ประกันรถยนต์ชั้น 1 เบี้ยเริ่มต้น 750 บาท/เดือน ที่ SILKSPAN

รถเก๋ง และ รถกระบะ ทำไมเช็คประกันรถยนต์แล้ว เบี้ยประกันไม่เท่ากัน ?


รถเก๋ง และ รถกระบะ ทำไมเช็คประกันรถยนต์แล้ว เบี้ยประกันไม่เท่ากัน

การเช็คประกันรถยนต์ คือสิ่งที่ควรต้องทำ สำหรับผู้ที่กำลังจะซื้อประกันภัยรถยนต์ เพราะจะทำให้ได้เห็นเบี้ยประกันของบริษัทต่าง ๆ และได้รู้ถึงรายละเอียดความคุ้มครองที่ดีที่สุด นอกจากได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจแล้ว ในบางครั้งก็อาจะทำให้เกิด “ข้อสงสัย” ที่เกิดขึ้นระหว่างการเช็คเบี้ยประกันรถยนต์อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น ทำไมเบี้ยประกัน รถเก๋ง กับ รถกระบะ ถึงแตกต่างกัน ? บทความนี้ SILKSPAN จะมาอธิบายเหตุผล พร้อมเคล็ดลับทำให้เบี้ยประกันถูกลงมากกว่าเดิม ถ้าพร้อมแล้วไปชมกันเลย !

 

จริงเหรอ ? เมื่อเช็คประกันรถยนต์แล้วพบว่า เบี้ยประกันของรถแต่ละชนิดต่างกัน

เป็นเรื่องจริง !! หากใครที่เช็คประกันรถยนต์ทุกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเบี้ยประกันของรถยนต์แต่ละประเภทจะแตกต่างกัน แม้จะเป็นรถยนต์ที่มีมูลค่าใกล้เคียงกันก็ตาม ในบางครั้งต่อให้ซื้อรถยนต์ยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกัน ในช่วงเวลาที่ต่างกันเพียงเล็กน้อย ก็จะได้เบี้ยประกันที่แตกต่างกันอย่างน่าเหลือเชื่อ เนื่องจากหลักเกณฑ์ของการประเมินเบี้ยประกัน นั้นมีอยู่หลายส่วน ทั้งตัวรถ ผู้ขับขี่ ประวัติการเคลม ไปจนถึงพื้นที่การใช้งานรถยนต์ เป็นต้น

รถเก๋ง และ รถกระบะ ทำไมเช็คประกันรถยนต์แล้ว เบี้ยประกันไม่เท่ากัน

เจาะลึกถึงเหตุผล ว่าทำไม รถเก๋ง และ รถกระบะ ถึงได้มีเบี้ยประกันที่แตกต่างกัน

กลับมาที่หัวข้อหลักของบทความนี้ ในเรื่องของ รถเก๋ง และ รถกระบะ ที่มีราคาเบี้ยประกันที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด และบางครั้งจะเป็นในส่วนของรถกระบะ ที่มีแนวโน้มที่เบี้ยประกันจะสูงกว่าอีกด้วย เชื่อว่าใครที่เคยเช็คประกันรถยนต์ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อน่าจะเคยสงสัย ถึงความแตกต่างที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน แน่นอนว่าเรามาพร้อมกับเหตุผล ที่ช่วยทำให้คุณคลายความสงสัยได้เป็นปลิดทิ้ง ดังนี้

  • ลักษณะการใช้งานรถยนต์

เมื่อได้เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ จะพบว่า รถเก๋ง และ รถกระบะ จะมีเบี้ยประกันที่ค่อนข้างต่างกันพอสมควร สาเหตุหลัก ๆ นั้นเกิดจาก “ลักษณะการใช้งาน” เพราะเมื่อเทียบกับการต่อ พรบ. รายปีแล้ว รถกระบะก็จะมีค่าใช้จ่ายที่แพงกว่ารถเก๋งพอสมควร เนื่องจากดุลยพินิจของการใช้รถกระบะ โดยส่วนมากมักจะใช้เพื่อการบรรทุกสิ่งของ อาจทำให้เกิดความเสียหายระหว่างการบรรทุกได้ ต่างจากรถเก๋งที่มีลักษณะการใช้งานขับขี่ทั่วไป ไม่ค่อยใช้สมบุกสมบันเหมือนอย่างรถกระบะนั่นเอง

  • ประเมินจากความเสี่ยงการใช้รถ

อาจจะดูเหมือนเหตุผลที่คล้ายกับข้อที่แล้ว เพราะด้านของการใช้งาน จะเป็นรถกระบะที่มีความสุ่มเสี่ยงจะเสียหายมากกว่า จากการใช้บรรทุกสิ่งของต่าง ๆ แต่นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของ “ความเสี่ยง” ของการใช้รถเท่านั้น เพราะนอกจากการใช้งานแล้ว รถกระบะยังถูกออกแบบให้ใช้งานในพื้นที่ซึ่งสมบุกสมบันมากกว่า บางรุ่นถึงขนาดมีระบบการขับขี่แบบ Off Road ซึ่งรถเก๋งไม่สามารถใช้งานได้เช่นนั้นอย่างแน่นอน ส่งผลให้รถกระบะมีความเสี่ยงมากกว่า จึงมีแนวโน้มที่เบี้ยประกันจะสูงกว่ารถเก๋งเป็นเรื่องธรรมดา

