เบี้ยดีโดนใจ ประกันภัยชั้น 1 เบี้ยเริ่ม 750 บาท/เดือน พิเศษรับส่วนลดสูงสุด 30% เช็กเบี้ยที่นี่ กับ SILKSPAN

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คืออะไร? ต้องทำอย่างไรถึงจะได้เงินชดเชย


ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ

อุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว นอกจากความเสียหายที่เกิดกับรถยนต์ที่คุณรัก ยังมีอีกหนึ่งสิทธิ์ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน นั่นคือ “ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ” ซึ่งเป็นเงินชดเชยที่คุณสามารถเรียกร้องได้ในระหว่างที่รถของคุณกำลังซ่อมอยู่ บทความนี้ SILKSPAN จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่าค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถคืออะไร ใครสามารถเรียกร้องได้บ้าง และมีขั้นตอนอย่างไร เพื่อให้คุณไม่พลาดสิทธิ์ที่ควรจะได้รับเมื่อเกิดอุบัติเหตุ


Key Takeaways

  • ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถคือเงินชดเชยที่บริษัทประกันของฝ่ายผิดจะต้องจ่ายให้กับฝ่ายถูก สำหรับการไม่มีรถใช้ในระหว่างที่รถกำลังซ่อม
  • คุณสามารถเบิกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้ก็ต่อเมื่อคุณเป็น “ฝ่ายถูก” ในอุบัติเหตุ และคู่กรณีมีประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ
  • อัตราค่าชดเชยขั้นต่ำตามที่ คปภ. กำหนด เริ่มต้นที่ 500 บาทต่อวัน สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง
  • การเรียกร้องจำเป็นต้องใช้เอกสารสำคัญหลายอย่าง เช่น ใบเคลม, สำเนากรมธรรม์, และหนังสือเรียกร้องสินไหม เพื่อยื่นต่อบริษัทประกันของคู่กรณี
  • หากคู่กรณีไม่มีประกัน คุณยังสามารถเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถจากคู่กรณีได้โดยตรง แต่ควรทำเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อใช้เป็นหลักฐาน

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถคืออะไร

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถคือเงินชดเชยที่บริษัทประกันภัยรถยนต์ของฝ่ายผิด จ่ายให้กับผู้เสียหายซึ่งเป็นฝ่ายถูก เพื่อทดแทนการไม่มีรถยนต์ใช้งานในช่วงเวลาที่รถต้องเข้าซ่อมที่อู่หรือศูนย์บริการจากอุบัติเหตุครั้งนั้น ๆ พูดง่าย ๆ คือเป็นค่าเดินทางหรือค่าเสียโอกาสในระหว่างที่คุณไม่มีรถใช้นั่นเอง โดยผู้ที่เป็นฝ่ายถูกจะต้องเป็นคนดำเนินการเรียกร้องค่าชดเชยนี้กับบริษัทประกันของคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด และจะสามารถทำได้ในกรณีที่ฝ่ายผิดทำประกันภัยภาคสมัครใจไว้เท่านั้น 


ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ได้ในกรณีไหนบ้าง

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คืออะไร

การจะเรียกร้องค่าขาดประโยชน์ได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของอุบัติเหตุเป็นหลัก โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 กรณี ดังนี้

กรณีชนแบบมีคู่กรณี

เมื่อเกิดอุบัติเหตุและพิสูจน์ได้ว่าคุณเป็น “ฝ่ายถูก” คุณมีสิทธิ์เต็มที่ในการเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถจากบริษัทประกันของคู่กรณี ไม่ว่ารถของคุณจะมีประกันรถยนต์หรือไม่ก็ตาม ตราบใดที่คู่กรณีมีประกันภัยภาคสมัครใจ บริษัทประกันของเขาจะเข้ามาดูแลและชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในส่วนนี้ให้

