วงเงินบัตรเครดิตคืออะไร ควรรูดเท่าไหร่ ไม่ให้กลายเป็นหนี้
ถ้าใครที่ติดตามข่าวสารบ้านเมืองเป็นประจำ น่าจะเห็นผ่านตากันมาบ้าง ว่าในตอนนี้คนไทยจำนวนมาก กำลังอยู่ในสถานการณ์อันยากลำบากของการ “เป็นหนี้” และหนี้สินอันดับ 1 เกิดจากการใช้บัตรเครดิต แน่นอนว่าเมื่อมีเรื่องราวแบบนี้ คนส่วนมากก็มักจะโทษไปที่ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาบ้านเมือง หรือ อาจจะโบ้ยความผิดมาที่บัตรเครดิตไปซะเฉย ๆ ก็มีเหมือนกัน บทความนี้เราจะมาเตือนผู้ที่กำลังมีบัตรเครดิตเป็นของตนเอง ถึงเรื่องของวงเงินบัตรเครดิตคืออะไร ใช้จ่ายอย่างไรไม่ให้เป็นหนี้ รูดได้เท่าละเท่าไหร่ถึงจะพอ ถ้าพร้อมแล้วไปชมกันเลย
วงเงินบัตรเครดิตคืออะไร ? เรื่องที่ควรรู้ก่อนมีบัตรเครดิตเป็นของตนเอง
เริ่มต้นด้วยการรู้จักกับ “วงเงินบัตรเครดิต” กันเสียก่อน โดยวงเงินนี้คุณจะได้รับข้อเสนอจากสถาบันการเงิน ที่คุณต้องการทำบัตรเครดิตด้วย เรียกกันบ้าน ๆ เลยก็คือ “เครดิต” ที่คุณสามารถนำไปใช้รูดซื้อ หรือ ผ่อนชำระสินค้าต่าง ๆ ได้นั่นเอง ยิ่งคุณมีรายได้สูง มีความมั่นคงทางการเงิน มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี ก็มีโอกาสได้รับวงเงินที่สูง
โดยการคำนวณวงเงินบัตรเครดิต ขึ้นอยู่กับ “ฐานเงินเดือนเฉลี่ย” โดยจะได้ไม่เกิน 1.5 เท่า สำหรับผู้มีเงินเดือนเริ่มต้น 15,000 บาทต่อเดือน และ เพิ่มขึ้นเป็นไม่เกิน 3 เท่า หากเกินกว่า 30,000 บาทต่อเดือน สูงสุดที่ 5 เท่า สำหรับผู้ที่มีเงินเดือนเฉลี่ยมากกว่า 50,000 บาทต่อเดือน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการพิจารณาของแต่ละสถาบันทางการเงิน
3 สิ่งที่ควรรู้ ในการใช้บัตรเครดิตสำหรับมือใหม่ รู้ไว้ไม่เป็นหนี้ !
จากเนื้อหาในหัวข้อเมื่อสักครู่ จะเห็นแล้วว่าวงเงินบัตรเครดิตนั้น มักจะให้มากกว่าเงินเดือนที่เราได้รับอยู่เสมอ ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่เราสามารถใช้จ่ายได้ยืดหยุ่นมากกว่าที่เคย แต่ ! แต่ ! แต่ ! ในทางกลับกันการใช้บัตรเครดิต ก็ไม่ต่างอะไรจากการหยิบยืมเงินในอนาคตมาใช้ล่วงหน้า ถ้าจ่ายเงินได้ตามระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร ถ้าจ่ายไม่ทัน หรือ จ่ายเพียงแค่ยอดขั้นต่ำ ก็ต้องเตรียมตัวเจอกับ “ดอกเบี้ย” ที่ค่อนข้างจะโหดเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นเราเลยมีสิ่งที่คุณควรรู้ ก่อนจะมีบัตรเครดิตใบแรกเป็นของตัวเอง ซึ่งจะมีดังต่อไปนี้
1. ใช้วงเงินบัตรเครดิตเท่าที่จ่ายไหวเท่านั้น
