ประกันชั้น 1 ใช้อย่างไรก็คุ้มค่า หากเลือกซื้อให้ถูกวิธี
เมื่อให้กล่าวถึงประกันภัยรถยนต์ เชื่อว่าทุกคนย่อมเข้าใจเป็นอย่างดี ว่า “ประกันชั้น 1” เป็นรูปแบบประกันที่มีความคุ้มครองมากที่สุด แต่ก็แลกมาด้วยอัตราเบี้ยประกันที่สูงมากที่สุดเช่นเดียวกัน ด้วยจำนวนเบี้ยประกันที่ค่อนข้างสูง อาจทำให้หลาย ๆ คนเกิดความสงสัย ว่าที่จริงแล้วประกันรถยนต์รูปแบบนี้คุ้มค่าจริงหรือไม่ ? หากนำไปเปรียบเทียบกับประกันชั้นอื่น ๆ ในวันนี้ SILKSPAN จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ให้มากขึ้น พร้อมแนะนำว่า ประกันประเภทนี้เหมาะกับใครมากที่สุด ซื้อเอาไว้คุ้มค่าอย่างแน่นอน
ประกันชั้น 1 คืออะไร เหมาะสำหรับการใช้งานอย่างไร ?
ประกันชั้น 1 ก็เปรียบเสมือนกับ ตั๋วเครื่องบินแบบ First Class แน่นอนว่าอะไรที่ระบุเอาไว้ว่า “ชั้น 1” ย่อมมาพร้อมกับความพิเศษเฉพาะตัว โดยในส่วนของประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 นั้น ก็จะเป็นเรื่องของความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากกว่าชั้นอื่น ๆ อย่างชัดเจน ทั้งในส่วนการดูแลค่าเสียหายต่าง ๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด ค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ ทั้งของตนเองและคู่กรณี หรือ บุคคลที่ 3 ที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุก็ยังให้การคุ้มครอง รวมไปถึง ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือ รถหาย ก็อยู่ในการคุ้มครองเช่นเดียวกัน หากถามว่าประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เหมาะกับใคร ? หากคุณมีพฤติกรรมการใช้รถเช่นนี้ ประกันประเภทนี้เหมาะกับคุณอย่างแน่นอน
- มือใหม่หัดขับ ในกรณีที่ยังไม่มั่นใจในฝีมือการขับรถของตนเอง ทำประกันชั้น 1 เอาไว้ปลอดภัยกว่า เมื่อเกิดเหตุเฉี่ยวชน ไม่ว่าจะมีคู่กรณีหรือไม่มีก็จะได้รับการคุ้มครองทั้งหมด
- สำหรับรถคันใหม่ หากเป็นรถใหม่ป้ายแดง หรือ รถที่มีมูลค่าสูง ๆ เมื่อยังเป็น “รถใหม่” มูลค่าของรถก็จะสูง ดังนั้นการทำประกันชั้น 1 จะทำให้เบี้ยประกันครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นได้มากกว่า
- ผู้ใช้รถเดินทางเกือบทุกวัน สำหรับผู้ที่ต้องเดินทางทุกวันด้วยรถยนต์ และอยู่ในพื้นที่ซึ่งการจราจรแออัด แนะนำเลยว่าประกันชั้น 1 เหมาะที่สุด เพราะมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงมากกว่าผู้อื่น
สำหรับรถใหม่ “ป้ายแดง” ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองหรือไม่ ?
ไม่รู้ว่าความเชื่อนี้เกิดขึ้นจากที่ไหนว่า “ถ้าเป็นรถป้ายแดงประกันจะไม่ครอบคลุม” ในการซื้อรถใหม่นั้นช่วง 1 เดือนแรกหลังจากการรับรถ คุณจะได้ใช้ “ป้ายแดง” เป็นป้ายที่กรมการขนส่งจัดทำขึ้นมา ใช้ระหว่างการรอจดทะเบียนแล้วจึงเปลี่ยนเป็น “ป้ายขาว” ซึ่งไม่ว่าจะเป็นป้ายสีอะไร ประกันชั้น 1 ก็ยังให้การคุ้มครองเช่นเดิม แต่สำหรับรถป้ายแดงอาจต้องระวังข้อกฎหมายบางข้อ เช่น ไม่ควรใช้รถในยามวิกาล (20:00 เป็นต้นไป) และ ไม่สามารถขับขี่ออกนอกจังหวัดนั้น ๆ ที่ออกรถ เป็นต้น
แม้จะมีประกันชั้น 1 ก็ห้ามทำสิ่งเหล่านี้เป็นอันขาด !