  • มูลค่าของตัวรถยนต์

เราอาจจะคุ้นชินถึงเรื่องรสนิยมการใช้รถ ถ้าเป็นรถเก๋งจะต้องมีราคาที่แพงกว่า จากความหรูหรา สะดวกสบาย รูปลักษณ์ที่น่าใช้ น่าจะทำให้เบี้ยประกันของรถเก๋งแพงกว่า ซึ่งนั่นเป็นความคิดที่ผิด ! รถกระบะบางรุ่นในช่วงหลัง ก็มาพร้อมกับ “มูลค่าของตัวรถ” ที่ไม่ได้น้อยกว่ารถเก๋งเลยแม้แต่น้อย แถมในส่วนของอะไหล่หลาย ๆ ชิ้น ก็มีราคาค่าซ่อมแซมที่แพงมากกว่า นั่นจึงทำให้เบี้ยประกันของรถกระบะไม่ได้ถูกไปกว่ารถเก๋งแต่อย่างใด และจากเหตุผลก่อนหน้านี้ที่เราเพิ่งนำเสนอไป อาจทำให้บางครั้งมีโอกาสที่เบี้ยประกันจะสูงกว่ารถเก๋งเสียด้วยซ้ำ

สุขใจทุกการเดินทาง ประกันรถยนต์ชัั้น 1 ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน

รู้หรือไม่ ? เบี้ยประกัน จะถูก หรือ จะแพง ไม่ได้เกี่ยวกับแค่ตัวรถเท่านั้น

ไม่ว่าคุณจะขับ รถเก๋ง หรือ รถกระบะ ถ้าได้ลองเช็คประกันรถยนต์ แล้วพบว่าเบี้ยประกันสูงจนเกินไป อยากจะได้ความคุ้มครองที่ดีที่สุด ในเบี้ยประกันราคาที่คุ้มค่าที่สุด รู้หรือไม่ ? นอกจากตัวรถแล้ว “ตัวคุณเอง” ก็มีส่วนต่อการประเมินเบี้ยประกันอีกด้วย ไปดูกันเลยว่าเบี้ยประกัน จะถูก หรือ จะแพง มีปัจจัยส่วนบุคคลอะไรบ้าง สามารถลดเบี้ยประกันให้ถูกลงมาได้ไหม ?

  • เพศ ผู้ชายมักจะต้องเสียเบี้ยแพงกว่าผู้หญิง อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องเหลื่อมล้ำทางเพศ แต่ที่จริงแล้วไม่ใช้เลย เนื่องจากสถิติบ่งชี้ว่า ความเสี่ยงระหว่างขับขี่ของผู้ชายมีมากกว่าผู้หญิง จึงทำให้เบี้ยแพงกว่า
  • อายุ ยิ่งอายุเยอะก็จะได้เบี้ยประกันที่ถูกลง เนื่องจากประสบการณ์ขับขี่ที่สูงกว่า รวมถึงสถิติของพฤติกรรมการขับขี่ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า ในส่วนนี้ถ้ามีการระบุผู้ขับขี่ จึงช่วยลดเบี้ยประกันลงได้
  • ประวัติการขับขี่ น่าจะเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด หากในปีแล้ว ๆ มา คุณไม่เคยต้องส่งเคลม จากการขับขี่ที่เลินเล่อ จนเป็นฝ่ายผิดในอุบัติเหตุ มีโอกาสที่จะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันสูงถึง 50%
  • พื้นที่การใช้รถ ในแต่ละพื้นที่การใช้งาน จะมีเบี้ยประกันที่ต่างกันออกไป พบว่าในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล จะมีเบี้ยประกันที่แพงกว่าพื้นที่ต่างจังหวัด แต่อาจไม่ได้สูงมากเท่าไหร่
  • วัตถุประสงค์การใช้รถ ไม่ว่าจะเป็น รถเก๋ง หรือ รถกระบะ บริษัทประกันก็จะมองถึงวัตถุประสงค์การใช้รถ หากใช้เพื่อการขับขี่ส่วนบุคคลเบี้ยก็จะถูก แต่ถ้ามีการนำไปใช้เชิงพาณิชย์เบี้ยก็จะสูงขึ้น

 

บทส่งท้าย

ถือว่าข้อสงสัยที่เกิดจากการ เช็คประกันรถยนต์ เป็นเรื่องที่ดี เพราะนั่นเกิดจากที่คุณได้ลองค้นหาข้อมูล เพื่อเปรียบเทียบความคุ้มค่า ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อประกันภัยรถยนต์ การจะซื้อประกันทั้งทีต้องเลือกสิ่งดี ๆ ที่สุดให้ตัวเอง แต่ !! รู้หรือไม่ ? ทุกวันนี้ไม่ต้องหาข้อมูลเปรียบเทียบราคาเบี้ยประกันเองแล้ว เนื่องจาก SILKSPAN มีบริการเปรียบเทียบ ความคุ้มครอง และ เบี้ยประกัน จากบริษัทประกันภัยรถยนต์ชั้นนำของประเทศไทยกว่า 30 บริษัท สนใจใช้บริการกับเรา แค่กรอกรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้านล่างบทความนี้เท่านั้น


เขียนโดย : SILKSPAN ADVISOR
เผยแพร่วันที่ : 23/02/2025
รับข้อเสนอพิเศษ

ซื้อประกันรถยนต์ดีๆ ที่ SILKSPAN

  1. ส่วนลดสูงสุด 30%
  2. แบ่งจ่ายได้สูงสุด 10 เดือน (บัตรเครดิต และเงินสด)
  3. บริการเสริมช่วยเหลือฉุกเฉิน และเบิกค่าเดินทาง
  4. บริการเปรียบเทียบเบี้ยประกันจากบริษัทประกันกว่า 20 แห่ง

กรอกรายละเอียดเพื่อรับข้อเสนอจากพนักงานของเรา

taff-call
“เช็คเบี้ยประกันรถฟรี 24 ชม.”
line

กำลังโหลด