รถยนต์ไฟฟ้าสามารถขับลุยน้ำท่วมได้ไหม ? รถจะพังหรือเปล่า

ในช่วงฤดูฝนแบบนี้ คนที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าย่อมเกิดความกังวลเป็นธรรมดา เพราะอย่างที่รู้ ๆ กันอยู่แล้วว่า “ไฟฟ้า” และ “น้ำ” ไม่ถูกกันโดยสิ้นเชิง อุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่ หากปล่อยให้สัมผัสน้ำโดยตรง ก็มีโอกาสสูงมากที่จะเกิดความเสียหาย ในกรณีนี้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ในสายตาของหลาย ๆ คน ก็ยังถูกมองเป็นเหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่ง ถ้าเกิดขับไปลุยน้ำท่วมจะทำให้เกิดความเสียหายหรือไม่ ? แล้วมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อผู้ขับขี่มากน้อยแค่ไหน ? ทุกข้อสงสัย SILKSPAN เตรียมคำตอบมาฝากทุกคนเรียบร้อยแล้ว

ไขข้อสงสัย รถยนต์ไฟฟ้าไม่สามารถขับลุยน้ำท่วมได้จริงเหรอ ?

เทรนด์การใช้รถยนต์ไฟฟ้ากำลังแพร่หลายเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นการเลือกใช้พลังงานสะอาด ลดมลพิษที่จะปล่อยออกไปสู่ชั้นบรรยากาศ แถมยังมีค่าใช้จ่ายด้านในส่วนของเชื้อเพลิงที่ถูกกว่า เมื่อเทียบกับรถสันดาปอย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ประเทศไทยมักจะประสบปัญหา “น้ำรอการระบาย” อยู่บ่อยครั้งในหลาย ๆ พื้นที่ทั่วประเทศ จนทำให้ผู้ที่ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า กังวลว่ารถจะได้รับความเสียหาย จากปัญหาเหล่านี้หรือไม่ เบื้องต้นเราขอแจ้งเอาไว้เลยว่า “ขับลุยได้.. แต่ต้องระวัง” รถไฟฟ้าทนกว่าที่คุณคิด แต่จะทนขนาดไหน ตามไปดู !

เข้าใจถึง “มาตรฐาน IP” ค่าที่ชี้วัดว่า รถยนต์ไฟฟ้าของคุณลุยน้ำได้แค่ไหน ?

ถึงรถยนต์ไฟฟ้าจะไม่ถูกกับน้ำ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า เมื่อสัมผัสกับน้ำปุ๊บ ! รถจะเสียปั๊บ ! เพราะนวัตกรรมด้านยานยนต์นั้นก้าวหน้าไปไกลมาก ทำให้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า สามารถทนต่อการลุยน้ำได้ดียิ่งขึ้น การันตีด้วย “มาตรฐาน IP” ซึ่งย่อมาจาก Ingress Protection กล่าวโดยง่ายคือ มาตรฐานป้องกันน้ำและฝุ่น โดยจะมีตัวเลข 2 หลักเป็นตัวกำกับ เลขตัวแรกเป็นมาตรฐานการป้องกันฝุ่น จะมีตัวเลขอยู่ที่ 0-6 และ เลขที่ตัวสองเป็นมาตรฐานการป้องกันน้ำ จะมีตัวเลขอยู่ที่ 0-9 ยิ่งตัวเลขทั้งสองหลักสูงเท่าไหร่ บ่งบอกถึงมาตรฐานที่ดีขึ้นเท่านั้น

โดยส่วนมากแล้วรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย จะได้มาตรฐานอยู่ที่ IP67 ไปจนถึง IP68 ทำให้เราสามารถสรุปได้เลยว่า รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย “ขับรถลุยน้ำได้” แต่จะต้องเป็นน้ำที่มีความสูงประมาณ 1 เมตร และ ห้ามขับลุยติดต่อกันนานเกินกว่า 30 นาที ทว่าทางที่ดี ควรหลีกเลี่ยงการขับลุยน้ำ ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ แบบนั้นน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีมากกว่า และมีเคล็ดลับดี ๆ อีกนิดหน่อย ถ้าขับรถลุยน้ำหรือลุยฝน เมื่อถึงที่หมายอย่าเพิ่งดับรถในทันที ติดเครื่องทิ้งไว้ในพื้นที่ร่ม แห้ง น้ำไม่ท่วมรถสักครู่ เพื่อเป็นการระบายน้ำที่ยังหลงเหลืออยู่ในชิ้นส่วนต่าง ๆ ของรถ

แนะนำ 3 สิ่งที่ควรระวัง สำหรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในช่วงฤดูฝน

แม้เนื้อหาข้างต้นจะบอกว่า รถยนต์ไฟฟ้าสามารถลุยน้ำได้ แต่ถึงอย่างไรการหลีกเลี่ยงก็สถานการณ์สุ่มเสี่ยง ก็เป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม นอกจากเรื่องของการระวังรถจะพังจากน้ำท่วมขัง ยังมีเรื่องอื่น ๆ ที่คุณต้องระวังเป็นพิเศษ ระหว่างการใช้รถไฟฟ้าในช่วงฤดูฝนในประเทศไทย ซึ่งเราอยากจะแนะนำ 3 ที่ควรระวังเป็นพิเศษ ดังต่อไปนี้

