
แอร์รถไม่เย็น มีแต่ลม? สาเหตุและวิธีแก้ไขที่คนมีรถควรรู้

ปัญหาแอร์รถไม่เย็น มีแต่ลม เป็นเรื่องน่าหงุดหงิดใจที่หลายคนต้องเผชิญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่อากาศร้อนจัด หรือในวันที่ต้องขับรถท่ามกลางการจราจรที่ติดขัด ยิ่งช่วง 2-3 ปีหลังซื้อรถที่อาจพบปัญหาเหล่านี้ได้บ่อยมาก ทั้ง ๆ ที่ปรับอุณหภูมิให้ต่ำสุดแล้ว แต่กลับรู้สึกว่าแอร์รถไม่เย็น
การที่แอร์รถไม่เย็นมีหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นลมที่ออกมาจากช่องแอร์ไม่เย็นเหมือนเก่า หรือมีอาการแอร์รถเย็นบ้างไม่เย็นบ้าง ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ไม่ยาก บทความนี้จะมาไขข้อสงสัย พร้อมแนะนำวิธีเช็คน้ำยาแอร์รถ และการดูแลรักษาระบบแอร์รถยนต์ให้กลับมาเย็นฉ่ำเหมือนใหม่
Key Takeaways
- ปัญหาแอร์รถไม่เย็นอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น น้ำยาแอร์หมด รั่วซึม คอมแอร์เสีย ไส้กรองอุดตัน หรือแม้แต่ฟิล์มกรองแสงเสื่อมสภาพ
- สัญญาณเตือนที่ควรสังเกต เช่น แอร์เย็นบ้างไม่เย็นบ้าง มีลมร้อนออกมา หรือแอร์ไม่เย็นตอนจอดรถ
- สามารถตรวจสอบเบื้องต้นได้เองโดยการเช็กระดับน้ำยาแอร์ สังเกตว่ามีฟองอากาศในช่องน้ำยาแอร์หรือไม่ หรือสังเกตเสียงดังผิดปกติของคอมเพรสเซอร์ และสภาพของสายพาน
- การป้องกันที่ทำได้ เช่น ตรวจเช็กไส้กรอง เปลี่ยนน้ำยาแอร์ตามระยะ ล้างระบบแอร์ และจอดรถในที่ร่ม
- หากแก้ไขเองไม่ได้ ควรเข้าศูนย์บริการหรืออู่ที่เชี่ยวชาญ พร้อมใช้ประกันรถยนต์ที่มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินฟรีเพื่อความอุ่นใจ
ปัญหาแอร์รถไม่เย็น ที่พบได้บ่อยในคนมีรถยนต์
แอร์รถยนต์เป็นระบบที่ซับซ้อน เมื่อใช้งานไปนาน ๆ ย่อมเกิดการเสื่อมสภาพ อาจมีสัญญาณเตือนหลายอย่างที่คุณสังเกตได้ เช่น เมื่อคุณเปิดแอร์แล้วแอร์รถไม่เย็น มีแต่ลมร้อนออกมาแทนที่จะเป็นลมเย็น หรือบางครั้งเจอปัญหาแอร์รถไม่เย็นตอนจอด ซึ่งล้วนเป็นสัญญาณเตือนว่าระบบแอร์ของคุณกำลังมีปัญหา ควรรีบหาสาเหตุเพื่อทำการแก้ไขให้เรียบร้อย
11 สาเหตุสำคัญที่ทำให้แอร์รถไม่เย็น
สาเหตุสำคัญที่ทำให้แอร์รถไม่เย็นมีอยู่มากมาย SILKSPAN ได้รวบรวมทั้งหมด 7 ปัญหาที่พบได้ประจำ หากเกิดขึ้นแล้วแก้ไขอย่างไร ไปดูกัน
1. ระบบแอร์มีปัญหา
เมื่อระบบแอร์มีปัญหา ทำให้แอร์รถไม่เย็นได้แน่นอน ที่พบได้คือมักมีรอยรั่วซึมตามตู้แอร์ ท่อแอร์รรถรั่ว หรือข้อต่อต่าง ๆ ทำให้ค่าแรงดันของน้ำยาแอร์ตก ซึ่งเราสามารถตรวจสอบรอยรั่วได้โดยการใช้น้ำผสมสบู่หรือแชมพูแล้วตีให้เป็นฟอง จากนั้นเอามาทาตามจุดต่าง ๆ เช่นตามท่อ ข้อต่อ หรือจุดที่สงสัยว่าอาจจะเกิดรอยรั่ว จุดไหนมีฟองอากาศลอยขึ้นมา แสดงว่าจุดนั้นเกิดการรั่วซึม แนะนำให้ทำการขันให้แน่น แต่ถ้าขันแน่นแล้วแอร์ยังไม่เย็นอยู่ อาจต้องเข้าศูนย์