ถึงแม้ประกันชั้น 1 จะเป็น “ประกันภัยรถยนต์ที่ครอบคลุมมากที่สุด” แต่ทุกสิ่งย่อมมีกฎเกณฑ์ ความคุ้มครองของประกันภัยรถยนต์เองก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้รถของคุณจะมีการทำประกันชั้น 1 เอาไว้ ก็ยังมีหลาย ๆ สิ่งที่เป็นข้อห้าม หากพฤติกรรมการใช้รถของคุณเข้าข่ายข้อห้ามเหล่านั้น แล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา รับประกันได้เลยว่า ไม่ว่าคุณจะทำเบี้ยประกันสูงแค่ไหน บริษัทประกันก็ไม่รับเคลมให้กับคุณอย่างแน่นอน มาดูกันว่ามีกรณีไหนบ้างที่จะประกันจะไม่ให้ความคุ้มครอง และไม่ควรกระทำสิ่งเหล่านี้โดยเด็ดขาด
· เมาแล้วขับ
พฤติกรรมเมาแล้วขับไม่ต่างอะไรกับการกระทำ “อาชญากรรม” ดังนั้นหากคุณถูกตรวจพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดสูงกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ถือว่าคุณกำลังเมาสุรา และหากเกิดอุบัติเหตุ จะไม่ได้รับการคุ้มครองจากประกันภัยใด ๆ ทั้งสิ้น
· ไม่มีใบขับขี่
ในการขับขี่ยานพาหนะทุกชนิดจะต้องมี “ใบขับขี่” ทั้งสิ้น หากผู้ขับขี่ไม่มีใบขับขี่ หรือ ใบขับขี่หมดอายุ ถือว่าเป็นการขับขี่โดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว เมื่อเกิดอุบัติเหตุก็จะไม่ได้รับการคุ้มครองจากประกันภัยรถยนต์อีกด้วย แม้จะเป็นประกันชั้น 1 ก็ตาม
· มีพฤติกรรมขับรถหวาดเสียว
การขับรถฉวัดเฉวียน หรือ การขับรถเพื่อแข่งกับคันอื่นบนท้องถนน ซึ่งเป็นการขับขี่ที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ถือเป็นพฤติกรรมการขับขี่ที่เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา จะไม่ได้รับการคุ้มครองจากประกันภัย เพราะฉะนั้นเหล่านักซิ่งต้องคิดให้ดี
· ใช้รถนอกเขตประเทศไทย
ประกันภัยรถยนต์โดยส่วนมากจะคุ้มครองเฉพาะภายในประเทศเท่านั้น สำหรับการทำประกันภัยรถยนต์ภายในประเทศไทย ความคุ้มครองจะอยู่แค่ภายในประเทศไทยเท่านั้น หากคุณขับรถไปเกิดอุบัติเหตุนอกราชอาณาจักรไทย จะไม่สามารถเคลมได้ในทุกกรณี
· นำรถไปใช้ในทางผิดกฎหมาย
เมื่อคุณได้กระทำการใดที่ผิดไปจากพฤติการณ์ ที่เหล่าพลเมืองดีควรจะทำ เช่น ขับรถขนส่งสิ่งผิดกฎหมาย , ขับรถหนีการไล่ล่าของตำรวจ หรือ ขับรถเพื่อกระทำการปล้นทรัพย์ ทุก ๆ กรณีที่ระบุว่า “ผิดกฎหมาย” เมื่อเกิดอุบัติเหตุจะไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันชั้น 1 แม้แต่บาทเดียว
บทส่งท้าย
หากจะให้กล่าวถึงประโยชน์สูงสุดของประกันชั้น 1 คงหนีไม่พ้นเรื่องของ “ความสบายใจ” แม้หลายคนจะมองว่าเบี้ยประกันที่เสียนั้นสูงเกินไป ถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุก็เหมือนเสียให้บริษัทประกันเสียเปล่า ๆ แต่คุณต้องอย่าลืมว่าคำว่า “ถ้าไม่เกิด” เป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น เราไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าวันไหนจะมีอุบัติเหตุขึ้นกับเรา การมีประกันที่สามารถคุ้มครองได้อย่างครอบคลุม จึงเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความอุ่นใจแม้เหตุไม่คาดฝันจะเกิดขึ้น
หากคุณกำลังอยากรู้ว่าทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ที่ไหนดี ? SILKSPAN ของเราพร้อมแนะนำประกันภัยที่เหมาะกับคุณ ด้วยประสบการณ์ของเราที่มีกว่า 20 ปี พร้อมด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์สูง คุณสามารถเปรียบเทียบราคา ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 จากกว่า 20 บริษัทประกันชั้นนำ เพื่อให้คุณพบกับข้อเสนอที่ตรงใจมากที่สุด และ สุดท้ายนี้แม้คุณจะมีประกันที่ครอบคลุมมากแค่ไหน การใช้รถใช้ถนนก็ยังคงต้องมีสติอยู่เสมอ
