เบี้ยดีโดนใจ ประกันภัยชั้น 1 เบี้ยเริ่ม 750 บาท/เดือน พิเศษรับส่วนลดสูงสุด 30% เช็กเบี้ยที่นี่ กับ SILKSPAN

ประกันรถยนต์ ลดหย่อนภาษีได้ไหม? เรื่องที่คนมีรถต้องรู้ก่อนยื่นภาษี


ประกันรถยนต์ ลดหย่อนภาษีได้ไหม

เมื่อเข้าสู่ช่วงเทศกาลยื่นภาษี หลายคนที่เพิ่งถอยรถใหม่หรือจ่ายค่าเบี้ยประกันรถยนต์ไปก้อนโต มักเกิดคำถามยอดฮิตว่าค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถยนต์เหล่านี้สามารถนำมาช่วยประหยัดภาษีได้หรือไม่ เพราะค่าใช้จ่ายในการดูแลรถถือเป็นภาระก้อนใหญ่ในแต่ละปี การวางแผนภาษีที่ดีจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้คุณมีเงินเหลือเก็บมากขึ้น บทความนี้ SILKSPAN จะพาไปไขข้อข้องใจว่า สรุปแล้ว ประกันรถยนต์ ลดหย่อนภาษีได้ไหม? และมีค่าลดหย่อนอะไรบ้างที่คุณไม่ควรพลาด เพื่อให้การยื่นภาษีของคุณในปีนี้คุ้มค่าที่สุด


Key Takeaways

  • ประกันรถยนต์ไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ ไม่ว่าจะเป็นประกันชั้น 1, ชั้น 2+ หรือชั้น 3+ เนื่องจากภาครัฐมองว่าเป็นความสมัครใจและไม่ใช่ปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีพเหมือนสุขภาพ
  • ประกันที่ลดหย่อนภาษีได้ ได้แก่ ประกันชีวิต (สูงสุด 100,000 บาท), ประกันสุขภาพ (สูงสุด 25,000 บาท) และประกันแบบบำนาญ ซึ่งช่วยวางแผนการเงินระยะยาว
  • แม้ประกันภัยรถยนต์จะลดหย่อนภาษีไม่ได้ แต่ยังมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการคุ้มครองความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่อาจทำให้เสียทรัพย์สินจำนวนมากโดยไม่คาดคิด

การลดหย่อนภาษี คืออะไร

ก่อนจะไปดูว่าประกันรถยนต์ลดหย่อนภาษีได้ไหม SILKSPAN อยากชวนคุณทำความเข้าใจกับคำว่า “การลดหย่อนภาษี” กันก่อน 

การลดหย่อนภาษีคือสิทธิประโยชน์ที่กฎหมายกำหนดให้ผู้เสียภาษีสามารถนำรายการค่าใช้จ่ายบางประเภท มาหักออกจาก “เงินได้พึงประเมิน” (รายได้รวมทั้งปี) ก่อนที่จะนำไปคำนวณภาษีตามฐานภาษีแบบขั้นบันได

พูดง่าย ๆ ก็คือ รายการลดหย่อนเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นตัวช่วยลดฐานรายได้ของคุณลง ทำให้คุณเสียภาษีน้อยลง หรืออาจได้รับเงินคืนภาษีกลับมานั่นเอง ซึ่งรัฐบาลมักจะกำหนดรายการลดหย่อนเพื่อสนับสนุนนโยบายต่าง ๆ เช่น การออมเงินระยะยาวผ่านกองทุน การดูแลสุขภาพ หรือการกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นต้น


ประกันรถยนต์ ลดหย่อนภาษีได้ไหม?

ประกันรถยนต์ ลดหย่อนภาษี

คำตอบที่ชัดเจนที่สุดสำหรับคำถาม ประกันรถยนต์ ลดหย่อนภาษีได้ไหม? คือ “ไม่ได้” ไม่ว่าคุณจะทำประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันรถยนต์ชั้น 2+ , ประกันรถยนต์ 3+ หรือประกันรถยนต์ชั้น 3 และไม่ว่าเบี้ยประกันที่คุณจ่ายไปจะสูงแค่ไหน ก็ไม่สามารถนำมาใช้เป็นค่าลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาได้

สาเหตุที่ประกันรถยนต์ใช้ลดหย่อนภาษีไม่ได้ เป็นเพราะกรมสรรพากรกำหนดหลักเกณฑ์ไว้ว่า ค่าลดหย่อนจะต้องเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต สุขภาพ หรือการสร้างความมั่นคงในระยะยาวให้กับประชาชน (เช่น ประกันชีวิต หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ) ซึ่งประกันรถยนต์และประกันวินาศภัยส่วนใหญ่ ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ของความคุ้มครองทรัพย์สินและความสมัครใจส่วนบุคคล จึงไม่เข้าข่ายได้รับการยกเว้นทางภาษี

รวมถึงกรณีคำถาม ซื้อรถยนต์ลดหย่อนภาษีได้ไหม คำตอบก็คือไม่ได้เช่นกัน ยกเว้นแต่จะมีมาตรการพิเศษจากรัฐบาลออกมาในช่วงเวลานั้น ๆ เช่น โครงการช้อปดีมีคืน (ในบางปีที่มีเงื่อนไขเฉพาะ) แต่โดยสถานการณ์ปกติ ค่าผ่อนรถหรือค่าซ่อมรถจะไม่สามารถนำมาลดหย่อนได้


ประกันรถยนต์ลดย่อนภาษีไม่ได้ แต่ทำไมยังสำคัญ?

