเดียว

 

ประกันเปิดปิด มีข้อดีอย่างไร

ประหยัดเงินค่าเบี้ยประกัน

        โดยปกติแล้วประกันเปิดปิดมีค่าเบี้ยประกันที่ถูกกว่าประกันแบบทั่วไปที่เป็นแบบรายปี เนื่องจากสามารถเลือกใช้งาน และให้ประกันคุ้มครองได้เฉพาะช่วงเวลาที่คุณต้องการ ถ้าต้องการขับน้อย ก็สามารถเลือกเปิดประกันได้เฉพาะช่วงที่มีการใช้งาน ช่วงไหนที่ไม่มีการใช้งานก็สามารถเลือกปิดไม่รับความคุ้มครอง เหตุการณ์สมมติเช่น หากที่บ้านคุณมีรถยนต์ขนาดใหญ่ เช่น รถตู้ ที่อาจมีการใช้งานไม่บ่อย มักใช้ในช่วงเทศกาลที่ใช้ในการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวทั้งครอบครัว ที่ใน 1 ปีอาจใช้งาน 2-3 ครั้ง และครั้งละไม่กี่วัน ค่าเบี้ยต่อปีอาจจะสูงในหลักหลายหมื่นบาท แต่ถ้าเลือกความคุ้มครองทำประกันเปิดปิดอาจจ่ายเพียงหลักหมื่นต้นๆ ที่จะสามารถช่วยคุณประหยัดงบค่าเบี้ยประกันลงไปได้ประมาณ 30-40% เลยทีเดียว

ยืดหยุ่นและเลือกเองได้

        ประกันเปิดปิด สามารถเลือกซื้อแพ็กเกจตามความเหมาะสม และไลฟ์สไตล์การใช้งานรถยนต์ได้โดยตามความต้องการ สามารถเลือกซื้อได้ตั้งแต่ประกันแบบ 1 เดือน ไปจนถึง 12 เดือน ขึ้นกับความต้องการ และเงื่อนไขที่บริษัทประกันแต่ละบริษัทเป็นฝ่ายกำหนด สามารถเลือกที่จะเปิด หรือปิดตอนไหนก็ตามการใช้งาน สะดวกสบายสำหรับคนมีรถที่ไม่ใช้งานเป็นประจำ นานครั้งจะใช้สักหน แต่ก็ต้องการความคุ้มครองเมื่อมีการใช้งานให้อุ่นใจเวลาขับขี่

จ่ายตามที่ขับจริง

        ขับเท่าไหร่ก็จ่ายเท่านั้น เลือกซื้อแพกเกจที่ถูกใจ ถูกไลฟ์สไตล์ สะดวกสบายด้วยการเปิดความคุ้มครองเมื่อใช้งาน และปิดความคุ้มครองเมื่อไม่ได้ใช้งาน ควบคุ้มค่าใช้จ่ายได้ ปัจจุบันสามารถเลือกเปิด และปิดความคุ้มครองได้ผ่านทั้งผ่านแอปพลิเคชัน และช่องทางต่างๆ ของทางบริษัทประกัน

 

ประกันเปิดปิดดีไหม

ประกันเปิดปิด มีที่ไหนบ้าง

        การเลือกซื้อแพกเกจประกันเปิดปิด สามารถเลือกซื้อได้จากการพิจารณาในหลายๆ ปัจจัย อาทิเช่นความคุ้มครองของประกันเปิดปิดของแต่ละบริษัท ระยะเวลาในการใช้งานว่าเหมาะสมที่จะเลือกซื้อประกันเปิดปิดในแบบไหนที่ใช่ ตอบโจทย์ในไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต การใช้งาน และการขับรถว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร แต่อีกข้อหนึ่งที่จะมองข้ามไม่ได้นั่นก็คือ การพิจารณาบริษัทประกัน การเลือกทำประกันภัยในกับรถยนต์ของ

        คุณกับบริษัทประกันภัยชั้นนำนอกจากจะได้รับความสบายใจ ไว้วางใจในการใช้งานแล้ว สำหรับบริษัทประกันภัยโดยทั่วไปที่มักคุ้นหูกันเช่น วิริยะประกันภัย กรุงเทพประกันภัย ธนชาติประกันภัย ประกันภัยไทยวิวัฒน์ บริษัทประกันภัยเหล่านี้ล้วนมีบริการประกันเปิดปิดคอยให้บริการทั้งสิ้น ราคาเบี้ยเริ่มต้นแค่หลักพันได้รับความคุ้มครองแบบเต็มจำนวน ใช้เท่าไหร่ จ่ายเท่านั้น ได้รับความคุ้มครองอย่างคุ้มค่า