2. น้ำยาแอร์หมด
น้ำยาแอร์หมดในรถยนต์ ถือว่าเป็นปัญหาหลักที่ทำให้แอร์รถไม่เย็นเลยก็ว่าได้ หากพบปัญหาแอร์รถไม่เย็น มีแต่ลมร้อน ๆ ออกมาจากช่องแอร์ แนะนำให้ลองสตาร์ตเครื่องแล้วเปิดระบบเครื่องปรับอากาศปุ่ม A/C เพื่อให้คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงาน เมื่อเปิดแล้วลองส่องดูในช่องน้ำยาแอร์ที่อยู่ระหว่างแผงระบายความร้อนด้านหน้ารถ หากพบฟองอากาศเล็ก ๆ สีขาว แสดงว่าน้ำยาแอร์หมด ควรรีบเติมน้ำยาแอร์รถเองทันทีเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอื่นตามมา
3. ใช้น้ำยาแอร์ผิดประเภท
การใช้น้ำยาแอร์ผิดประเภท จะทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบแอร์รถยนต์โดยตรง มิหนำซ้ำยังสร้างความเสียหายให้กับเครื่องยนต์ได้อีกด้วย โดยเฉพาะน้ำยาแอร์ที่ผสมน้ำยาปลอม จะทำให้ความดันในระบบแอร์รถยนต์เพิ่มมากขึ้นจนไม่สามารถทนแรงดันที่สูงได้ ส่งผลให้แอร์ไม่เย็น รวมถึงทำให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในเครื่องยนต์เสียหาย และเสื่อมอายุก่อนกำหนด
4. วาล์วแอร์เสื่อมสภาพ
วาล์วแอร์เสื่อมสภาพ เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้แอร์รถไม่เย็นมีแต่ลม แอร์รถเย็นบ้างไม่เย็นบ้าง ซึ่งอาจเกิดจากชุดวาล์วหรือดรายเออร์อุดตัน จนทำให้แรงดันน้ำยาแอร์จากคอมเพรสเซอร์ไม่สามารถไหลเข้าแผงคอยล์เย็นได้ ส่งผลให้น้ำ ยาแอร์ฉีดเข้าคอยล์เย็นไม่มากพอ
หากเกิดปัญหานี้แนะนำให้ลองตรวจสอบคอมเพรสเซอร์แอร์โดยการเปิดเครื่องยนต์แล้วเปิดแอร์ทิ้งไว้ หากแอร์รถไม่เย็นและมีเสียงดัง แต่เร่งเครื่องแล้วแอร์เย็นขึ้น อาจเป็นไปได้ว่าชุดวาล์วหรือดรายเออร์อุดตัน ต้องถอดเปลี่ยนชุดวาล์วและดรายเออร์ใหม่
5. คอมแอร์ไม่ทำงาน
คอมแอร์ เป็นส่วนที่ทำหน้าที่คอยปรับอุณหภูมิภายในรถ หากพบปัญหาแอร์รถไม่เย็นก็เป็นไปได้ว่าอาจเกิดจากคอมแอร์ไม่ทำงาน ฟิวส์ขาดหรือฟิวส์ไหม้ แนะนำว่าควรเปลี่ยนฟิวส์ใหม่อย่างเร่งด่วน เพื่อให้กระแสไฟเข้าคอมแอร์ รวมทั้งระบบอื่น ๆ ที่ต้องการกระแสไฟฟ้าตามปกติ ช่วยป้องกันแผงวงจรไฟฟ้าในส่วนอื่นจะเสียหายตามไปด้วย
6. คอยล์ร้อนแอร์ไม่ทำงาน
หากเราสตาร์ตรถไว้แต่แอร์เย็นเฉพาะตอนรถวิ่ง หรือแอร์รถเย็นบ้างไม่เย็นบ้าง อาจเป็นเพราะคอยล์ร้อนแอร์ไม่ทำงาน หรือทำงานได้ไม่เต็มที่ ระบบระบายความร้อนไม่มีการระบายความร้อนออกมา จนทำให้น้ำยาที่ส่งเข้าคอยล์เย็นมีอุณหภูมิสูงขึ้น จึงส่งผลให้แอร์รถเย็นช้าหรือไม่เย็นเลยนั่นเอง
7. สายพานคอมแอร์หย่อน
สายพานคอมแอร์หย่อนก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้แอร์รถไม่เย็นได้ เพราะคอมเพรสเซอร์ไม่สามารถฉุดให้มอเตอร์ข้างในหมุนต่อได้ หากสงสัยว่าสายพานคอมแอร์หย่อน สามารถตรวจสอบได้โดยการติดเครื่องยนต์แล้วเปิดแอร์ ถ้าคอมเพรสเซอร์แอร์มีเสียงดังระหว่างทำงาน ก็ควรปรับระดับสายพานให้ตึงขึ้น แต่ถ้าหากสายพานฉีกขาด ควรเปลี่ยนเส้นใหม่ทันที
