เบี้ยดีโดนใจ ประกันภัยชั้น 1 เบี้ยเริ่ม 750 บาท/เดือน พิเศษรับส่วนลดสูงสุด 30% เช็กเบี้ยที่นี่ กับ SILKSPAN

รับมืออย่างไรดี ? เมื่อรถความร้อนขึ้น หม้อน้ำรถยนต์มีปัญหา มีควันพุ่งออกจากรถ


หม้อน้ำรถยนต์มีปัญหา รถความร้อนขึ้น มีควัน ต้องทำยังไง

เรามั่นใจว่าผู้ใช้รถเป็นประจำ น่าจะไม่อยากอยู่ในสถานการณ์ “รถความร้อนขึ้น” อย่างแน่นอน เพราะเป็นเหตุการณ์ที่คุณจะต้องนำรถสุดที่รักเข้าไปเช็คที่อู่ แถมยังอาการของตัวรถที่มักจะมีควันพวยพุ่งออกมา ก็ดูแล้วจะน่ากลัวอยู่พอสมควร บทความนี้เราจะพาไปทำความเข้าใจกับปัญหานี้พร้อม ๆ กัน มาดูกันเลยว่าปัญหานี้เกิดจากอะไร ? มีสาเหตุจากหม้อน้ำรถยนต์มีปัญหาจริงไหม ? และ ต้องรับมือกับสถานการณ์อย่างไรดี ?


สัญญาณเตือน รถความร้อนขึ้นสังเกตได้จากอะไร ?

อาการรถความร้อนขึ้น มักจะมาพร้อมกับสัญญาณเตือนที่เห็นได้ชัด เนื่องจากเมื่อเครื่องยนต์โอเวอร์ฮีท ความร้อนภายในตัวรถจะเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ภายในรถที่ปกติจะต้องเย็นฉ่ำจากการเปิดแอร์ มีอากาศที่ร้อนอบอ้าวจนผู้ขับขี่สัมผัสได้ และเมื่อความร้อนรถขึ้นก็มักจะมีอาการเหล่านี้อีกด้วย

เกจวัดความร้อนผิดปกติ

เมื่อความร้อนรถขึ้นจนผิดปกติ ในรถยนต์จะมี “เกจวัดความร้อน” ซึ่งจะแสดงบนหน้าปัดรถยนต์ ในรถรุ่นเก่า ๆ จะเป็นตัวอักษร C และ H ปกติแล้วเข็มควรจะอยู่ตรงกลางของตัวอักษรทั้งคู่ แต่เมื่อรถมีความร้อนขึ้นเข็มจะเบนไปที่ตัว H ส่วนรถรุ่นใหม่ ๆ จะมีไฟเตือนเป็นสัญลักษณ์เทอร์โมมิเตอร์สีแดง

มีควัน หรือไอน้ำพุ่งจากฝากระโปรง

อีกหนึ่งสัญญาณที่พบได้บ่อย และเป็นสัญญาณที่ดูจะน่ากลัวพอสมควร คือการมีควันพวยพุ่งออกมาจากฝากระโปรงรถ สาเหตุของควันมาจากปัญหาบางอย่างที่เกิดขึ้นกับ “หม้อน้ำรถยนต์” อาจจะเป็นหม้อน้ำรั่ว หรือ หม้อน้ำแห้ง ซึ่งเป็นอีกสาเหตุที่พบได้บ่อยของปัญหาความร้อนรถขึ้น


 

ให้ประกันรถคุ้มครองทุกการเดินทาง ผ่อนประกันรถชั้น 1 0% ที่ SILKSPAN


สาเหตุหลักที่ทำให้ เครื่องยนต์โอเวอร์ฮีท

การที่เครื่องยนต์โอเวอร์ฮีทจนทำให้มีการแจ้งเตือนบนเกจวัดความร้อน ไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ เนื่องจากรถยนต์ทุกคันไม่ว่าจะเป็นรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ จะมีระบบระบายความร้อนภายในตัวเรื่อง หากปัญหาเกิดขึ้นจึงมีโอกาสสูงมากที่ชิ้นส่วนใดชิ้นส่วนหนึ่งของระบบความร้อนอาจจะมีปัญหา ยกตัวอย่างเช่น

หม้อน้ำรถยนต์มีปัญหา

หม้อน้ำรถยนต์เปรียบเสมือนหัวใจ ของระบบระบายความร้อนในรถยนต์ หากมีปัญหาในส่วนนี้ ไม่ว่าจะเป็น น้ำแห้ง , ใช้น้ำผิดประเภท หรือ หม้อน้ำรั่ว ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้รถความร้อนขึ้นได้ทั้งสิ้น