แต่ถ้าหากคู่กรณีไม่มีประกันรถยนต์เลย คุณก็ยังไม่เสียสิทธิ์นี้ไป คุณสามารถเรียกร้องค่าเสียหายส่วนนี้ได้จากตัวคู่กรณีโดยตรง อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันปัญหาในภายหลัง ควรมีการทำหนังสือเรียกร้องค่าขาดประโยชน์หรือบันทึกข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรให้ชัดเจน โดยระบุจำนวนเงินที่ต้องชดใช้และกำหนดเวลาชำระเงินให้แน่นอน โดยตัวอย่างหนังสือเรียกร้องค่าขาดประโยชน์สามารถหาได้จากอินเทอร์เน็ต

กรณีชนแบบไม่มีคู่กรณี

ในกรณีที่คุณขับรถไปชนสิ่งของต่าง ๆ เช่น เสาไฟฟ้า กำแพง หรือเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี จะไม่สามารถเบิกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้ เนื่องจากการเรียกร้องสิทธิ์นี้จะทำได้กับคู่กรณีเท่านั้น แต่หากคุณทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ไว้ก็ยังอุ่นใจได้ เพราะประกันจะให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณ สามารถนำรถเข้าซ่อมและเคลมประกันได้ตามปกติ สำหรับผู้ที่ทำประกันรถยนต์ 2+ หรือประกันรถยนต์ 3+ ซึ่งให้ความคุ้มครองเฉพาะอุบัติเหตุแบบรถชนรถ จะไม่ครอบคลุมกรณีชนแบบไม่มีคู่กรณี คุณจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถด้วยตัวเอง


เรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ใช้เอกสารอะไรบ้าง

ในขั้นตอนของการเรียกร้อง “ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ” กับทางบริษัทประกันภัยรถยนต์คู่กรณี จำเป็นจะต้องเตรียมเอกสารต่าง ๆ ที่ทางบริษัทประกันคู่กรณีต้องใช้งานในการพิจารณาการเรียกร้องค่าชดเชย โดยมีเอกสารดังนี้ที่ต้องเตรียมไว้

  • ใบเสนอรายการความเสียหายของรถยนต์
  • ใบเคลม (ใบรองรับความเสียหายต่อทรัพย์สิน)
  • สำเนาตารางกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์
  • สำเนาทะเบียนรถยนต์
  • สำเนาใบขับขี่รถยนต์
  • สำเนาบัตรประชาชน
  • ใบรับรถ หรือหนังสือส่งมอบรถเสร็จ
  • รูปถ่ายตอนซ่อม
  • รูปถ่ายความเสียหาย
  • หนังสือเรียกร้องสินไหมค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม
  • สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้เอาประกัน

ขั้นตอนการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ

หลังจากเตรียมเอกสารครบถ้วนแล้ว ให้ดำเนินการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. ติดต่อบริษัทประกันของฝ่ายผิด : แจ้งความประสงค์เพื่อขอเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ
  2. ยื่นคำร้องและเอกสาร : ส่งเรื่องและเอกสารสำคัญทั้งหมดที่เตรียมไว้ให้กับบริษัทประกันของคู่กรณีเพื่อประกอบการพิจารณา โดยสามารถยื่นเรื่องได้ทันทีในช่วงที่รถของคุณกำลังซ่อมอยู่
  3. รอการพิจารณาและเจรจา : บริษัทประกันจะใช้เวลาในการพิจารณาเอกสารและประเมินค่าชดเชย ในขั้นตอนนี้อาจมีการติดต่อกลับมาเพื่อเจรจาต่อรองจำนวนเงินค่าขาดประโยชน์ฯ
  4. ตกลงและรับเงินชดเชย : เมื่อเจรจาตกลงจำนวนเงินกันได้แล้ว บริษัทประกันของฝ่ายผิดจะทำการโอนเงินค่าสินไหมทดแทนเข้าบัญชีธนาคารที่คุณได้ให้สำเนาไว้

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ได้ขั้นต่ำต้องวันละกี่บาท

ตามประกาศของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้มีการกำหนดอัตราขั้นต่ำของค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถเพื่อเป็นมาตรฐานในการจ่ายค่าชดเชย โดยแบ่งตามประเภทของรถยนต์ได้ 3 ประเภทดังนี้