8. ไส้กรองแอร์อุดตัน
ไส้กรองแอร์ มีหน้าที่ดักจับฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ไม่ให้เข้าสู่ระบบทำความเย็นของรถยนต์ เมื่อใช้งานไปนาน ๆ สิ่งสกปรกเหล่านี้จะสะสมจนไส้กรองอุดตัน ทำให้ลมที่พัดผ่านเข้าไปในระบบน้อยลง ผลลัพธ์คือลมแอร์ที่ออกมาจากช่องลมจะเบาลง แอร์รถเย็นช้า และไม่เย็นฉ่ำอย่างที่ควรจะเป็น
ยิ่งไปกว่านั้น การอุดตันยังทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อที่จะดึงลมเข้ามาในระบบ ซึ่งนอกจากจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันแล้ว ยังอาจทำให้อายุการใช้งานของคอมเพรสเซอร์สั้นลงอีกด้วย
9. ฟิล์มกรองแสงเสื่อม
ฟิล์มกรองแสงที่เสื่อมสภาพจะไม่สามารถป้องกันความร้อนจากภายนอกได้ดีเท่าที่ควร ทำให้รถสะสมความร้อน และส่งผลต่อการทำงานของแอร์ เมื่อฟิล์มเสื่อมทำให้ห้องโดยสารร้อนง่าย แม้เปิดแอร์ก็ยังรู้สึกว่าแอร์รถไม่เย็น
แม้ว่าฟิล์มกรองแสงจะเป็นอุปกรณ์ภายนอกระบบแอร์ แต่ก็ส่งผลกระทบอย่างมากต่อประสิทธิภาพการทำความเย็นของแอร์รถยนต์ เพราะการที่ห้องโดยสารมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ แม้จะเปิดแอร์แล้ว แอร์จะต้องทำงานหนักขึ้นมากเพื่อที่จะลดอุณหภูมิภายในรถให้ได้ ทำให้รู้สึกว่าแอร์ไม่เย็นเท่าที่ควร
10. น้ำยาแอร์รถรั่วซึม
น้ำยาแอร์ เป็นหัวใจหลักของระบบทำความเย็น ถ้าหากน้ำยาแอร์มีปริมาณไม่พอ หรือไม่ถูกอัดในระดับแรงดันที่เหมาะสม ระบบแอร์ก็จะไม่สามารถสร้างความเย็นได้เต็มที่ ปัญหาน้ำยาแอร์รถรั่วมักเกิดจากข้อต่อหรือซีลยางที่เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน เมื่อน้ำยาแอร์รั่วออกมา แรงดันในระบบจะลดลง ทำให้คอมเพรสเซอร์ไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่สามารถสร้างความเย็นได้เต็มที่
อาการที่เห็นได้ชัดคือแอร์จะเริ่มไม่เย็นเหมือนเดิม หรือมีแต่ลมออกมา แม้จะเติมน้ำยาแอร์ใหม่เข้าไปแล้ว แต่ถ้ายังมีจุดรั่วซึมอยู่ น้ำยาก็จะค่อย ๆ หายไป และไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างถาวร
11. เครื่องยนต์มีความร้อนสูง
ระบบแอร์รถยนต์มีความสัมพันธ์โดยตรงกับเครื่องยนต์ การทำงานของคอมเพรสเซอร์แอร์ส่วนหนึ่งต้องอาศัยกำลังจากเครื่องยนต์ เมื่อเครื่องยนต์มีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ เช่น อุณหภูมิสูงจากการขับขี่ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์จะทำงานหนักเพื่อควบคุมอุณหภูมิ เมื่อเครื่องยนต์ร้อนมากเกินไปก็จะส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบแอร์ ทำให้ทำงานหนักจนแอร์รถไม่เย็นมีแต่ลมร้อนนั่นเอง
วิธีป้องกันปัญหาแอร์รถยนต์ไม่เย็น ทำอย่างไรดี?
