ทำประกันรถยนต์ 2+ และ 3+ ดีไหม แบบไหนคุ้มค่ากว่ากัน
สำหรับผู้ใช้รถที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังอยากได้ความอุ่นใจในการขับขี่ การมองหาประกันภัยรถยนต์ ทางเลือกอย่างประกันชั้น 2+ และชั้น 3+ ถือเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมสูงมาก เพราะมีราคาที่เข้าถึงง่ายกว่าประกันชั้น 1 ค่อนข้างมาก แต่หลายคนก็ยังเกิดความสับสนว่าประกัน 2+ กับ 3+ ต่างกันอย่างไร ทั้งที่ชื่อเรียกก็คล้ายกัน แล้วความคุ้มครองจริง ๆ นั้นแตกต่างกันตรงไหน? บทความนี้ SILKSPAN จะมาเปรียบเทียบให้เห็นกันชัด ๆ เพื่อให้คุณตัดสินใจเลือกประกันที่ใช่และคุ้มค่าที่สุดสำหรับรถของคุณ
Key Takeaways
- ประกันรถยนต์ 2+ หรือประกัน 2 พลัส คือประกันที่ให้ความคุ้มครองที่เหนือกว่าในเรื่องของภัยธรรมชาติ คุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้ และน้ำท่วม (ในบางกรมธรรม์)
- ประกันรถยนต์ 3+ เน้นความคุ้มครองพื้นฐาน คือซ่อมเขาและซ่อมเราเฉพาะอุบัติเหตุรถชนรถ แต่ไม่คุ้มครองกรณีรถหายและไฟไหม้
- จุดเหมือนสำคัญคือทั้งคู่จะซ่อมรถเราก็ต่อเมื่อเป็นอุบัติเหตุแบบรถชนรถ และต้องมีคู่กรณีเท่านั้น หากชนเสาไฟฟ้าหรือถอยชนกำแพง จะเคลมไม่ได้ทั้งคู่
ประกันรถยนต์ 2+ คืออะไร

ประกันภัย 2+ คือรูปแบบประกันภัยรถยนต์ที่พัฒนามาจากประกันชั้น 2 ธรรมดา โดยเพิ่มความคุ้มครองในการซ่อมรถคันเอาประกันภัยเข้าไปด้วย ทำให้ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะมีความคุ้มครองที่ใกล้เคียงกับประกันรถยนต์ชั้น 1 มากที่สุดในราคาที่ประหยัดกว่า
ความคุ้มครองประกันรถยนต์ชั้น 2+
จุดเด่นของประกันรถยนต์ 2+ คือการให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมความเสี่ยงหลัก ๆ ดังนี้
- คุ้มครองรถหายและไฟไหม้ : หากรถถูกขโมยหรือเกิดเหตุไฟไหม้ บริษัทประกันจะชดเชยให้ตามทุนประกัน
- ซ่อมรถเราและรถคู่กรณี : คุ้มครองการซ่อมรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชนรถ
- ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก : รับผิดชอบต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของคู่กรณี
- ความคุ้มครองเพิ่มเติม : ค่ารักษาพยาบาล อุบัติเหตุส่วนบุคคล และการประกันตัวผู้ขับขี่
ราคาเริ่มต้นประกันรถยนต์ชั้น 2+
ราคาของประกันชั้น 2+ นั้นมีความหลากหลายขึ้นอยู่กับทุนประกันและบริษัทประกัน โดยส่วนใหญ่มักจะมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 5,000 – 7,000 บาทขึ้นไป ซึ่งถือว่าคุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับความคุ้มครองที่ได้รับ
ประกันรถยนต์ 3+ คืออะไร

ประกัน 3+ คือประกันที่ยกระดับมาจากประกันชั้น 3 (ที่ซ่อมแต่คู่กรณี) ให้มาซ่อมรถของผู้เอาประกันด้วย โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือต้องเป็นอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีเป็นยานพาหนะทางบกเท่านั้น เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการประหยัดงบประมาณแต่ยังห่วงเรื่องค่าซ่อมรถตัวเอง
ความคุ้มครองประกันรถยนต์ชั้น 3+
ประกันรถยนต์ 3+ จะเน้นแบ่งเบาภาระค่าซ่อมเมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นหลัก โดยยังคงได้รับความคุ้มครองพื้นฐานด้าน พ.ร.บ. และอุบัติเหตุส่วนบุคคลตามปกติ ความคุ้มครองหลัก ๆ ของประกันรถยนต์ 3+ ได้แก่
- ซ่อมรถคันที่เอาประกันและรถคู่กรณี: เฉพาะกรณีรถชนรถที่มีคู่กรณีชัดเจนเท่านั้น
- ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก: คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินและชีวิตของบุคคลภายนอก
- ไม่คุ้มครองรถหายและไฟไหม้: นี่คือจุดตัดสำคัญที่ทำให้เบี้ยถูกกว่า
ราคาเริ่มต้นประกันรถยนต์ชั้น 3+
ราคาของประกันชั้น 3+ ถือว่าประหยัดที่สุดในกลุ่มประกันที่มีวงเงินซ่อมของรถตัวเอง โดยมักมีราคาเริ่มต้นประมาณ 4,000 – 6,000 บาท ขึ้นอยู่กับทุนประกันที่เลือก
ประกัน 2+ กับ 3+ ต่างกันอย่างไร