 

เปรียบเทียบประกันเปิดปิดกับประกันรถยนต์แบบรายปี

        ประกันแบบเปิดปิด และประกันรถยนต์แบบรายปีเป็นประกันรถยนต์แบบเดียวกัน ให้ความคุ้มครองกับรถยนต์ของคุณเหมือนกัน แต่ก็อาจจะยังสับสนอยู่บ้าง SILKSPAN ขอทำการเปรียบเทียบให้ที่นี่

เปรียบเทียบประกันเปิดปิด

ระยะเวลาการคุ้มครอง

        ประกันภัยรถยนต์แบบรายปี : คุ้มครองทันทีเมื่อทำประกันภัยให้กับรถยนต์ ให้ความคุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมงเป็นระยะเวลา 1 ปี มีวันเริ่ม และหมดสัญญาแบบชัดเจน หมดแล้วต้องทำต่อประกันเพื่อให้ได้รับความคุ้มครอง และให้ความคุ้มครองเฉพาะอุบัติเหตุต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ประเทศไทยเท่านั้น

        ประกันรถยนต์แบบเปิด-ปิด : ประกันให้ความคุ้มครองตามการเปิด และปิดการใช้งานของประกัน สามารถเลือกซื้อแพกเกจประกันตามการประเมินวันใช้งานได้ตามความต้อง เริ่มต้นตั้งแต่ 1 เดือนไปจนถึง 12 เดือน เมื่อใช้งานให้ทำการเปิด และปิดเมื่อหยุดการใช้งาน เมื่อเปิดแล้วก็จะได้รับความคุ้มครองตามรายละเอียดของประกันรถแต่ชั้นในทันที

 

การทำ/ต่อประกัน

        ประกันภัยรถยนต์แบบรายปี : สามารถเลือกประกัน ทำประกัน หรือต่อประกันได้ทั้งโดยผ่านบริษัทประกัน หรือโบรกเกอร์ประกันภัย ผ่านช่องทางต่างๆ และสามารถทำการทำ หรือต่อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ง่ายๆ เมื่อประกันได้รับการอนุมัติรถยนต์ก็จะได้รับความคุ้มครองในทันที สามารถได้รับสิทธิส่วนลดต่างๆ ได้เช่น ส่วนลดขับขี่ดี ไม่มีประวัติเสียในการขับขี่ได้รับส่วนลดในปีถัดไป ส่วนลดระบุผู้ขับขี่ หรือจะเป็นส่วนลดพิเศษต่างๆ ที่ทางบริษัทมอบให้

        ประกันรถยนต์แบบเปิด-ปิด : สามารถเลือกทำการเปรียบเทียบประกันได้ผ่านทางอินเทอร์เน็ตเช่นเดียวกัน แต่ในครั้งแรกของการใช้งานต้องทำการทำประกันรถยนต์กับทางเจ้าหน้าที่ประกันภัยจากทางบริษัท และสามารถทำการดำเนินการเติมเงิน หรือต่ออายุประกันรถยนต์ในปีถัดไปได้ผ่านทางแอปพลิเคชัน หรือช่องทางติดต่อเฉพาะสำหรับประกันเปิดปิดของทางบริษัทที่ได้ทำประกันด้วย

 

ความคุ้มครอง และความคุ้มค่า

        ประกันภัยรถยนต์แบบรายปี : สามารถเลือกทำ หรือต่อประกันภัยรถยนต์ได้ตามความต้องการตามความคุ้มครองของประกันภัยในแต่ละชั้นได้เลย ประกันชั้น 1 แบบรายปีให้ความคุ้มครองที่คุ้มค่า แต่ราคาค่าเบี้ยประกันก็ต้องสูงตามการคุ้มครองด้วยเช่น 

ประกันรถยนต์แบบเปิด-ปิด : ประกันเปิดปิด สามารถเลือกประเภทประกันได้เช่นเดียวกับประกันรายปีแบบที่รู้จัก แต่สามารถควบคุมค่าใช้จ่าย และค่าเบี้ยประกันได้ตามการใช้งานของรถยนต์แต่ละคัน ซึ่งสามารถช่วยประหยัดค่าเบี้ยประกันรถยนต์ลงไปถึง 30-40%

 

จำนวนวันในการคุ้มครอง

        ประกันภัยรถยนต์แบบรายปี : จะเลือกจ่ายเต็มจำนวน หรือเลือกผ่อนก็จะได้รับความคุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมงเป็นเวลา 1 ปี

