เคลมประกันรถยนต์ เคลมอย่างไรให้ถูกต้อง หมดห่วงเรื่องเคลมประกัน
สำหรับคนมีรถยนต์ การมีประกันรถยนต์ และการเคลมประกันนั้นเป็นของคู่กัน เป็นสิ่งที่ต้องรู้ไว้ เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือรถเสียหาย การเข้าใจขั้นตอนและสิทธิประโยชน์จะช่วยให้คุณไม่เสียสิทธิ์ และยังช่วยประหยัดเวลา บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักการเคลมประกัน วิธีการแจ้งเคลม และเคล็ดลับเคลมรถให้ถูกต้องตามขั้นตอน SILKSPAN สรุปจบทุกขั้นตอนมาไว้ที่นี่แล้ว
Key Takeaways
- การเคลมประกันคือการใช้สิทธิ์รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ เพื่อขอค่าซ่อมรถ หรือค่ารักษาพยาบาลหลังเกิดอุบัติเหตุ
- การเคลมประกันรถยนต์ มี 2 ประเภทหลัก คือ “เคลมสด” สำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทันที และ “เคลมแห้ง” สำหรับความเสียหายเล็กน้อยที่แจ้งเคลมย้อนหลังได้
- สิ่งสำคัญคือการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ เช่น ภาพถ่าย จากนั้นจึงติดต่อบริษัทประกันเพื่อส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ และออกใบเคลมให้
- การเคลมอาจไม่ได้รับอนุมัติหากผู้ขับขี่ไม่มีใบขับขี่, เมาแล้วขับ, ใช้รถผิดประเภท หรือเกิดอุบัติเหตุนอกประเทศไทย
- การเคลมจะส่งผลให้เบี้ยประกันในปีถัดไปสูงขึ้น เฉพาะในกรณีที่คุณเป็นฝ่ายผิดเท่านั้น หากคุณเป็นฝ่ายถูก ประวัติการเคลมจะไม่ถูกนำมาพิจารณา
เคลมประกัน คืออะไร
การเคลมประกัน คือ การแจ้งบริษัทประกันภัยเพื่อขอรับความคุ้มครองตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ เช่น การซ่อมรถ การชดใช้ค่าสินไหม หรือค่ารักษาพยาบาลหลังอุบัติเหตุ ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณต้องเคลมประกันรถยนต์ บริษัทจะส่งเจ้าหน้าที่เคลมเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และออกเอกสารเคลมประกันเพื่อใช้ซ่อมรถ ไม่ว่าจะเป็นเคลมรถรอบคัน, เคลมสีรอบคันหรือแม้กระทั่งเคลมสีรถเฉพาะจุดสำหรับประกันรถยนต์ชั้น 1 เพื่อที่จะได้ “ใบเคลม” ก่อนที่จะนำรถเข้าซ่อมในอู่ที่ต้องการได้ในภายหลัง
ทำไมการเคลมประกันจึงสำคัญ?

เพราะการเคลมประกันคือสิทธิ์ที่คุณควรได้รับ ไม่ว่าจะเป็นค่าซ่อมรถหลังอุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาล หรือการช่วยเหลือจากบริษัทประกัน หากไม่เข้าใจขั้นตอน อาจเสียสิทธิ์ไปโดยไม่รู้ตัว
เคลมประกันมีกี่ประเภท?