1. เมื่อมีน้ำขังบนท้องถนน ไม่ควรขับขี่ด้วยความเร็ว

รถยนต์ไฟฟ้ามีศูนย์ถ่วงของช่วงล่างที่ค่อนข้างต่ำ จากน้ำหนักของแบตเตอรี่ ซึ่งส่งผลดีต่อการขับขี่ ที่ทำให้รถเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น การเข้าโค้งทำได้อย่างนุ่มนวล แต่เมื่ออยู่ในสถานการณ์น้ำท่วมขัง ก็ควรต้องขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ความเร็วที่ใช้ก็ควรเป็นความเร็วต่ำ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการ “รถเหินน้ำ” และ ยังลดความเสี่ยงจากน้ำที่กระเซ็นขึ้นมาสัมผัสกับชิ้นส่วนของรถได้อีกด้วย

2. หลีกเลี่ยงการจอดรถในพื้นที่เสี่ยงต่อน้ำท่วมขัง

จากเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่าน ๆ มา ทำให้เรารู้ว่า เหตุการณ์น้ำท่วมขังมักจะมีเหตุแจ้งเตือนมาก่อนเสมอ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ฝนตกหนัก ๆ และ ส่วนมากแล้วบริเวณที่เกิดน้ำท่วมขัง มักจะไม่ใช่การท่วมครั้งแรก นั่นทำให้มีการแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำท่วมอยู่เสมอ หากคุณอยู่ในบริเวณที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมขัง ต้องติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และควรนำเอารถยนต์ไฟฟ้าไปจอดในบริเวณที่ปลอดภัย น้ำไม่สามารถท่วมมาถึงตัวรถได้

3. ระมัดระวังระหว่างการชาร์จแบตมากเป็นพิเศษ

“ถ้าตัวเปียกไม่ควรจับปลั๊กไฟ” เรื่องง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็รู้ แต่ !! ยังมีหลาย ๆ คนที่ยังเมิน ทำโดยไม่ได้ใส่ใจ จนเกิดเหตุร้าย ที่เรามักจะเห็นในข่าวอยู่บ่อย ๆ จนชินตา กับอุบัติเหตุเกี่ยวกับไฟฟ้าที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แน่นอนว่ารถยนต์ไฟฟ้าจำเป็นต้องชาร์จแบตเตอรี่ ในกรณีที่ต้องการชาร์จไฟฟ้า ต้องมั่นใจว่าพื้นที่โดยรอบไม่มีน้ำขัง อุปกรณ์ชาร์จไม่เปียกน้ำ สายไฟไม่มีจุดที่ชำรุด และ ตัวรถควรจะแห้งสนิท ถึงนวัตกรรมต่าง ๆ จะถูกออกแบบเพื่อให้มีความปลอดภัยมากที่สุดแล้ว แต่ถึงอย่างไรความระมัดระวัง ก็ยังเป็นสิ่งที่ควรทำอยู่เสมอ

กรณีที่รถยนต์ไฟฟ้าเกิดความเสียหายจากน้ำท่วม ประกันรับเคลมไหม ?

ในปี 2024 เป็นช่วงที่ราคารถเก๋งไฟฟ้าลดลงมาอย่างฮวบฮาบ ทำให้จำนวนผู้ใช้รถไฟฟ้าเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว และนั่นก็มาพร้อมกับข้อสงสัยที่เพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในกรณีที่ขับรถไฟฟ้าลุยน้ำท่วม แล้วรถได้รับความเสียหาย กรณีนี้สามารถเคลมประกันได้ไหม ? คำตอบคือ “เคลมได้” แต่จะต้องเป็นประกันชั้น 1 เท่านั้น และยังมีประกันชั้น 2+ และ 3+ ของบางบริษัทที่ให้ความคุ้มครอง ทว่าจะต้องเป็นในกรณี “สุดวิสัย” เพียงเท่านั้น ถ้าเกิดจากความประมาทเลินเล่อ กรณีเหล่านี้ประกันจะไม่รับเคลม

บทส่งท้าย

ด้วยราคารถเก๋งไฟฟ้าที่อยู่ในเกณฑ์ที่น่าครอบครอง ทำให้หลาย ๆ คนเลือกจะถอยรถยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงในช่วงเวลานี้ เมื่อได้รถยนต์ที่ต้องการแล้ว สิ่งที่ควรมองหาเป็นสิ่งต่อมาคือ “ประกันภัยรถยนต์” ถ้ายังไม่รู้ว่ารถไฟฟ้าควรเลือกใช้ประกันแบบไหนดี ? SILKSPAN พร้อมให้คำปรึกษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ด้วยประสบการณ์กว่า 23 ปี ผ่านการดูแลลูกค้ามาแล้วกว่า 4,000,000 ราย น่าจะช่วยการันตีได้แล้วว่า เราคือผู้เชี่ยวชาญด้านประกันภัยโดยแท้จริง สามารถเปรียบเทียบราคาได้ มีบริการผ่อน 0% ไม่ใช้บัตร และส่วนลดสุดพิเศษอีกมากมาย