
ประสบอุบัติเหตุกับคู่กรณีที่เป็น “รถหรู” ประกันรถยนต์ให้ความคุ้มครองแค่ไหน ?

เมื่อเรากำลังอยู่บนท้องถนน ล้วนมีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราควรทำ “ประกันรถยนต์” นั่นเอง จะได้เป็นการ ผ่อนหนักให้กลายเป็นเบา ในบทความนี้ SILKSPAN อยากจะหยิบยกเรื่องราวที่เคยเห็นข่าวดังเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนบนท้องถนน ซึ่งอาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ แต่ ! ถ้าคู่กรณีเป็น “รถหรู” ไม่ว่าจะเป็น รถยุโรป รถคลาสสิคหายาก หรือ รถซุปเปอร์คาร์ ประกันภัยรถยนต์จะให้ความคุ้มครองอย่างไร ? จ่ายค่าซ่อมให้คู่กรณีทุกบาททุกสตางค์หรือไม่ ? ไปหาคำตอบพร้อม ๆ กัน
ประกันรถยนต์ครอบคลุมอะไรบ้าง ? เมื่อเกิดเหตุการณ์ชน
ก่อนอื่นเราต้องขอแวะมาให้ความรู้ เกี่ยวกับความคุ้มครองของ “ประกันรถยนต์” กันสักหน่อย เพราะหลายคนรู้แค่เพียงว่า มีรถยนต์ก็ต้องซื้อประกันภัยรถยนต์ติดเอาไว้ แต่ไม่ได้เข้าใจถึงความคุ้มครองที่แท้จริง เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ก็อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด หรือ อาจรู้สึกลนลานทำอะไรไม่ถูกได้ ดังนั้นมาทำความเข้าใจถึงความคุ้มครองของประกันภัยรถยนต์กันเสียก่อน ดังนี้
-
ค่าซ่อมรถยนต์
ความหมายก็ตรงตัว เป็นความคุ้มครองที่ดูแลในส่วนของ “ค่าซ่อมแซม” จะต้องประเมินจากอะไหล่ชิ้นที่เสียหาย หรือชิ้นส่วนที่ต้องได้รับการซ่อมแซม ซึ่งรถยนต์ที่ได้รับความคุ้มครองก็จะมี รถยนต์ของผู้เอาประกัน , รถยนต์ของคู่กรณี และ รถยนต์คันอื่น ๆ ที่อาจได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุครั้งนั้น โดยความคุ้มครองก็จะขึ้นอยู่กับประเภทของประกันรถยนต์ที่ทำเอาไว้
-
ค่าซ่อมอู่
ถ้าในกรณีเกิดอุบัติเหตุชนรถหรู ยิ่งเป็นรุ่นที่หายากก็จะมีค่าซ่อมที่สูงมาก เพราะจะต้องซ่อมกับอู่เฉพาะทางเท่านั้น บางรุ่นอะไหล่ก็หายาก ช่างผู้เชี่ยวชาญก็มีน้อย ค่าแรงช่างก็แพง นั่นจึงทำให้เหล่ารถซูเปอร์คาร์ ต่างก็เลือกทำ “ประกันรถหรู” ซึ่งจะให้ความคุ้มครองสูงมากกว่าประกันภัยรถยนต์ทั่วไป และสามารถเลือกซ่อมกับอู่ที่วางใจได้อีกด้วย ส่วนเรื่องที่ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็น ฝ่ายถูก หรือ ฝ่ายผิด ในอุบัติเหตุนั้น ๆ
- ค่ารักษาพยาบาล
“ค่ารักษาพยาบาล” ค่อนข้างเป็นความคุ้มครองที่เข้าใจได้ง่าย เนื่องจากผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุทั้งหมด จะได้รับสิทธิ์การรักษา ไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิดก็ตาม กรณีที่มีความสูญเสียเกิดขึ้นก็จะมีเงินค่าสินไหมทดแทน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของประกันภัยรถยนต์ที่ใช้บริการ ว่าจะให้ความคุ้มครองค่ารักษาสูงสุดเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่

ประกันรถยนต์ครอบคลุมอะไรบ้าง ? เมื่อชนรถหรู
เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน และยิ่งมีการเฉี่ยวชนกับคู่กรณีที่เป็นรถหรู รถซูเปอร์คาร์ ยิ่งไม่อยากให้มีใครเกิดขึ้นมาแน่ ๆ กรณีนี้เมื่อเกิดขึ้นไปแล้วก็ต้องทำใจรับกับสิ่งที่เกิดไปแล้ว และต้องมาดูกันว่า ใครเป็นฝ่ายผิด ? หากทางฝั่งของรถหรูเป็นฝ่ายผิด เราก็ถือว่ารอดตัวไป แต่ ! ถ้าเราเป็นฝ่ายผิด กรณีนี้ก็ต้องมาปวดหัวกันต่ออีกพักใหญ่ ๆ เพื่อให้เข้าใจง่าย ๆ เราจะขอยกตัวอย่าง ในกรณีที่ทำประกันชั้น 1 ติดรถเอาไว้ มาดูกันเลยว่าจะคุ้มครองอะไรบ้าง ?
ประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง ?
-
ค่ารักษาพยาบาลของผู้เกี่ยวข้อง
กรณีที่เกิดอุบัติเหตุแล้วมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองผู้บาดเจ็บที่เกี่ยวข้องทุกคน ไม่ว่าจะเป็น ผู้โดยสารในรถของผู้เอาประกัน , ผู้โดยสารในรถหรูคู่กรณี หรือ ผู้คนโดยรอบที่ได้รับผลพวงจากอุบัติเหตุครั้งนั้น หากมีความสูญเสียก็จะมีการมอบเงินสดไหมทดแทน ขึ้นอยู่กับวงเงินความคุ้มครองที่ระบุเอาไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย
-
ค่าซ่อมแซมรถหรูของคู่กรณี
หากมีการทำการพิสูจน์เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าเราเป็นฝ่ายผิด บริษัทประกันภัยรถยนต์ของเราจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าซ่อมรถหรูคู่กรณีของเรา ซึ่งในส่วนนี้จะต้องไปดูความคุ้มครองในส่วนของ “ความคุ้มครองบุคคลภายนอก” ที่ระบุเอาไว้ในกรมธรรม์ ว่ามีวงเงินสูงสุดอยู่ที่เท่าไหร่ ประกันชั้น 1 โดยส่วนมากจะเริ่มต้นที่ 1 ล้านขึ้นไป ถ้าค่าซ่อมประเมินออกมาแล้วสูงกว่าวงเงินความคุ้มครอง ผู้ขับขี่ก็ต้องรับผิดชอบค่าซ่อม “ส่วนต่าง” ที่เกินกว่านั้นด้วยตนเอง
-
ค่าซ่อมแซมรถยนต์ของตนเอง
เมื่อเกิดอุบัติเหตุแน่นอนว่าความเสียหายย่อมเกิดขึ้นกับทั้งสองฝั่ง ในฝั่งของรถหรูเมื่อเราเป็นฝ่ายผิด บริษัทประกันของเราก็ให้ความคุ้มครองอย่างเต็มที่ ตามที่เรากล่าวถึงไปในหัวข้อก่อนหน้านี้ ส่วนรถยนต์ของผู้เอาประกันเองก็จะได้รับการซ่อมแซมเช่นเดียวกัน เนื่องจากประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองค่าซ่อมรถของผู้เอาประกันทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิดก็ตาม
ไม่มีเงินจ่าย ค่าส่วนต่าง / ค่าซ่อม เมื่อชนรถหรู ต้องทำอย่างไร ?
เมื่อเกิดเหตุชนรถหรูแล้วเราเป็นฝ่ายผิด เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่าทางฝ่ายเรา และประกันรถยนต์ของรถยนต์เราจะต้องเป็นฝ่ายที่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ประกันรถยนต์จะให้ความคุ้มครองตามวงเงินประกันที่มีระบุไว้ตามในเงื่อนไขของกรมธรรม์ ซึ่งประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 โดยส่วนมากจะมีวงเงินความคุ้มครองเริ่มต้นที่ 1 ล้านบาท หรืออาจมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับรุ่นรถ ความใหม่ของตัวรถ และค่าเบี้ยประกันที่จ่ายไป แต่ถ้ามีการประเมินออกมาแล้วว่าค่าซ่อมของฝั่งรถหรูที่เราไปชนมีจำนวนเงินเกินกว่าวงเงินที่ประกันภัยรถยนต์มอบให้ ก็จะเกิดสิ่งที่เรียกว่า “ส่วนต่าง” ซึ่งจำนวนเงินในส่วนนี้ฝ่ายเราจะต้องรับผิดชอบด้วยตนเอง หรือเรียกง่ายๆว่าเป็นฝ่ายเราที่ต้องทำการจ่ายเพิ่ม ลองมาดูกันว่าระหว่างการมี และไม่มีประกันภัยรถยนต์มีความแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด
-