        ประกันรถยนต์แบบเปิด-ปิด : เลือกซื้อแพกเกจประกันที่เหมาะสมตรงตามความต้องการ และการใช้งานของรถยนต์แต่ละคันได้ มีให้เลือกตั้ง 1-12 เดือน ซึ่งสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมที่ต้องการได้เลย

 

อยากซื้อประกันเปิดปิดต้องทำอย่างไร

        เมื่อได้ลองทำความรู้จักกับประกันเปิดปิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็อาจมีหลายคนที่รู้สึกถูกใจ และต้องการที่จะทำประกันเปิดปิดนี้ให้กับรถยนต์ของคุณ ก็สามารถทำได้ง่ายๆ โดยการ

1.ติดต่อไปยังบริษัทประกัน หรือโบรกเกอร์ประกันภัยที่มีประกันเปิดปิดให้บริการ

2.สอบถามข้อมูลที่ต้องการทราบเพิ่มเติม และทำการเลือกแพ็กเกจประกันภัยในระยะเวลาที่คุณต้องการ

3.ทำการตรวจสอบข้อมูลก่อนจะทำการชำระค่าประกันภัยแบบเปิด-ปิด หรือทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน หรือผูกข้อมูลในช่องทางที่บริษัทกำหนดเพื่อทำการชำระเงินค่าประกัน

4.ในครั้งแรกของการใช้งานจำเป็นจะต้องให้เจ้าหน้าที่เป็นคนดำเนินการให้ในครั้งแรก

5.เมื่อดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้วก็สามารถใช้งานประกันเปิดปิดได้เลยในทันที

6.และถ้าหากเมื่อมีการใช้งานไปแล้ว และมีความต้องการที่จะซื้อ หรือทำประกันเปิดปิดเพิ่มก็สามารถทำการซื้อ หรือเติมเงินผ่านช่องทาง หรือแอปพลิเคชันที่บริษัทประกันได้กำหนดเลย

 

ประกันเปิดปิดมีวิธีการคำนวณค่าเบี้ยประกันอย่างไร

        ประกันเปิดปิดมีการคำนวณราค่าเบี้ยจากระดับความคุ้มครองของประกันภัยรถยนต์ในแต่ละประเภท และเวลาในการใช้งานของประกันเปิดปิดเป็นรายเดือน รายชั่วโมง ซึ่งผู้ที่ต้องการทำประกันรถยนต์เปิดปิดนี้สามารถทำการคำนวณการใช้งานรถยนต์คันนั้นๆ ในระยะเวลาต่อ 1 ปีเพื่อคำนวณความเหมาะสมในการเลือกทำประกันว่าเหมาะสมที่จะทำประกันเปิดปิดหรือไม่ หากคุณใช้งานรถยนต์ไม่บ่อย นานๆ ครั้งจะใช้งาน อาจจะสัปดาห์ละหน หรือเดือนละหน ประกันภัยแบบเปิด-ปิดสามารถช่วยตอบโจทย์คุณในเรื่องการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้อีกด้วย

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับประกันเปิดปิด

TVI Connect ในประกันเปิดปิดคืออะไร

        TVI Connect เป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยในการเปิด และปิดประกันให้อัตโนมัติเมื่อมีการใช้งาน มีการนับ และบันทึกเวลาการใช้งานตามเวลาจริงที่ขับ จะเริ่มทำการเปิดทันทีเมื่อมีการสตาร์ทรถ และจะปิดในทันทีเมื่อมีการดับเครื่องยนต์ เป็นอุปกรณ์อีกอุปกรณ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานรถยนต์กับประกันแบบเปิดปิด

หากใช้ระยะทางเกินกำหนดเบี้ยประกันจะเกิดอะไรขึ้น?

        เมื่อทำการขับขี่เกินระยะที่ได้มีการทำประกันเปิดปิดไว้ ก็จะถือว่าจะไม่ได้รับความคุ้มครองนั่นเอง สำหรับในบางบริษัทจะมีแจ้งเตือนผ่านทางช่องทางที่ได้เชื่อมต่อไว้ แต่เมื่อรู้ตัวว่าประกันเปิดปิดได้หมดตามระยะเวลาไปแล้วก็สามารถทำการต่อประกันเพิ่มแพ็กเกจ หรือเติมวงเงินเข้าไปเพื่อซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมได้ในทันที