วงเงินที่เราได้รับมาจากบัตรเครดิต ควรจะใช้ไปกับสิ่งที่จำเป็นจริง ๆ เราคงไม่สามารถบอกได้ว่า สิ่งไหนที่จำเป็น สิ่งไหนที่สิ้นเปลือง เพราะความต้องการของแต่ละคน เป็นเรื่องปัจเจกที่ต่างกันออกไป แต่หัวใจสำคัญคือจำต้องมั่นใจว่า “จ่ายไหว” เมื่อถึงกำหนดที่ต้องจ่าย และต้องอย่าลืมเป็นอันขาด !! ว่าเราไม่ได้มีค่าใช้จ่ายแค่บัตรเครดิตเท่านั้น ยังมี ค่าอยู่ ค่ากิน ค่าเดินทาง และ ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกหลายอย่าง เพราะฉะนั้นแล้วหนี้บัตรเครดิตที่มี ควรจะไม่เกิน 20% จากรายได้ในแต่ละเดือน หรือเท่าที่จะไม่รบกวนภาระค่าใช้จ่ายส่วนอื่น
2. เฝ้าสังเกตอัตราการใช้บัตรเครดิตอยู่เสมอ
เมื่อทำความรู้จักกับวงเงินบัตรเครดิตไปแล้ว หากอยากใช้บัตรเครดิตอย่างมีประสิทธิภาพ ก็ควรต้องรู้จักกับ “อัตราการใช้บัตรเครดิต” ในเวลาเดียวกัน อัตราการใช้บัตรเครดิตจะเป็นการคำนวณว่าในตอนนี้ เราใช้วงเงินจากบัตรเครดิตไปแล้วเป็นจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งจะคิดออกมาเป็น % โดยมีคำแนะนำจาก ธนาคารทหารไทยธนชาต ผู้ให้บริการบัตรเครดิต TTB ว่าควรจะมีอัตราการใช้บัตรเครดิตไม่เกินไปกว่า 30% ยกตัวอย่างเช่น หากได้วงเงินบัตรเครดิต 20,000 บาทต่อเดือน ควรมีอัตราการใช้บัตรเครดิตอยู่ที่ไม่ควรเกิน 6,000 บาทต่อเดือน เป็นต้น
3. ตัดไฟที่ต้นลมด้วยการปรับลดวงเงินบัตรเครดิต
อาจไม่ได้เป็นกับทุกคน แต่เชื่อว่ามีหลาย ๆ คนที่มีเงินในมือในจำนวนมาก ๆ แล้วจะเกิดอาการ “มือเติบ” อยากได้อะไรก็ซื้อ อยากได้อะไรก็จับจอง เห็นอะไรก็เกิดกิเลสไปเสียหมด หากคุณกลัวว่าตนเองจะเกิดอาการนี้ สามารถจำกัดวงเงินการใช้บัตรเครดิตได้ จะเป็นการปรับลดให้วงเงินลดน้อยลงมา หรือ เป็นการจำกัดจำนวนวงเงินที่ใช้ได้ในแต่ละวัน ซึ่งในปัจจุบันการจัดการกับวงเงินบัตรเครดิตนั้นสะดวกมาก ๆ ในบัตรเครดิต KTC และบัตรเครดิต UOB รวมถึงบัตรเครดิตอื่น ๆ ต่างก็สามารถจัดการวงเงินด้วยตนเอง ผ่านการตั้งค่าในแอปพลิเคชั่นได้เลยในทันที
บทส่งท้าย
การใช้บัตรเครดิตไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย หากคุณเข้าใจวิธีการใช้งานที่ถูกต้อง บัตรเครดิตเป็นแค่สิ่งของที่ช่วยอำนวยความสะดวกเท่านั้น หากใช้อย่างสร้างสรรค์ก็จะเกิดประโยชน์ ถ้าใช้อย่างไม่ระมัดระวังก็จะมีโทษตามมา ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้งานทั้งสิ้น เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นเครื่องเตือนสติ สำหรับผู้ที่กำลังอยากมีบัตรเครดิตเป็นของตนเอง และเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันด้านการเงินที่ดีต่อทุก ๆ ท่านที่ได้อ่าน ดังที่มีคนเคยกล่าวเอาไว้ว่า สุขใดไหนเล่าจะเท่า “ไม่เป็นหนี้”
