
พฤติกรรมต้องห้าม ถ้าไม่อยากโดนปฏิเสธประกันรถยนต์

สำหรับผู้ใช้รถยนต์ทุกคน “ประกันรถยนต์” ถือเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มความอุ่นใจระหว่างขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุเล็กน้อยหรือเหตุไม่คาดฝันใหญ่ ๆ ก็ตาม แต่รู้หรือไม่ว่าบางพฤติกรรมของผู้เอาประกันเองอาจทำให้บริษัทประกันปฏิเสธความคุ้มครอง หรือหนักกว่านั้นคือยกเลิกประกันกลางคันเลยก็ได้ วันนี้เราจะพาไปดู 4 พฤติกรรมเสี่ยงที่ไม่ควรทำเด็ดขาด!
เหตุการณ์สุ่มเสี่ยงต่อการโดนยกเลิกประกันรถยนต์ มีอะไรบ้าง ?
แม้ว่าเราจะมี “ประกันรถยนต์” อยู่ในมือ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้รับความคุ้มครองเสมอไป หากผู้เอาประกันมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายเสี่ยงหรือฝ่าฝืนข้อกำหนดของบริษัทประกัน ความคุ้มครองนั้นอาจหมดลงทันทีโดยไม่ทันตั้งตัว มารู้เท่าทัน 4 พฤติกรรมต้องห้าม ที่อาจเป็นเหตุให้บริษัทประกันยกเลิกหรือปฏิเสธความคุ้มครองก่อนเกิดปัญหาใหญ่กันดีกว่า!
1. ข้อมูลผู้เอาประกันไม่เป็นความจริง
ไม่ว่าจะเป็นการระบุอาชีพ รายได้ หรือการใช้รถที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง เช่น แจ้งว่าใช้รถส่วนตัว แต่เอาไปใช้รับจ้างบรรทุกของ หากบริษัทตรวจพบอาจปฏิเสธความคุ้มครองได้ทันที เพราะถือว่าเป็นการปกปิดข้อมูลสำคัญ
2. มีการเคลมประกันบ่อยเกินไป
หลายคนอาจคิดว่าเคลมได้ก็เคลมไปเถอะ แต่รู้ไหมว่าเคลมบ่อยเกินไปจนผิดสังเกตอาจทำให้บริษัทมองว่าคุณเป็นผู้เอาประกันที่มีความเสี่ยงสูง และอาจไม่ต่ออายุกรมธรรม์หรือถึงขั้นยกเลิกทันทีเมื่อหมดอายุ
3. ประวัติการเคลมผิดปกติ
เช่น เคลมอุบัติเหตุซ้ำ ๆ ในรูปแบบเดิม หรือรถเกิดเหตุในลักษณะที่ไม่สมเหตุสมผล บางกรณีมีการตรวจสอบพบว่าเป็นการจัดฉาก ก็จะโดนปฏิเสธความคุ้มครองแน่นอน
4. ทุจริตในการเคลมประกัน
กรณีที่รุนแรงที่สุด เช่น ทำเอกสารปลอมหรือแอบอ้างอุบัติเหตุเพื่อเรียกรับค่าสินไหม หากถูกจับได้ไม่เพียงแต่จะโดนยกเลิกประกันรถยนต์เท่านั้น แต่ยังอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอีกด้วย
โดนยกเลิกประกันรถยนต์ ต้องทำอย่างไร
เมื่อได้รับหนังสือแจ้งว่าประกันรถยนต์ถูกยกเลิก หลายคนอาจตกใจหรือไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นแก้ไขอย่างไรดี สิ่งสำคัญคือต้องไม่ละเลย และรีบดำเนินการตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการขับขี่ในอนาคต เช่น เสียประวัติ หรือไม่สามารถทำประกันใหม่ได้กับบางบริษัท
ขั้นตอนในการดำเนินการ
- อ่านเอกสารแจ้งยกเลิกให้ครบถ้วน – ตรวจสอบว่าเหตุผลที่ระบุมีความชัดเจนหรือไม่ และสอดคล้องกับพฤติกรรมจริงหรือไม่
- สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ – หากไม่เข้าใจรายละเอียดบางจุด ควรติดต่อบริษัทประกันโดยตรงเพื่อขอคำชี้แจง หรือขอเอกสารประกอบเพิ่มเติม
- เก็บเอกสารทุกอย่างไว้เป็นหลักฐาน – เช่น สำเนากรมธรรม์เดิม หนังสือแจ้งยกเลิก ใบเสร็จเบี้ยประกันรถ เพื่อใช้กรณีร้องเรียนภายหลัง
- ติดต่อ คปภ. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย) – หากไม่พอใจหรือเห็นว่าการยกเลิกไม่เป็นธรรม สามารถยื่นคำร้องเรียนหรืออุทธรณ์ได้