การดูแลรักษาระบบแอร์รถยนต์อย่างสม่ำเสมอ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันปัญหาแอร์รถไม่เย็น ก่อนที่จะลุกลามจนต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง
- หมั่นทำความสะอาดไส้กรองแอร์ที่สกปรก ซึ่งเป็นสาเหตุแอร์รถไม่เย็นที่พบบ่อยที่สุด ควรเปลี่ยนไส้กรองตามระยะเวลาที่คู่มือระบุ หรืออย่างน้อยปีละครั้ง
- ตรวจสอบระดับน้ำยาแอร์ หากพบว่าน้ำยาแอร์รถหมด ควรเข้ารับบริการเติมน้ำยาแอร์ทันที
- จอดรถในที่ร่ม ดีกว่าการจอดรถตากแดดเป็นเวลานาน ซึ่งจะทำให้ห้องโดยสารร้อนจัด ทำให้ระบบแอร์ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อลดอุณหภูมิ จนอาจทำให้แอร์รถไม่เย็นตอนจอด
- ล้างทำความสะอาดระบบแอร์เป็นประจำ ทุก 1-2 ปี เพื่อกำจัดสิ่งอุดตันที่อาจทำให้พัดลมแอร์รถไม่ทำงาน หรือเกิดปัญหาอื่นๆ
- ปรับแอร์รถยนต์ให้เย็นอย่างถูกวิธี ควรเปิดไล่ลมร้อนในรถออกก่อนเปิดแอร์ และไม่ควรเร่งความแรงของแอร์ทันทีหลังสตาร์ตรถ
หากคุณไม่แน่ใจว่าแอร์รถไม่เย็นเกิดจาก อะไรกันแน่ หรือปัญหาไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง สามารถค้นหาร้านซ่อมรถยนต์ใกล้ฉัน ที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด และหากรถของคุณประสบปัญหาที่ต้องใช้ช่างยนต์แบบเร่งด่วน หรือรถดับกลางทาง คุณสามารถติดต่อบริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉินฟรีที่มาพร้อมกับกรมธรรม์ประกันรถยนต์ได้ทันที

แอร์รถไม่เย็น ปัญหาที่คุณต้องรู้และแก้ไข
จะเห็นได้ว่าปัญหาแอร์รถไม่เย็นนั้นมีหลายสาเหตุ ซึ่งในเบื้องต้นสามารถเช็กปัญหาเหล่านี้ได้ตามคำแนะนำของเราได้เลย เมื่อพบปัญหาก็ควรรีบทำการแก้ไขและซ่อมแซมทันที เพื่อยืดอายุการใช้งานแอร์รถให้ยาวนาน และมีประสิทธิภาพในการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น
และใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์ คุ้มครองแบบครบ ๆ จบที่ SILKSPAN ได้เลย เรามีทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันรถยนต์ 2+ หรือประกันรถยนต์ 3+ พร้อมบริการเปรียบเทียบประกันรถยนต์ เช็กราคาเบี้ยประกันได้ทันทีบนเว็บไซต์ และให้คุณผ่อนค่าเบี้ยได้ทั้งบัตรเครดิตและเงินสด ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน และเลือกบริษัทประกันภัยรถยนต์ได้กว่า 20 แห่ง เข้าไปชมที่เว็บไซต์ SILKSPAN ของเราได้เลย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
- Facebook : SILKSPAN
- Instagram : silkspan
- Line Official : @SILKSPAN
- X (twitter) : SILKSPAN
- Youtube : SILKSPAN
- TikTok : silkspan