ถึงแม้ประกันรถยนต์จะเอาไปลดหย่อนภาษีไม่ได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าประกันรถยนต์ไม่มีความจำเป็น เพราะหน้าที่หลักของประกันรถยนต์ คือการบริหารความเสี่ยงทางการเงินของคุณ

ลองจินตนาการดูว่าหากเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรถชน รถหาย รถไฟไหม้ หรือรถถูกน้ำท่วม ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นอาจสูงหลักแสนหรือหลักล้านบาท ซึ่งมากกว่าภาษีที่เราประหยัดได้หลายเท่าตัว การมีกรมธรรม์ประกันรถยนต์ติดรถไว้จึงเปรียบเสมือนการมีเกราะป้องกันเงินเก็บของเราไม่ให้หายวับไปกับอุบัติเหตุเพียงครั้งเดียว

โดยเฉพาะประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองครบจบที่สุดหรือ ประกันรถยนต์ 2+ ที่คุ้มครองรถหายและไฟไหม้ สิ่งเหล่านี้คือการลงทุนเพื่อความอุ่นใจในการใช้ชีวิต ซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้การวางแผนภาษีเลยทีเดียว


รวมประกันที่สามารถลดหย่อนภาษีได้ มีอะไรบ้าง

เมื่อผิดหวังจากประกันรถยนต์ไปแล้ว อย่าเพิ่งถอดใจ มาดูกันดีกว่าว่ามีประกันที่ลดหย่อนภาษีได้ประเภทไหนบ้างที่สามารถนำมาวางแผนเพื่อประหยัดภาษีในปีนี้ได้

1. ประกันสังคม 

สำหรับมนุษย์เงินเดือนทุกคน เงินสมทบกองทุนประกันสังคมที่ถูกหักไปทุกเดือนสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 9,000 บาทต่อปี (ขึ้นอยู่กับมาตรการลดหย่อนในแต่ละปี)

2. ประกันชีวิต ประกันสะสมทรัพย์

ประกันกลุ่มนี้คือพระเอกของการลดหย่อนภาษี

  • ประกันชีวิตทั่วไป/ประกันสะสมทรัพย์ : สามารถนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนได้ตามจริง สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท โดยกรมธรรม์ต้องมีความคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
  • ประกันชีวิตคู่สมรส : หากสามีหรือภรรยาไม่มีรายได้ สามารถนำเบี้ยประกันชีวิตของคู่สมรสมาลดหย่อนได้สูงสุด 10,000 บาท
  • ประกันชีวิตแบบบำนาญ : ลดหย่อนเพิ่มได้อีก 15% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท (เมื่อรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท)

3. ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ

ปัจจุบันคนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น รัฐบาลจึงสนับสนุนให้ประกันในกลุ่มนี้สามารถเอาไปลดหย่อนภาษีได้

  • ประกันสุขภาพตัวเอง : เบี้ยประกันสุขภาพ (รวมถึงประกันอุบัติเหตุที่มีความคุ้มครองสุขภาพ) นำมาลดหย่อนได้ตามจริง สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท (แต่เมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตในข้อ 2 ต้องไม่เกิน 100,000 บาท)
  • ประกันสุขภาพบิดา-มารดา : หากซื้อประกันสุขภาพให้พ่อแม่ สามารถนำมาลดหย่อนได้ตามจริง สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท (โดยที่พ่อแม่ต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี)

รายการลดหย่อนภาษีที่ควรรู้!

นอกจากเบี้ยประกันแล้วยังมีรายการลดหย่อนอื่น ๆ ที่คุณควรตรวจสอบก่อนยื่นภาษี เพื่อให้มั่นใจว่าคุณใช้สิทธิประโยชน์ได้ครบถ้วนที่สุด ตารางด้านล่างนี้คือสรุปอัตราค่าลดหย่อนภาษีที่คุณควรรู้