- รีบหาประกันใหม่โดยเร็วที่สุด – เพื่อให้ความคุ้มครองของรถไม่ขาดช่วง และรักษาสิทธิประโยชน์หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน
- ตรวจสอบข้อมูลในระบบ Thai Insurance Information Center (TIIC) – เพื่อดูว่ามีประวัติที่อาจส่งผลต่อการสมัครประกันใหม่หรือไม่

โดนยกเลิกประกันรถยนต์ ได้เงินคืนหรือไม่
ในกรณีที่บริษัทเป็นฝ่ายยกเลิกเอง ผู้เอาประกันมักจะมีสิทธิ์ได้รับเงินคืนบางส่วน ซึ่งจะคำนวณจากช่วงเวลาที่เหลือของกรมธรรม์ และต้องหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตามสัญญา เช่น ค่าธรรมเนียม หรือลดหย่อนต่าง ๆ ที่ใช้ไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม หากการยกเลิกเกิดจากพฤติกรรมของผู้เอาประกันเอง เช่น การปกปิดข้อมูล หรือทุจริต อาจไม่ได้รับเงินคืนเลย หรือบางกรณีอาจถูกปรับเพิ่มและไม่สามารถซื้อประกันจากบางบริษัทได้อีกในอนาคต ในกรณีที่ประกันรถยนต์ถูกยกเลิกกลางคัน บริษัทอาจคืนเงินค่าเบี้ยประกันตามส่วนที่เหลือ (หากเป็นการยกเลิกฝ่ายเดียวจากบริษัท) แต่หากเกิดจากพฤติกรรมไม่เหมาะสมของผู้เอาประกัน อาจไม่ได้รับคืนเลย
ยกเลิกประกันรถยนต์เองได้หรือไม่
การยกเลิกประกันรถยนต์โดยสมัครใจของผู้เอาประกันสามารถทำได้ แต่ต้องเป็นไปตามขั้นตอนและเงื่อนไขที่บริษัทประกันภัยกำหนดอย่างชัดเจน ซึ่งการยกเลิกนั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ต้องการเปลี่ยนบริษัทประกัน ต้องการลดค่าใช้จ่าย หรือรถไม่ได้ใช้งานเป็นระยะเวลานาน
ขั้นตอนในการยกเลิก
- ติดต่อบริษัทประกันภัยเพื่อแจ้งความประสงค์
- กรอกเอกสารแบบฟอร์มการขอยกเลิกกรมธรรม์
- แนบสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนรถ
- หากมีใบเสร็จชำระเบี้ยประกัน ควรแนบประกอบด้วย
- รอการอนุมัติและรับหนังสือยืนยันการยกเลิก
ได้รับเงินคืนหรือไม่?
โดยทั่วไป ผู้เอาประกันมีสิทธิ์ขอคืนเงินเบี้ยประกันตามสัดส่วนความคุ้มครองที่ยังไม่ได้ใช้ ซึ่งบริษัทจะคำนวณตามตารางสัดส่วนวันความคุ้มครองที่เหลืออยู่ (Short Rate Table) และหักค่าธรรมเนียมตามที่ระบุไว้ในสัญญา
สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจยกเลิกประกันรถยนต์
- หากยกเลิกแล้วไม่มีการทำประกันใหม่ทันที จะทำให้รถขาดความคุ้มครอง ซึ่งเสี่ยงทั้งทางกฎหมายและค่าใช้จ่าย
- การยกเลิกอาจมีผลต่อประวัติการประกันภัยในอนาคต เช่น บริษัทใหม่อาจตั้งข้อสังเกต
- หากผ่อนเบี้ยประกันรายเดือน การยกเลิกอาจมีผลกับภาระหนี้ที่ต้องชำระคงค้างอยู่
ดังนั้น ก่อนตัดสินใจยกเลิกประกันรถยนต์ ควรพิจารณาให้รอบคอบ หรือปรึกษาตัวแทนประกันเพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องที่สุด
สรุป
การมี “ประกันรถยนต์” ไม่ใช่แค่การซื้อแล้วจบ แต่ผู้เอาประกันต้องเข้าใจเงื่อนไขและพฤติกรรมที่อาจส่งผลให้โดนยกเลิกหรือปฏิเสธความคุ้มครองได้ การเคลมอย่างเหมาะสม การให้ข้อมูลตรงไปตรงมา และการมีเจตนาดีในการใช้สิทธิ์ตามกรมธรรม์คือกุญแจสำคัญ
หากคุณไม่อยากให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น แนะนำให้เลือกบริษัทประกันที่น่าเชื่อถือ เช่น “วิริยะประกันภัย” ที่ให้บริการโปร่งใส พร้อมทีมงานมืออาชีพ ช่วยให้คุณมั่นใจได้ทุกการเดินทาง ซึ่งหลายคนเลือกใช้ ประกันวิริยะ เป็นตัวเลือกหลักสำหรับความคุ้มครองที่เชื่อถือได้