ประกันเปิดปิด สามารถระบุชื่อผู้ขับขี่ได้หรือไม่

        การระบุชื่อผู้ขับขี่เป็นอีกวิธีหนึ่งในการช่วยลดค่าเบี้ยประกัน แต่สำหรับประกันเปิดปิดนั้น “ไม่สามารถระบุชื่อผู้ขับขี่” ลงไปได้ แต่ผู้ขับจำเป็นจะต้องมีใบขับขี่ที่ถูกต้อง และยังไม่หมดอายุ

ทำประกันเปิดปิด โดนชนแล้วหนีเมื่อจอดรถทิ้งไว้เคลมได้หรือไม่

        ประกันเปิดปิดให้ความคุ้มครองในกรณีที่สามารถระบุตัวคู่กรณีได้ เมื่อมีข้อมูลที่สามารถระบุตัวคู่กรณีได้ ทางบริษัทประกันจะให้ความคุ้มครอง และจะทำการเรียกร้องค่าเสียหายจากทางคู่กรณี

        แต่ถ้าไม่สามารถระบุตัวคู่กรณีได้ หากทำประกันชั้น 1 ก็จะได้รับความคุ้มครองก็จะได้รับความคุ้มครองเช่นเดียวกันกับประกันภัยรถยนต์รายปี แต่ถ้าเป็นประกันชั้นอื่นๆ ก็จะไม่สามารถทำการเคลมได้นั่นเอง

กรณีใดบ้างที่ถือว่ากรมธรรม์หมดอายุไม่ให้ความคุ้มครอง

        กรณีที่ 1 ระยะเวลาการใช้งาน (หรือระยะไมล์) หมดก่อนวันคุ้มครอง และไม่ได้ทำการซื้อเพิ่มเติม

        กรณีที่ 2 สิ้นสุดวันคุ้มครอง ในกรณีนี้หากยังมีระยะเวลาในการใช้งาน หรือระยะไมล์เหลืออยู่ก็จะไม่สามารถใช้งานได้

เงื่อนไขอื่นๆ ที่ควรรู้

        โดยทั่วไปจะสามารถทำประกันเปิดปิดให้ได้เฉพาะกับรถยนต์ที่มีอายุไม่เกิน 10 ปี หรือทางบริษัทประกันภัยจะมีการระบุเงื่อนไขอื่นเพิ่มเติมเช่น ประกันรถยนต์จะต้องเลือกเป็นการซ่อมอู่เท่านั้น หรือจะเป็นเรื่องความคุ้มครองอื่นๆ ที่เพิ่มเติมขึ้นมาในแต่ละบริษัทที่ควรทำการสอบถามก่อนการทำประกันเปิดปิด

 

สรุปประกันเปิดปิด คืออะไร เหมาะกับเราไหม?

        ประกันเปิดปิด เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองตามจำนวนระยะเวลา หรือระยะไมล์ตามที่ได้มีการซื้อแพ็กเกจเอาไว้ สามารถเลือกทำประกันเปิดปิดให้กับรถยนต์ของคุณได้โดยการพิจารณาจากไลฟ์สไตล์ในการงานรถยนต์ เช่น รถยนต์มีการใช้งานน้อย นานๆ ครั้งจะมีการนำเอามาขับบ้าง หรือจะเป็นรถยนต์ที่ไว้ใช้เฉพาะกิจอย่างรถตู้ครอบครัวที่มักจะใช้ในช่วงโอกาสพิเศษของการไปท่องเที่ยวประจำปีซึ่งไม่ได้มีการใช้งานอยู่ตลอดๆ ดังนั้น ถ้ามีการพิจารณาแล้วไลฟ์สไตล์การใช้งานรถยนต์เหมาะกับรถยนต์ของคุณก็สามารถเลือกทำประกันเปิดปิด ที่ให้ความคุ้มครองตามระยะเวลาที่จ่าย ขับแค่ไหนก็แค่นั้น และยังช่วยประหยัดค่าประกันรถยนต์จากแบบประกันรถยนต์ทั่วไปที่เป็นรายปีลงไปได้อีก 30-40%

 


เขียนโดย : Ecomoney
เผยแพร่วันที่ : 26/04/2023
รับข้อเสนอพิเศษ
  1. ส่วนลดสูงสุด 30%
  2. แบ่งจ่ายได้สูงสุด 10 เดือน (บัตรเครดิต และเงินสด)
  3. บริการเสริมช่วยเหลือฉุกเฉิน และเบิกค่าเดินทาง
  4. บริการเปรียบเทียบเบี้ยประกันจากบริษัทประกันกว่า 20 แห่ง

กรอกรายละเอียดเพื่อรับข้อเสนอจากพนักงานของเรา

“เช็คเบี้ยประกันรถฟรี 24 ชม.”

กำลังโหลด