รายการลดหย่อนภาษี อัตราค่าลดหย่อนภาษี
กลุ่มภาระส่วนตัวและครอบครัว
ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท 
ค่าลดหย่อนคู่สมรส (ไม่มีเงินได้) 60,000 บาท 
ค่าลดหย่อนบุตร 30,000 – 60,000 บาท/คน 
ค่าลดหย่อนบิดามารดา (อายุ 60 ปีขึ้นไป) 30,000 บาท/คน 
ค่าลดหย่อนผู้พิการหรือทุพพลภาพ 60,000 บาท/คน
ค่าฝากครรภ์และทำคลอด จ่ายตามจริง สูงสุดท้องละ 60,000 บาท 
กลุ่มการออมและลงทุน
กบข./ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ/ สงเคราะห์ครูฯ ตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 15% ของเงินเดือน (รวมกันไม่เกิน 500,000 บาท) 
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 30% ของเงินได้ (รวมกับกองทุนเกษียณอื่นไม่เกิน 500,000 บาท) 
กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 30,000 บาท (รวมกับกองทุนเกษียณอื่นไม่เกิน 500,000 บาท) 
กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 30% ของเงินได้ (ไม่เกิน 200,000 บาท และรวมกลุ่มเกษียณไม่เกิน 500,000 บาท) 
กองทุนไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) ตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 30% ของรายได้ (สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท) 
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และบริจาค
ดอกเบี้ยซื้อที่อยู่อาศัย ตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 100,000 บาท 
เงินบริจาคพรรคการเมือง ตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 10,000 บาท 
เงินลงทุนธุรกิจ Social Enterprise ตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 100,000 บาท 
เงินบริจาคการศึกษา/กีฬา/สังคม/รพ.รัฐ 2 เท่าของที่จ่ายจริง (ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักลดหย่อน) 
เงินบริจาคทั่วไป ตามที่จ่ายจริง (ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักลดหย่อน)

 

ลูกค้าธนชาต ทำประกันรถ1 และ2+ รับฟรี voucher lotus ที่ SILKSPAN


สรุปชัด ประกันรถยนต์ ลดหย่อนภาษีได้ไหม

สรุปชัด ๆ อีกครั้งกับคำถาม ประกันภัยรถยนต์ ลดหย่อนภาษีได้ไหม คำตอบคือ “ไม่ได้” เพราะไม่ได้จัดอยู่ในหมวดปัจจัยพื้นฐานตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร แต่ประกันรถยนต์ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้สำหรับคนมีรถ เพื่อคุ้มครองความเสี่ยงทางการเงินของคุณเอง

หากคุณกำลังมองหาประกันรถยนต์ที่คุ้มค่า หรือต้องการวางแผนการเงินด้วยประกันประเภทอื่น ๆ ทั้งประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุ SILKSPAN พร้อมให้บริการเปรียบเทียบเบี้ยประกันจากบริษัทชั้นนำกว่า 20 แห่ง ช่วยให้คุณเลือกแผนที่ตรงใจในราคาที่ประหยัดกว่า พร้อมบริการผ่อน 0% และสิทธิพิเศษมากมาย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับประกันรถยนต์ ลดหย่อนภาษีได้ไหม

ทําไมประกันรถยนต์ถึงลดหย่อนภาษีไม่ได้

เพราะสิทธิ์ลดหย่อนภาษีที่รัฐบาลกำหนดจะเน้นไปที่ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เศรษฐกิจ และปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตระยะยาว ซึ่งประกันรถยนต์ถูกมองว่าเป็นความสมัครใจในการคุ้มครองทรัพย์สินส่วนบุคคล ไม่นับเป็นปัจจัยพื้นฐานที่นำมาลดหย่อนได้

ยื่นภาษีปี 2568 กี่วันได้เงินภาษีคืน

โดยปกติแล้ว หากยื่นเอกสารครบถ้วน กรมสรรพากรจะดำเนินการคืนเงินภาษีภายใน 3 เดือน นับจากวันที่ยื่นแบบ แต่สำหรับผู้ที่ยื่นภาษีออนไลน์ (E-Filing) และผูกบัญชีพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประชาชน มักจะได้รับเงินคืนรวดเร็วกว่านั้น บางรายอาจได้คืนภายใน 3-7 วันทำการ หากไม่มีการขอเอกสารเพิ่มเติม

เอกสารยื่นภาษี มีอะไรบ้าง

เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียม ได้แก่ 

  1. แบบฟอร์ม ภ.ง.ด. 90 หรือ 91
  2. หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)
  3. เอกสารหลักฐานค่าลดหย่อนต่าง ๆ (เช่น หนังสือรับรองการชำระเบี้ยประกันชีวิต/สุขภาพ) 
  4. เอกสารรับรองเงินปันผล
  5. ใบ ล.ย. 03 (กรณีเลี้ยงดูพ่อแม่)
  6. หลักฐานดอกเบี้ยกู้บ้าน


เขียนโดย : SILKSPAN ADVISOR
เผยแพร่วันที่ : 25/11/2025
รับข้อเสนอพิเศษ

จองสิทธิ์ประกันรถยนต์

ประกันรถยนต์ รับส่วนลดสูงสุด 30% กว่า 20 บริษัทชั้นนำ

  1. ต่ออายุล่วงหน้า รับส่วนลดเพิ่ม สูงสุดกว่า 500 บาท
  2. ผ่อนบัตรเครดิต ผ่อนเงินสด ได้สูงสุด 10 เดือน
  3. ฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม.
  4. ฟรีรถใช้ระหว่างซ่อม หรือ เบิกค่าเดินทาง 1,000 บาท

กรอกข้อมูล เพื่อ “รับข้อเสนอพิเศษ” ต่อประกันรถยนต์

taff-call
“เช็คเบี้ยประกันรถฟรี 24 ชม.”
line

กำลังโหลด