พัดลมระบายความร้อนไม่ทำงาน

หากพัดลมระบายความร้อนไม่ทำงาน ทำให้ไม่มีลมไหลผ่านหม้อน้ำ จากนั้นความร้อนในรถก็จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้เกิดปัญหาเครื่องยนต์โอเวอร์ฮีทได้ และมักจะทำให้รถร้อนในขณะที่หยุดนิ่งกับที่

ท่อยางและเข็มขัดรัดหลวม

ท่อยางทำหน้าที่ลำเลียงน้ำหล่อเย็นจากหม้อน้ำ ไปยังระบบระบายความร้อนภายในรถ หากท่อยางมีจุดที่รั่วซึม หรือเข็มขัดรัดบางจุดหลวม ทำให้น้ำหล่อเย็นรั่วไหลจากระบบจนแห้ง สุดท้ายก็จะทำให้รถร้อนนั่นเอง

ปัญหาเครื่องยนต์ หรือปั๊มน้ำ

อีกหนึ่งสาเหตุของปัญหาความร้อนรถขึ้น คือระบบปั๊มน้ำมีการชำรุดเสียหาย ส่งผลให้แรงดันภายในหม้อน้ำผิดปกติ และน้ำยาหล่อเย็นก็จะไม่ไหลเข้าไปในระบบระบายความร้อน ส่งผลให้เครื่องยนต์ร้อนเกินพิกัดนั่นเอง


รถโอเวอร์ฮีทรับมืออย่างไรให้ปลอดภัย ?

เมื่อเกิดปัญหาเครื่องยนต์โอเวอร์ฮีท สิ่งแรกที่ควรต้องทำคือ “ตั้งสติ” หลายคนแตกตื่นจนทำอะไรไม่ถูก หรืออาจตัดสินใจกระทำบางอย่างที่ไม่ควรทำ จนทำให้รถยนต์เกิดความเสียหายหนักไปกว่าเก่า เพราะฉะนั้นเรามาทำความเข้าใจ ถึงวิธีการรับมือเมื่อรถร้อนกันดีกว่า ดังนี้ !

จอดรถในที่ปลอดภัยทันที

เมื่อสังเกตอาการแล้วว่า ตอนนี้รถโอเวอร์ฮีทไม่ว่าจะเห็นควัน หรือ มีไฟเตือนบนหน้าปัด ให้รีบนำรถเข้าจอดในที่ปลอดภัยในทันที ไม่ควรฝืนขับรถต่อในขณะที่รถความร้อนขึ้นโดยเด็ดขาด เพราะรถอาจเสียหายหนักได้

ห้ามเปิดฝาหม้อน้ำทันที

ขณะที่เครื่องยนต์อยู่ในอาการโอเวอร์ฮีท เท่ากับว่าในหม้อน้ำรถร้อนเต็มพิกัด การเปิดหม้อน้ำในตอนนั้นทันที อาจทำให้น้ำเดือด ๆ ในหม้อน้ำระเบิดใส่คุณได้ เป็นเรื่องที่อันตรายเป็นอย่างมาก ไม่ควรทำโดยเด็ดขาด

เติมน้ำเมื่อเครื่องเย็นลงแล้ว

เมื่อมีปัญหาเครื่องยนต์โอเวอร์ฮีท หลังจากจอดรถเรียบร้อยแล้ว รอสักประมาณ 30 นาที ให้เครื่องยนต์เริ่มเย็นลง จากนั้นค่อยเปิดหม้อหม้อน้ำอย่างระมัดระวัง แล้วค่อย ๆ เติมน้ำยาหล่อเย็นลงไปในหม้อน้ำ ย้ำว่า ค่อย ๆ เติม

เรียกช่างผู้เชี่ยวชาญ

หากตรวจพบแล้วว่า ที่มาของอาการรถโอเวอร์ฮีท ไม่ได้เกิดจากปัญหาที่แก้ได้ง่าย ๆ อย่างหม้อน้ำแห้ง เติมน้ำยาหล่อเย็นไปแล้วรถก็ยังมีอาการอยู่ หรือมีกลิ่นไหม้ในห้องเครื่อง ให้รีบเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาจัดการจะดีที่สุด