  •   รถยนต์ส่วนบุคคล ขนาดไม่เกิน 7 ที่นั่ง จะได้รับค่าชดเชยไม่ต่ำกว่าวันละ 500 บาท
  •   รถยนต์รับจ้างสาธารณะ ขนาดไม่เกิน 7 ที่นั่ง จะได้รับค่าชดเชยไม่ต่ำกว่าวันละ 700 บาท
  •   รถยนต์ขนาดเกิน 7 ที่นั่ง (ทุกประเภท) จะได้รับค่าชดเชยไม่ต่ำกว่าวันละ 1,000 บาท

ทั้งนี้ อัตราดังกล่าวเป็นเพียงอัตราขั้นต่ำเท่านั้น คุณสามารถเจรจาต่อรองเพื่อขอค่าชดเชยที่สูงขึ้นได้ หากมีหลักฐานค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่เกิดขึ้นจริง เช่น ใบเสร็จค่าแท็กซี่ หรือค่าเช่ารถ


ตัวอย่างแบบฟอร์มเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ตัวอย่าง

โดยทั่วไปแล้ว แบบฟอร์มค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถจะมีรายละเอียดสำคัญที่ต้องกรอก เช่น ข้อมูลของผู้เรียกร้อง, ข้อมูลรถยนต์, รายละเอียดของอุบัติเหตุ, ระยะเวลาที่รถเข้าซ่อม และจำนวนเงินที่เรียกร้อง ซึ่งคุณสามารถขอแบบฟอร์มนี้ได้จากบริษัทประกันของคู่กรณี หรือดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ของ คปภ. และยื่นพร้อมกับเอกสารประกอบอื่น ๆ


ตัวอย่างสถานการณ์การเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ

สมมุติว่ารถยนต์ของนางสาว ก. ถูกชนและได้รับความเสียหายจนไม่สามารถทำการใช้งานได้ จำเป็นต้องทำการส่งซ่อมที่อู่ ซึ่งมีต้องเวลาในการรออะไหล่และคิวซ่อมทั้งหมดรวม 90 วัน ในกรณีนี้ นางสาว ก. สามารถทำการเรียกร้องค่าชดเชยค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้ทั้งหมดกี่วัน

โดยปกติรถยนต์โดยทั่วไปที่จำนวนที่นั่งไม่เกิน 7 ที่นั่ง จะได้รับค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถวันละประมาณ 500 บาท ในกรณีนี้ บริษัทประกันคู่กรณีได้ให้ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถเป็นจำนวน 500 บาทตามทั่วไป แต่ทางบริษัทประกันคู่กรณีได้ทำการตีระยะเวลาซ่อมแค่ 20 วัน

ในกรณีนี้ นางสาว ก. สามารถเรียกร้องค่าเสียหายเต็มจำนวน 90 วันได้ โดยทั่วไปอู่มักใช้เวลาในการซ่อมประมาณ 15-30 วัน แต่ในกรณีนี้เกิดความล่าช้าในการสั่งซื้ออะไหล่ และการรอคิวการซ่อมทำให้เกิดความล่าช้าไปถึง 90 วัน

ซึ่งถ้าในปัจจุบันหากมีการซ่อมที่กินเวลาเกิน 45 วัน แต่ฝ่ายที่เสียหายเป็นฝ่ายถูก และมีหลักฐานในการยืนยันว่าเกิดความล่าช้าในการซ่อมจริง สามารถทำการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว แต่จะได้รับเพียงค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถเพียงเท่านั้น

ในส่วนของค่าขาดรายได้ในการไม่ได้ทำงาน ไม่สามารถทำการเรียกร้องได้ ในขั้นตอนนี้ทางฝ่ายนางสาว ก.จะต้องทำการเจรจากับทางบริษัทประกันภัยรถยนต์ของคู่กรณีเพื่อหาข้อสรุปและจำนวนเงินที่ทางบริษัทประกันจะทำการชดเชยให้ ซึ่งถ้าหากไม่สามารถเจรจาหาข้อสรุปลงได้ สามารถนำเรื่องเข้ามาให้ทางสำนักงาน คปภ. ช่วยทำการดูแลและไกล่เกลี่ยได้


 

ลูกค้าธนชาต ทำประกันรถ1 และ2+ รับฟรี voucher lotus ที่ SILKSPAN


ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ สำคัญสำหรับคนมีรถอย่างไร?