การเคลมประกันไม่ได้คุ้มครองแค่รถยนต์เพียงอย่างเดียว แต่ยังครอบคลุมหลายด้านตามประเภทของประกันที่เราซื้อไว้ ซึ่งแต่ละแบบก็มีขั้นตอนและเงื่อนไขที่แตกต่างกันไป ดังนี้
- เคลมประกันสุขภาพและชีวิต เหมาะสำหรับกรณีที่ผู้เอาประกันเจ็บป่วยหรือเสียชีวิต ผู้เอาประกันสามารถใช้สิทธิ์การเคลมประกันเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล เช่น ค่าห้อง, ค่าผ่าตัด, ค่ายา หรือค่าชดเชยรายวันในช่วงที่นอนโรงพยาบาล โดยส่วนใหญ่สามารถใช้สิทธิเคลมประกันร่วมกับสิทธิ์บัตรทอง หรือประกันสังคมได้ตามเงื่อนไขของแต่ละบริษัท
- เคลมประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น หกล้ม รถล้ม หรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ผู้เอาประกันสามารถแจ้งเคลมประกันเพื่อขอค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชย หรือเงินชดเชยรายได้ระหว่างพักฟื้นได้ ยกตัวอย่างเช่น หากเกิดเหตุรถชนต้องไปโรงพยาบาล ก็สามารถใช้สิทธิ์เคลมประกันอุบัติเหตุควบคู่กับ พ.ร.บ. รถยนต์ได้
- เคลมประกันทรัพย์สิน เช่น บ้านหรือร้านค้า หากทรัพย์สินที่ทำประกันไว้ได้รับความเสียหายจากไฟไหม้ น้ำท่วม หรือโจรกรรม เจ้าของทรัพย์สินสามารถทำการเคลมประกัน เพื่อขอค่าชดเชยในการซ่อมหรือก่อสร้างใหม่ ซึ่งกระบวนการนี้มักต้องมีการประเมินความเสียหายโดยเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกัน
- เคลมประกันรถยนต์ เป็นประเภทที่คนไทยรู้จักกันดีที่สุด เพราะรถยนต์มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุหรือความเสียหายบ่อยที่สุด การ เคลมประกันรถยนต์จะครอบคลุมตั้งแต่
-
- เคลมสีรถเฉพาะจุด (เฉพาะประกันชั้น 1) : เช่น รถโดนเฉี่ยว รอยขีดข่วนเล็กน้อย
-
- เคลมรถรอบคัน : กรณีรถชนหนักหรือมีความเสียหายหลายตำแหน่ง
-
- เคลมประกันไม่มีคู่กรณี : เช่น รถถอยชนเสา ไฟท้ายแตก
ผู้เอาประกันสามารถเลือก เคลมสด (เรียกเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ณ จุดเกิดเหตุ) หรือ เคลมแห้ง (แจ้งย้อนหลังแล้วนำรถเข้าซ่อม) ได้ตามความสะดวก
เคลมประกันรถยนต์ มีกี่ประเภท? ต้องรู้!
สำหรับการเคลมประกันรถยนต์ หลายคนอาจเกิดข้อสงสัยหรือเคยได้ยินคำว่าเคลมสด และเคลมแห้ง ทั้งสองคำนี้เป็นรูปแบบการเคลมประกันรถยนต์เหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกันอย่างไรนั้น มาดูกัน
เคลมประกันแบบสด
การเคลมประกันแบบสด มักเรียกกันสั้น ๆ ว่า “เคลมสด” เป็นการเคลมประกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทันที และทำการแจ้งภายในเดี๋ยวนั้น โดยต้องมีความจำเป็นที่จะต้องติดต่อบริษัทประกันรถยนต์ให้ทำการส่งเจ้าหน้าที่เคลมให้เดินทางเข้ามาที่สถานที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินการทำเรื่องเคลมให้ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณี หรือไม่มีคู่กรณี ก็สามารถทำการการเคลมประกันแบบสดได้
- หากมีคู่กรณี : ประกันรถยนต์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันรถยนต์ 2+, ประกันรถยนต์ 3+ หรือประกันรถยนต์ 3 ก็เคลมได้ โดยฝ่ายผิดต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกให้กับคู่กรณีก่อนตามที่ตกลงกันกับบริษัทประกันไว้ หรือในบางบริษัทก็จะทำการสำรองจ่ายไปให้ก่อน และจะทำการเรียกคืนภายใน 7 วัน