เคล็ดลับป้องกัน ความร้อนรถขึ้นก่อนออกเดินทาง

แน่นอนว่าไม่มีใครอยากให้เกิดปัญหารถความร้อนขึ้นกับตัวเอง เพราะอาจทำให้รถยนต์ต้องอยู่ในสภาพที่ขับขี่ไม่ได้ในช่วงใหญ่ ๆ ในบางเคสเมื่อรถมีความร้อนขึ้น ส่งผลให้เครื่องยนต์เกิดความเสียหายหนัก จนยากจะซ่อมแซมเลยก็มีให้เห็นบ่อย ๆ ดังนั้นมาเรียนรู้เคล็ดลับการป้องกัน ทำอย่างไรไม่ให้เกิดปัญหานี้กับตัวเองกันดีกว่า

ตรวจสอบระดับน้ำในหม้อน้ำและน้ำยาหล่อเย็นเป็นประจำ

ปริมาณของเหลวในหม้อน้ำรถยนต์ คือสิ่งสำคัญเป็นอย่างมากต่อระบบระบายความร้อนของตัวรถ ควรมีการตรวจสอบปริมาณของเหลวเป็นประจำ ถ้าจะให้ดีอย่างน้อย ๆ อาทิตย์ละ 1 ครั้ง หรือ ก่อนที่จะขับรถเดินทางไกล และอย่าลืมหมั่นเติมน้ำยาหล่อเย็นให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมอยู่เสมอ

เช็คสภาพพัดลมและระบบระบายความร้อน

ถ้าไม่อยากให้รถเครื่องร้อนจนโอเวอร์ฮีท ต้องหมั่นตรวจสอบอาการผิดปกติของตัวรถ โดยเฉพาะในระบบระบายความร้อน พัดลมทำงานเป็นปกติไหม มีเสียงแปลก ๆ ดังออกมาจากเครื่องยนต์หรือไม่ หรือ สังเกตการรั่วซึมของระบบน้ำยาหล่อเย็น หากพบเห็นให้รีบดำเนินการแก้ไขในทันที

เข้าศูนย์บริการตามระยะ

แม้จะมีการดูแลด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอเพียงใด แต่เมื่อถึงระยะเวลาที่เหมาะสม ก็ควรนำรถเข้ารับการบริการที่ศูนย์บริการ ที่ทำกันบ่อย ๆ ก็จะเป็นในช่วงที่ขับจนครบ 10,000 กิโลเมตร ซึ่งศูนย์บริการมักจะบำรุงส่วนต่าง ๆ ของตัวรถที่อาจชำรุดให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานที่สุด ตัดจบแทบจะทุกปัญหาที่เกิดขึ้นกับตัวรถได้ในที่เดียว


บทส่งท้าย

อีกหนึ่งเคล็ดลับในการป้องกันปัญหา “รถความร้อนขึ้น” คือการใช้น้ำยาหล่อเย็นที่มีประสิทธิภาพ ไม่ควรใช้น้ำเปล่าโดยทั่วไปหากไม่ใช่กรณีที่จำเป็นจริง ๆ เพราะในน้ำทั่วไปแม้จะเป็นน้ำดื่มจะมีแร่ธาตุอยู่ หากนำไปเติมใส่หม้อน้ำอาจทำให้เกิดคราบตะกรัน ซึ่งจะไปอุดตันในระบบระบายอากาศได้

สุดท้ายนี้นอกจากการดูแลรถให้ดี ต้องอย่าลืมมองหาหลักประกันที่ช่วยให้การขับขี่อุ่นใจมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ “ประกันภัยรถยนต์” ซึ่งจะช่วยลดความเสียหายที่เกิดขึ้น ในยามที่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน สำหรับท่านใดที่สนใจอยากซื้อประกันภัยรถยนต์ SILKSPAN พร้อมให้คำแนะนำ ช่วยเลือกกรมธรรม์ที่ตอบโจทย์มากที่สุด เพียงกรอกข้อมูลด้านล่างบทความนี้ แล้วเราจะติดต่อกลับไปโดยเร็วที่สุด


เขียนโดย : SILKSPAN ADVISOR
เผยแพร่วันที่ : 07/08/2025
รับข้อเสนอพิเศษ

จองสิทธิ์ประกันรถยนต์

ประกันรถยนต์ รับส่วนลดสูงสุด 30% กว่า 20 บริษัทชั้นนำ

  1. ต่ออายุล่วงหน้า รับส่วนลดเพิ่ม สูงสุดกว่า 500 บาท
  2. ผ่อนบัตรเครดิต ผ่อนเงินสด ได้สูงสุด 10 เดือน
  3. ฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม.
  4. ฟรีรถใช้ระหว่างซ่อม หรือ เบิกค่าเดินทาง 1,000 บาท

กรอกข้อมูล เพื่อ “รับข้อเสนอพิเศษ” ต่อประกันรถยนต์

taff-call
“เช็คเบี้ยประกันรถฟรี 24 ชม.”
line

กำลังโหลด