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถถือเป็นสิทธิพื้นฐานที่ผู้เป็นฝ่ายถูกในอุบัติเหตุทางรถยนต์ทุกคนควรทราบและไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นเงินชดเชยที่ช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางระหว่างที่รถของคุณไม่สามารถใช้งานได้ การเตรียมเอกสารให้พร้อมและทำความเข้าใจขั้นตอนต่าง ๆ จะช่วยให้การเรียกร้องสิทธิ์ของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว

สำหรับใครที่กำลังมองหาประกันรถบริษัทไหนดีที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นประกันรถวิริยะ, ประกันรถโตเกียวมารีน, ประกันรถยนต์ไทยวิวัฒน์ และประกันรถยนต์กรุงเทพ หรือต้องการคำปรึกษาเรื่องการเคลมประกัน ที่ SILKSPAN เรามีผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำแนะนำและเปรียบเทียบแผนประกันจากบริษัทชั้นนำกว่า 20 แห่ง เพื่อให้คุณได้รับความคุ้มครองที่ดีที่สุดในราคาที่คุ้มค่า

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างเกิดความเสียหายบางส่วนกับความเสียหายสิ้นเชิง แตกต่างกันหรือไม่?

ไม่แตกต่างกัน ตราบใดที่รถเกิดความเสียหายและต้องเข้าซ่อม ทำให้คุณไม่มีรถใช้ คุณก็สามารถเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้ทั้งสองกรณี

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ รถประเภทไหนบ้างที่สามารถเรียกร้องได้?

รถทุกประเภทที่เป็นฝ่ายถูกในอุบัติเหตุสามารถเรียกร้องได้ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล (ไม่เกิน 7 ที่นั่ง หรือเกิน 7 ที่นั่ง), รถยนต์รับจ้างสาธารณะ หรือแม้กระทั่งค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ มอเตอร์ไซค์ ก็สามารถเรียกร้องได้เช่นกัน

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ประกันชั้นไหนที่สามารถเรียกร้องได้บ้าง?

ไม่ว่าคุณจะทำประกันชั้นไหน หรือแม้กระทั่งไม่ได้ทำประกันเลยก็ตาม หากคุณเป็นฝ่ายถูก คุณสามารถเรียกร้องค่าขาดประโยชน์ฯ จากบริษัทประกันของคู่กรณีได้เสมอ

ถ้าเราเป็นฝ่ายผิดจะสามารถเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้หรือไม่?

ไม่สามารถทำได้ สิทธิ์ในการเรียกร้องค่าเสียประโยชน์จากการใช้รถสงวนไว้สำหรับผู้ที่เป็น “ฝ่ายถูก” เท่านั้น หากคุณเป็นฝ่ายผิด คุณจะได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยที่คุณทำไว้เท่านั้น

ใครต้องจ่ายค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ถ้าไม่มีประกัน

ในกรณีที่คู่กรณีไม่มีประกัน คุณจะต้องเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถโดยตรงกับผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถที่เป็นฝ่ายผิด และควรจัดทำเอกสารข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรไว้เป็นหลักฐาน


เขียนโดย : Ecomoney
เผยแพร่วันที่ : 25/09/2025
รับข้อเสนอพิเศษ

จองสิทธิ์ประกันรถยนต์

ประกันรถยนต์ รับส่วนลดสูงสุด 30% กว่า 20 บริษัทชั้นนำ

  1. ต่ออายุล่วงหน้า รับส่วนลดเพิ่ม สูงสุดกว่า 500 บาท
  2. ผ่อนบัตรเครดิต ผ่อนเงินสด ได้สูงสุด 10 เดือน
  3. ฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม.
  4. ฟรีรถใช้ระหว่างซ่อม หรือ เบิกค่าเดินทาง 1,000 บาท

กรอกข้อมูล เพื่อ “รับข้อเสนอพิเศษ” ต่อประกันรถยนต์

taff-call
“เช็คเบี้ยประกันรถฟรี 24 ชม.”
line

กำลังโหลด