มีประกันรถยนต์
ต้องลุ้นว่าค่าซ่อมรถหรูนั้นสูงเกินวงเงินความคุ้มครองหรือไม่ ? หากไม่เกินกว่าวงเงินที่ประกันภัยรถยนต์กำหนดเอาไว้ ก็อาจไม่เกิดส่วนต่างที่จะต้องแบกรับ แต่ถ้าค่าซ่อมเกินกว่าวงเงินความคุ้มครอง ก็จะต้องจ่ายค่าซ่อมที่เกินมา โดยฝั่งบริษัทประกันรถหรูจะเป็นฝ่ายไกล่เกลี่ย หาข้อตกลงในการชำระเงิน ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็จะต้องถึงขั้นฟ้องศาล ซึ่งศาลจะเป็นผู้ตัดสินอีกทีว่าจะต้องรับผิดชอบอย่างไร
-
ไม่มีประกันรถยนต์
ถ้าไม่มีประกันภัยรถยนต์ คุณจะไม่ต้องจ่ายส่วนต่างค่าซ่อมของทางฝั่งรถหรู เพราะคุณต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าซ่อมทั้งหมด !! แต่ ! เพียง ! ผู้เดียว ! กรณีที่คุณมีเงินจ่ายก็อาจไม่เกิดเรื่องยุ่งยากอะไร แต่ถ้าไม่มีเงินจ่าย ก็ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลมีการฟ้องร้อง อาจจะต้องขายบ้าน ขายรถ ขายที่ดิน ขายสินทรัพย์ที่มี เพื่อนำมาชำระหนี้ค่าซ่อมรถหรู ซึ่งนี่คือเหตุผลว่าทำไม ถึงต้องทำประกันภัยรถยนต์
ประกันรถยนต์ชั้นอื่น ๆ ถ้าชนรถหรู ประกันให้ความคุ้มครองแค่ไหน
ให้ความคุ้มครองค่าซ่อมให้ฝั่งรถหรู ตามวงเงินที่กำหนดเอาไว้ในกรมธรรม์ แต่จะไม่ให้ความคุ้มครองฝ่ายรถของผู้เอาประกัน หากพิสูจน์แล้วว่าเป็นฝ่ายผิดในอุบัติเหตุครั้งนั้น
ให้ความคุ้มครองค่าซ่อมทางฝั่งของรถหรู แต่อาจช่วยไม่ได้มากเท่าประกันชั้น 1 เนื่องจากวงเงินคุ้มครองส่วนมากจะน้อยกว่า และไม่ครอบคลุมค่าซ่อมรถของตนเอง
ค่อนข้างน่ากังวลสำหรับรถที่ทำประกันชั้น 3 หากต้องมีคู่กรณีเป็นรถหรู เนื่องจากวงเงินคุ้มครองไม่สูงมากนัก แถมยังไม่คุ้มครองรถฝั่งผู้เอาประกันอีกด้วย
บทส่งท้าย
สรุปได้เลยว่า ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้นไหน ก็ให้ความคุ้มครองกับฝั่งรถหรูเหมือน ๆ กัน ขึ้นอยู่กับวงเงินความคุ้มครอง เพียงพอต่อค่าซ่อมรถหรูหรือไม่ ? ซึ่งที่จริงแล้วแม้จะชนรถหรู รถยุโรป รถซูเปอร์คาร์ เราก็ไม่จำเป็นต้องเครียดเสมอไป ถ้าเราเป็น “ฝ่ายถูก” ในอุบัติเหตุครั้งนั้น เนื่องจากประกันรถหรูจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าซ่อมเอง แถมยังดูแลค่าซ่อมรถของเราอีกด้วย ดังนั้นสรุปได้เลยว่า เพียงไม่ประมาท ทำตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด แค่เท่านี้ก็ช่วยไม่ให้เราต้องเป็นหนี้หัวโตได้แล้ว
และที่สำคัญคือไม่ว่าอย่างไร เมื่อมีการนำรถไปใช้บนท้องถนน จำเป็นต้องทำประกันรถยนต์เสมอ และไม่ควรปล่อยให้ประกันขาดโดยเด็ดขาด ถ้าประกันของคุณใกล้จะหมดความคุ้มครองแล้ว สามารถ “ซื้อประกันภัยรถยนต์ล่วงหน้า” กับ SILKSPAN ได้เลยตอนนี้ เรามีข้อเสนอจากบริษัทประกันชั้นนำให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น กรุงเทพประกันภัย , วิริยะประกันภัย หรือ โตเกียวมารีน เป็นต้น