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นว่าประกัน 2+ กับ 3+ ต่างกันอย่างไร SILKSPAN สรุปข้อแตกต่างสำคัญมาให้ดังนี้
- ความคุ้มครองรถหายและไฟไหม้ : นี่คือข้อแตกต่างที่ชัดเจนที่สุด ประกันชั้น 2+ จะให้ความคุ้มครองกรณีรถสูญหายและไฟไหม้ ขณะที่ประกันชั้น 3+ จะไม่คุ้มครองในส่วนนี้เลย
- ราคาเบี้ยประกัน : โดยปกติแล้วประกันชั้น 3+ จะมีราคาถูกกว่าชั้น 2+ เล็กน้อย แต่ในบางกรมธรรม์หรือบางโปรโมชั่น ราคาอาจจะใกล้เคียงกันมากจนแทบไม่ต่างกัน
- เงื่อนไขการชน : ทั้งประกัน 2+ และ 3+ มีเงื่อนไขเหมือนกันคือให้ความคุ้มครองในการซ่อมรถคันที่เอาประกันเฉพาะกรณีอุบัติเหตุรถชนรถเท่านั้น ไม่คุ้มครองการชนแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ชนต้นไม้ หรือครูดฟุตบาท
- การตรวจสภาพรถ : ส่วนใหญ่แล้วประกันชั้น 3+ มักไม่ต้องมีการตรวจสภาพรถก่อนทำประกัน จึงสะดวกสำหรับรถเก่า
ประกัน 2+ กับ 3+ เลือกแบบไหนให้ตรงตามความต้องการ
เมื่อทราบแล้วว่าประกัน 2+ กับ 3+ ต่างกันอย่างไร การตัดสินใจเลือกว่าจะทำประกันแบบไหนดี ขึ้นอยู่กับปัจจัยเหล่านี้
- สถานที่จอดรถ : หากคุณต้องจอดรถในที่เปลี่ยว พื้นที่เสี่ยงต่อการโจรกรรม หรือจอดตากแดดจัด ๆ เป็นประจำ การเลือกประกันชั้น 2+ จะอุ่นใจกว่ามาก เพราะคุ้มครองรถหายและไฟไหม้
- อายุของรถ : หากรถของคุณมีอายุการใช้งานนาน (เช่น เกิน 7-10 ปี) และมูลค่าตลาดไม่สูงมาก การเลือกประกันชั้น 3+ อาจเป็นทางเลือกที่ประหยัดและเพียงพอต่อความต้องการ
- งบประมาณ : หากส่วนต่างของค่าเบี้ยประกันหลักพันบาทไม่ใช่ปัญหา การขยับไปทำประกันชั้น 2+ ย่อมให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมและคุ้มค่ากว่าในระยะยาว
- ความเสี่ยงภัยธรรมชาติ : หากคุณกังวลเรื่องน้ำท่วม (ซึ่งประกัน 2+ บางแผนมีความคุ้มครองนี้) ชั้น 2+ คือคำตอบที่ดีกว่า
ประกัน 2+ กับ 3+ ต่างกันอย่างไร เลือกให้เหมาะ ขับขี่อุ่นใจ
โดยสรุปแล้ว ประกัน 2+ กับ 3+ ต่างกันอย่างไร คำตอบอยู่ที่ “ความคุ้มครองรถหายและไฟไหม้” เป็นหลัก ประกันชั้น 2+ คือตัวเลือกที่สมดุลที่สุดระหว่างราคาและความคุ้มครอง เหมาะสำหรับคนที่รักรถและกังวลเรื่องรถหาย ส่วนประกันชั้น 3+ คือทางเลือกของคนงบน้อยที่ขับรถดีและต้องการแค่คนช่วยจ่ายค่าซ่อมเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจเลือกประกันแบบไหน สิ่งสำคัญคือการมีประกันติดรถไว้เสมอ หากคุณกำลังมองหาข้อเสนอที่ดีที่สุด SILKSPAN พร้อมช่วยคุณเปรียบเทียบเบี้ยประกันจากบริษัทชั้นนำกว่า 20 แห่ง ให้คุณเห็นความแตกต่างของความคุ้มครองและราคาได้ทันที พร้อมบริการผ่อน 0% และสิทธิพิเศษมากมาย เพื่อให้คุณได้ ประกันรถยนต์ที่คุ้มค่าที่สุด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
- Facebook : SILKSPAN
- Instagram : silkspan
- Line Official : @SILKSPAN
- X (twitter) : SILKSPAN
- Youtube : SILKSPAN
- TikTok : silkspan
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับประกัน 2+ กับ 3+
ประกัน 2+ เหมาะกับใครบ้าง
เหมาะกับรถที่มีอายุประมาณ 5 ปีขึ้นไป ที่เจ้าของยังต้องการความคุ้มครองที่ค่อนข้างครอบคลุม ทั้งรถชนรถ รถหาย และไฟไหม้ รวมถึงผู้ขับขี่ที่มีความเชี่ยวชาญ ไม่ค่อยขับชนสิ่งของไม่มีชีวิต และต้องการประหยัดเบี้ยประกันจากชั้น 1
ประกัน 2+ ช่วยซ่อมอะไรบ้าง
ช่วยซ่อมรถในกรณีเกิดอุบัติเหตุ “รถชนรถ” ที่มีคู่กรณี และซ่อมรถคันคู่กรณีเมื่อคุณเป็นฝ่ายผิด รวมถึงคุ้มครองความเสียหายในกรณีรถไฟไหม้หรือสูญหาย
ประกัน 3+ เหมาะกับใครบ้าง
เหมาะกับผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์สูง มีความมั่นใจในการขับขี่ ใช้รถเก่าอายุ 7 ปีขึ้นไป หรือรถที่มีมูลค่าไม่สูงมาก มักใช้งานในระยะทางสั้น ๆ และต้องการความคุ้มครองเฉพาะเรื่องรถชนรถและค่ารักษาพยาบาล ไม่กังวลเรื่องรถหายหรือไฟไหม้