ปักหมุด 10 ที่เที่ยวภาคอีสาน ชวนขับรถเที่ยวธรรมชาติ Unseen แดนอีสาน!
เมื่อพูดถึง ภาคอีสาน หลายคนอาจนึกถึงภาพทุ่งนาสุดลูกหูลูกตาและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ แต่ความจริงแล้วดินแดนแห่งนี้ยังซ่อนแหล่งเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามและน่ามหัศจรรย์ไว้อีกมากมาย การ ขับรถเที่ยว จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะได้สัมผัสกับเสน่ห์ที่หลากหลายของภูมิภาคนี้อย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่เมืองริมโขงสุดชิล ที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์ ไปจนถึงอุทยานแห่งชาติที่อุดมสมบูรณ์ เตรียมแพ็คกระเป๋า สตาร์ทรถ แล้วออกเดินทางไปกับ 10 จุดหมายปลายทางน่าทึ่ง ที่จะทำให้คุณตกหลุมรักแดนอีสานโดยไม่รู้ตัว
Key Takeaways
- ภาคอีสานเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับรถเที่ยวธรรมชาติ ด้วยเส้นทางที่สะดวกสบายและแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย
- บทความนี้รวบรวม 10 สถานที่ไฮไลต์ครอบคลุมหลายจังหวัด ตั้งแต่ เลย, หนองคาย, อุดรธานี ไปจนถึงศรีสะเกษและอุบลราชธานี
- การวางแผนเส้นทางโดยใช้ แผนที่ภาคอีสาน จะช่วยให้การเดินทางราบรื่นและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้ครบถ้วน
- ก่อนออกเดินทางไกล ควรเตรียมความพร้อมของรถและเลือกประกันรถยนต์ ที่เหมาะสมเพื่อความอุ่นใจตลอดทริป
เตรียมตัวก่อนออกเดินทาง วางแผนการขับรถเที่ยวภาคอีสาน
ก่อนจะออกไปผจญภัย การเตรียมความพร้อมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ควรตรวจเช็กสภาพรถยนต์ให้พร้อมใช้งาน ทั้งลมยาง ระบบเบรก และเครื่องยนต์ และที่ขาดไม่ได้สำหรับการเดินทางไกลคือประกันรถยนต์ ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุม เผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน จากนั้นกางแผนที่อีสาน แล้วปักหมุดจุดหมายที่ต้องการ เพื่อวางแผนเส้นทาง ที่พัก และคำนวณระยะเวลาการเดินทางให้เหมาะสม
10 จุดหมายปลายทาง ขับรถเที่ยวธรรมชาติในแดนอีสาน
1. เชียงคาน (เลย)
เมืองเล็กๆ ริมแม่น้ำโขงที่ยังคงอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของวันวาน การขับรถเที่ยวมาที่นี่จะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตสโลว์ไลฟ์ เดินเล่นชมบ้านไม้เก่าแก่บนถนนคนเดินยามค่ำคืน ตื่นเช้ามาตักบาตรข้าวเหนียว และปิดท้ายด้วยการล่องเรือชมวิวสองฝั่งโขง ถือเป็นจุดเริ่มต้นทริปอีสานที่สมบูรณ์แบบ
2. วัดผาตากเสื้อ (หนองคาย)
สัมผัสความหวาดเสียวพร้อมชมวิวสุดอลังการบน “สกายวอล์คกระจกใส” แห่งแรกของประเทศไทย ณ วัดผาตากเสื้อ ที่นี่คุณสามารถมองเห็นแม่น้ำโขงที่โค้งบรรจบกับแม่น้ำเหือง กลายเป็นเส้นแบ่งพรมแดนไทย-ลาวได้อย่างชัดเจน เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในภาคอีสาน
3. ทะเลบัวแดง (อุดรธานี)
หนึ่งในความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) ที่ดอกบัวสายสีชมพูสดจะบานสะพรั่งพร้อมกันทั่วบึงหนองหานอันกว้างใหญ่ การล่องเรือชมทะเลบัวแดงยามเช้าตรู่ เป็นประสบการณ์เที่ยวธรรมชาติที่งดงามและน่าประทับใจไม่รู้ลืม
4. ชุมชนบ้านท่าแร่ (สกลนคร)
แม้จะไม่ได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติโดยตรง แต่สถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียลของชุมชนชาวคริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในไทยแห่งนี้ ก็มีภูมิทัศน์ที่สวยงามแปลกตา ตั้งอยู่ริมหนองหาร ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน คุณสามารถขับรถชมตึกเก่า ถ่ายรูปสวยๆ และเรียนรู้วิถีชีวิตสองวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์

5. อุทยานแห่งชาติไทรทอง (ชัยภูมิ)
สวรรค์ของคนรักดอกไม้และทุ่งหญ้า ในช่วงฤดูฝน (มิถุนายน-สิงหาคม) ทุ่งดอกกระเจียวสีชมพูอมม่วงจะเบ่งบานอวดโฉมไปทั่วทั้งผืนป่า นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิว “ผาหำหด” ที่ท้าทายความกล้าของผู้มาเยือน เป็นอีกหนึ่งพิกัดขับรถเที่ยวธรรมชาติที่ต้องปักหมุด
6. อุทยานบึงบัว (อุบลราชธานี)