- หากไม่มีคู่กรณี : เคลมได้เฉพาะประกันชั้น 1 และต้องจ่ายค่า Excess ต่อเหตุการณ์ ยกเว้นมีหลักฐานระบุคู่กรณีได้ เช่น ภาพจากกล้องวงจรปิด กล้องหน้ารถที่บันทึกเหตุการณ์ที่คู่กรณีเฉี่ยวชน ให้นำไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันเพื่อใช้เป็นหลักฐาน เพื่อที่จะไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (ทั้ง Deductible และ Excess) และทางบริษัทประกันจะทำการดำเนินการเรียกร้องกับคู่กรณีให้ในภายหลัง ซึ่งจะแตกต่างกับประกันชั้น 2 ที่หากไม่มีคู่กรณีก็จะทำการเคลมไม่ไ้ด
เคลมประกันแบบแห้ง
การเคลมประกันแบบแห้ง หรือที่เรียกกันว่า “เคลมแห้ง” เป็นเคลมประกันกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นไปแล้ว และทำการเคลมในภายในหลังในระยะเวลาไม่เกิน 2-3 วัน โดยมักจะเป็นอุบัติเหตุเบา ๆ เช่น เกิดการเฉี่ยวชน สะเก็ดหินกระเด็นใส่ หรือขับรถครูดราวสะพาน แผลที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ไม่ใหญ่มาก ไม่ได้กระทบต่อการขับขี่
โดยเจ้าของรถ หรือผู้ที่จะเคลมประกันจะต้องมีรายละเอียดการเคลมอย่างชัดเจน เช่น เหตุการณ์เกิดขึ้นได้อย่างไร มีรายละเอียดการเกิดขึ้นที่ไหน วันที่ และเวลาเท่าใด เกิดการชน หรืออุบัติเหตุขึ้นกับสิ่งใด โดยอาจทำการถ่ายรูป หรือคลิปวิดีโอเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยืนยันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ แล้วค่อยทำการแจ้งบริษัทประกันเพื่อทำการเคลมในภายหลัง
- เคลมได้เฉพาะประกันชั้น 1
- หากไม่มีคู่กรณี บริษัทอาจเรียกเก็บค่า Excess
- ไม่ว่าจะเคลมสดหรือแห้ง หากเป็นฝ่ายผิด จะมีผลต่อเบี้ยประกันปีถัดไป แต่ถ้าเป็นฝ่ายถูก จะไม่มีผลต่อเบี้ยประกัน
วิธีเคลมประกันรถยนต์ มีขั้นตอนอย่างไร
อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากจะให้เกิด แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้ว ต้องทำการเคลมประกัน ซึ่งสำหรับหลายคนถึงจะเคยมีประสบการณ์เคลมอยู่บ้าง แต่เมื่ออยู่ในสถานการณ์จริงก็อาจจะเกิดอาการตกใจ ลนลาน และเริ่มต้นไม่ถูก SILKSPAN สรุปขั้นตอนง่าย ๆ มาให้เรียบร้อยแล้ว
1. ตรวจเช็กความคุ้มครองในกรมธรรม์
ดูว่าในกรมธรรม์ครอบคลุมการเคลมรถประเภทใดบ้าง
2. เตรียมหลักฐานให้พร้อม
เช่น รูปถ่าย จุดเกิดเหตุ และเอกสารเคลมประกัน
3. ติดต่อบริษัทประกันรถยนต์
โทรสายด่วนหรือแจ้งในแอปพลิเคชันของบริษัทประกันรถยนต์ที่ได้ทำการซื้อประกันไว้ เช่น
- แจ้งเคลมไทยวิวัฒน์ กับทางประกันรถยนต์ไทยวิวัฒน์
- โตเกียวมารีนประกันภัย แจ้งเคลมกับทาง ประกันรถโตเกียวมารีน
- กรุงเทพประกันภัย แจ้งเคลมกับทางประกันรถยนต์ กรุงเทพ
- แจ้งเคลมประกันวิริยะ กับทางประกันรถวิริยะ
4. กรอกแบบฟอร์มแจ้งเคลม
ยืนยันข้อมูลผู้เอาประกัน และกรอกรายละเอียดเหตุการณ์
5. ส่งเอกสารประกอบการเคลม
แนบสำเนากรมธรรม์ ใบขับขี่ และบันทึกประจำวันหากมีคู่กรณี
6. ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่
ตอบคำถามตามจริงเพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการ
7. ตรวจสอบผลการพิจารณา
ติดตามผลว่าการเคลมประกันได้รับอนุมัติหรือไม่
บริษัทประกันภัย ดำเนินการเคลมอย่างไร?
เมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือความเสียหายกับรถยนต์ ขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เอาประกันควรรู้ บริษัทประกันภัยจะมีลำดับขั้นตอนชัดเจน ตั้งแต่การรับแจ้งเหตุไปจนถึงการปิดการเคลม เพื่อให้ลูกค้าได้รับสิทธิประโยชน์ตามความคุ้มครองอย่างครบถ้วน
1. รับเรื่องเคลม
บันทึกรายละเอียดการแจ้งเคลมประกันจากลูกค้า
2. ตรวจสอบอุบัติเหตุ
บริษัทจะตรวจดูว่าตรงตามเงื่อนไขกรมธรรม์หรือไม่
3. ประเมินความคุ้มครองในกรมธรรม์
พิจารณาว่าเป็นเคลมรถรอบคัน หรือเคลมสีรอบคัน
4. พิจารณาเกี่ยวกับการเคลม
ประเมินค่าเสียหายเพื่อซ่อมหรือจ่ายค่าสินไหม
5. ขั้นตอนเสนอค่าสินไหม
ดำเนินการซ่อม หรือจ่ายเงินตามสิทธิ์
6. เคลมประกันตามความคุ้มครอง
ออกเอกสารยืนยันการชำระหรืออนุมัติค่าสินไหม
7. ปิดการเคลม
สรุปผลการดำเนินงาน และแจ้งลูกค้าเพื่อยืนยันว่ากระบวนการเคลมเสร็จสิ้นเรียบร้อย
การเคลมประกันรถถูกปฏิเสธมาจากสาเหตุอะไร

ถึงแม้ว่า ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม แต่ก็ยังมีบางกรณีที่การเคลมประกันอาจถูกปฏิเสธได้ เช่น
- ใช้รถนอกอาณาเขตประเทศไทย ประกันรถยนต์จะให้ความคุ้มครอง และสามารถให้เคลมได้ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุภายในประเทศไทยเท่านั้น
- ใช้รถในทางที่ผิดกฎหมาย เช่น ขนยาเสพติด, ขับย้อนศร, ขนย้ายแรงงานผิดกฎหมาย
- ใช้งานรถนอกเหนือจากที่กรมธรรม์ระบุไว้ หรือใช้งานผิดประเภท เช่น แจ้งไว้ในกรมธรรม์ว่าเป็นรถส่วนตัว แต่นำรถไปใช้ในเชิงพาณิชย์ หากเกิดความเสียหาย หรือเกิดอุบัติเหตุประกันจะไม่ให้ความคุ้มครอง และไม่สามารถทำเรื่องเคลมได้
- ใช้รถในการก่อจลาจล หรือสงครามกลางเมือง
- ไม่มีใบขับขี่ หรือใบขับขี่ขาดต่อเกิน 3 เดือน
- เมาแล้วขับ มีปริมาณแอลกอฮอล์เกิน 50 มิลลิกรัมขึ้นไป
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเคลมประกัน
ทำไมเบี้ยประกันถึงเพิ่มขึ้นหลังการเคลม?
หากคุณเป็นฝ่ายผิดในการเคลม เบี้ยประกันในปีถัดไปจะสูงขึ้นตามประวัติการเคลม แต่ถ้าหากคุณเป็นฝ่ายถูก เบี้ยประกันจะไม่เพิ่มขึ้น
ถ้าไม่ได้เป็นฝ่ายผิด ต้องเคลมประกันรถยนต์ไหม?
ถึงแม้คุณจะเป็นฝ่ายถูก ก็ควรแจ้งเคลม เพื่อให้บริษัทประกันจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถกับคู่กรณีให้
ประกันชั้น 1 ไม่เคลมอะไรบ้าง?
ประกันชั้น 1 จะไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากการใช้งานผิดประเภท หรือใช้เพื่อการแข่งขัน รวมถึงกรณีเมาแล้วขับ
ประกันชั้น 2 ไม่มีคู่กรณีต้องทำยังไง?
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะไม่คุ้มครองในกรณีที่เคลมประกันไม่มีคู่กรณีอย่างชัดเจน เช่น รอยขูดขีดที่ไม่ใช่การชนกับยานพาหนะ หรือในกรณีที่หาคู่กรณีไม่ได้
เปรียบเทียบประกันรถยนต์ และเคลมประกันได้อย่างมั่นใจกับ SILKSPAN
การเคลมประกัน อาจเป็นเรื่องที่น่ากังวล แต่หากคุณมีประกันรถยนต์ที่เหมาะสมก็จะช่วยให้ทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการ เคลมรถรอบคัน หรือ เคลมรถเพียงเล็กน้อยก็ไม่ควรมองข้าม ควรทำความเข้าใจการเคลมประกันทั้งแบบเคลมสด และเคลมแห้ง เพื่อการเคลมประกันอย่างถูกต้อง และครบถ้วน
และถ้าคุณกำลังมองหาประกันภัยรถยนต์ จะเลือกประกันรถ บริษัทไหนดี หรือลังเลว่าจะทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ไหนดี SILKSPAN รวบรวมประกันภัยรถยนต์จากบริษัทชั้นนำกว่า 20 แห่งมาให้คุณได้เลือกสรร ทำประกันออนไลน์ง่าย ๆ กับ SILKSPAN เราพร้อมให้คำปรึกษาด้านประกันภัยครบวงจร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
- Facebook : SILKSPAN
- Instagram : silkspan
- Line Official : @SILKSPAN
- X (twitter) : SILKSPAN
- Youtube : SILKSPAN
- TikTok : silkspan