อุทยานบึงบัวเฉลิมพระเกียรติ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “บึงบัวหนองขอน” ที่นี่เป็นแหล่งรวบรวมบัวพันธุ์ต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดในอีสาน มีสะพานไม้ทอดยาวให้เดินชมความงามของดอกบัวได้อย่างใกล้ชิด เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจและถ่ายภาพสวยๆ ท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบ
7. วังน้ำเขียว (นครราชสีมา)
ได้รับฉายาว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์แห่งแดนอีสาน” ด้วยอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี และภูมิประเทศที่เป็นหุบเขาเขียวขจี วังน้ำเขียวเป็นแหล่งโอโซนชั้นดีและเต็มไปด้วยที่พักสวยๆ ฟาร์มเกษตร และร้านอาหารอร่อยๆ เหมาะสำหรับการขับรถเที่ยวพักผ่อนชาร์จพลังในช่วงสุดสัปดาห์ หากกำลังมองหาที่เที่ยวใกล้ฉันธรรมชาติจากกรุงเทพฯ ที่นี่คือคำตอบ
8. ผามออีแดง (ศรีสะเกษ)
จุดชมวิวบนเทือกเขาพนมดงรัก ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของปราสาทเขาพระวิหารและผืนป่าของประเทศกัมพูชาได้อย่างงดงาม ไฮไลต์สำคัญคือ ภาพแกะสลักนูนต่ำโบราณอายุกว่า 1,500 ปี และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นสามแผ่นดินที่สวยงามจับใจ
9. พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์สิรินธร (ขอนแก่น)
เปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวธรรมชาติในรูปแบบของการย้อนเวลาไปสู่ยุคดึกดำบรรพ์ ที่นี่เป็นศูนย์วิจัยและพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่สมบูรณ์ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จัดแสดงโครงกระดูกไดโนเสาร์ที่ขุดค้นพบใน ภาคอีสาน มากมายหลายสายพันธุ์ เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ให้ทั้งความสนุกและความรู้ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย
10. อุทยานแห่งชาติภูลังกา (บึงกาฬ)
ปิดท้ายทริปด้วยการไปเยือน “ถ้ำนาคา” อันโด่งดัง ซึ่งมีหินและผนังถ้ำที่มีลวดลายคล้ายเกล็ดพญานาค สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้มาเยือน นอกจากนี้ อุทยานฯ ภูลังกายังมีจุดชมวิวและเส้นทางเดินป่าที่สวยงามอีกหลายแห่ง เป็นการปิดท้ายทริปขับรถเที่ยวที่สายแอดเวนเจอร์จะต้องประทับใจ
ขับรถเที่ยวอุ่นใจ ด้วยประกันรถยนต์ที่ใช่
การเดินทางไกลบนเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยมีความเสี่ยงเสมอ การมีประกันรถยนต์ที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างสบายใจไร้กังวล
- ประกันรถยนต์ชั้น 1 เหมาะที่สุดสำหรับการเดินทางไกล ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทุกกรณี ทั้งรถชนแบบมีและไม่มีคู่กรณี รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม
- ประกันรถยนต์ 2+ เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า คุ้มครองอุบัติเหตุรถชนรถ รวมถึงกรณีรถหายและไฟไหม้
- ประกันรถยนต์ 3+ สำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองพื้นฐานในราคาประหยัด โดยจะคุ้มครองเฉพาะอุบัติเหตุรถชนรถเท่านั้น
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q1 ช่วงไหนเหมาะที่สุดสำหรับการขับรถเที่ยวภาคอีสาน?
คำตอบ ช่วงปลายฤดูฝนถึงฤดูหนาว (ประมาณเดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์) เป็นช่วงที่อากาศดีที่สุด ท้องฟ้าแจ่มใส และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่ง เช่น ทะเลหมอกและทุ่งดอกไม้ จะมีความสวยงามเป็นพิเศษ
Q2 ขับรถเที่ยวอีสานต้องใช้รถประเภทไหน?
คำตอบ สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในลิสต์นี้สามารถเดินทางเข้าถึงได้ด้วยรถยนต์นั่งส่วนบุคคล (รถเก๋ง) ทั่วไป แต่สำหรับบางพื้นที่ในอุทยานแห่งชาติซึ่งอาจมีเส้นทางลาดชันหรือเป็นทางลูกรัง การใช้รถ SUV หรือรถกระบะจะเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
Q3 จะค้นหาที่เที่ยวธรรมชาติใกล้ๆ ตัวได้อย่างไร?
คำตอบ หากคุณอยู่ในพื้นที่และต้องการหาที่เที่ยวใกล้ฉันธรรมชาติ สามารถใช้แอปพลิเคชันแผนที่อย่าง Google Maps แล้วค้นหาด้วยคำว่า “อุทยานแห่งชาติ”, “น้ำตก”, หรือ “จุดชมวิว” ระบบจะแสดงที่ เที่ยวใกล้ฉัน ธรรมชาติที่อยู่ใกล้ตำแหน่งปัจจุบันของคุณขึ้นมาให้เลือก