
เพิ่มวงเงินบัตรเครดิตทำได้อย่างไร

หลังจากการมีบัตรเครดิตและใช้งานบัตรเครดิตมาในระยะเวลาหนึ่ง หลายๆ คน อาจมีความรู้สึกว่าเมื่อเวลาที่ผ่านไปก็เริ่มมีความต้องการที่จะใช้งานบัตรเครดิตในจำนวนที่มากขึ้น จึงนำมาสู่การเพิ่มวงเงินบัตรเครดิตเพื่อความสะดวกในการใช้งาน
เพิ่มวงเงินบัตรเครดิตทำได้อย่างไร
การเพิ่มวงเงินบัตรเครดิตอาจต้องพิจารณาในหลากหลายส่วน เช่น มีการใช้งานบัตรเครดิตในจำนวนที่มากขึ้นและมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น และตัวเราก็มีความพร้อมที่จะจัดสรรวางแผนการใช้จ่ายเงินได้ ก่อนการเพิ่มวงเงินบัตรเครดิตลองมาศึกษาข้อมูลเพื่อใช้ในการตัดสินใจในการทำบัตรเครดิต
การเพิ่มวงเงินมีทั้งหมด 2 วิธีที่สามารถทำได้
เพิ่มวงเงินแบบชั่วคราว
เป็นการเพิ่มวงเงินบัตรเครดิตแบบชั่วคราวเพียงระยะสั้นๆ ในเวลาประมาณ 1-2 เดือน หรือ 1-2 งวด สามารถทำได้โดยการโทรเพื่อขอเพิ่มวงเงินได้ทาง Call Center หรือในหลายๆ ผู้ให้บริการก็สามารถทำผ่านแอปพลิเคชันได้เลย
การเพิ่มวงเงินแบบชั่วคราวเป็นสิ่งที่เหมาะกับการที่เราต้องการยอดแบบกะทันหัน เช่น เรื่องภาระค่าใช้ด้านสุขภาพ เจ็บป่วย หรือ เป็นการเพิ่มวงเงินเพื่อการไปท่องเที่ยวในต่างประเทศในระยะเวลาที่ไม่นาน โดยทางผู้ให้บริการจะพิจารณาจากประวัติการใช้จ่าย ใช้เวลาในขั้นตอนนี้และรออนุมัติประมาณหลักชั่วโมง จนไปถึงประมาณ 1-2 วัน
เพิ่มวงเงินแบบถาวร
การเพิ่มวงเงินบัตรเครดิตแบบถาวรเหมาะสำหรับคนมีการใช้งานบัตรเครดิตเป็นประจำ สามารถบริหารการใช้งานและการจ่ายค่าค้างชำระได้ มีแนวโน้มของการใช้งานบัตรที่สูงขึ้น โดยทางผู้ให้บริการแต่ละแห่งก็จะมีเกณฑ์การพิจารณาที่แตกต่างกัน
- มีประวัติการจ่ายที่ดีหากเราเป็นคนที่ใช้งานบัตรเครดิตและมีการจ่ายบัตรเครดิตได้ตรงทุกงวด จ่ายเต็มจำนวน มีประวัติในการชำระที่ดี ก็จะทำให้มีโอกาสเพิ่มขึ้นในการขอเพิ่มวงเงินบัตร แต่ถ้าหากเคยผิดชำระหรือเคยมีประวัติการจ่ายที่ไม่ดีก็จะมีโอกาสทำให้ขอได้ยากขึ้น
- เพื่ออัปเดตรายได้หลายๆ คนมักมีบัตรเครดิตตั้งแต่เริ่มทำงาน และไม่มีการอัปเดตรายได้ที่มีมากขึ้น อาจห่างจากครั้งแรกที่ทำ 1-3 ปี หรือ อาจจะกลายเป็นเจ้าของกิจการ ธนาคารก็อาจพิจารณาเพิ่มวงเงินบัตรให้ได้
- มีทรัพย์ที่ฝากอยู่กับธนาคารถ้าเรามีเงินฝาก การซื้อกองทุนหรือสินทรัพย์ที่ฝากไว้กับธนาคารอยู่ก็สามารถขอวงเงินเพิ่มได้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับธนาคารนั้นๆ ด้วยว่าจำเป็นต้องเอาสินทรัพย์ที่ว่าไปวางค้ำประกันด้วยหรือไม่ ซึ่งสามารถขอคำปรึกษาจากทางธนาคารได้เองโดยตรง
- เกณฑ์พิจารณาอื่นๆในแต่ละธนาคารและสถาบันทางการเงินก็มีเกณฑ์ที่ใช้พิจารณาในการให้เพิ่มวงเงินบัตรเครดิตที่แตกต่างกัน เช่น มีการใช้งานมามากเกิน 6 เดือน ใช้มาอย่างต่อเนื่อง หรือ อาจต้องมีเอกสารที่ต้องยื่นเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการพิจารณา เช่น ในการยื่นในกรณีที่ต้องการอัปเดตรายได้และสินทรัพย์ อาจต้องมีการใช้สลิปเงินเดือนย้อนหลังตามที่ธนาคารขอ อาจจะ 6 เดือน – 1 ปี หรือในกรณีของการเป็นเจ้าของกิจการอาจต้องแสดง Statement ย้อนหลังของสินทรัพย์ตามที่ธนาคารขอ
ควรจะเพิ่มยอดวงเงินบัตรเท่าไหร่ดี ?
ในขั้นแรกเราสามารถคำนวณยอดวงเงินที่เราสามารถขอได้จากยอดที่คุณมีความสามารถในการชำระได้ในแต่ละเดือนที่ไม่มากจนเกินไป เพื่อลดความเสี่ยงในการขาดชำระที่อาจส่งผลให้มีดอกเบี้ยที่สูงและทำให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง
แต่ถ้าหาคุณไม่แน่ใจว่าควรเพิ่มยอดเท่าไหร่ สามารถขอคำปรึกษาจากทางเจ้าหน้าที่ให้ช่วยคำนวณได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะมีโปรแกรมคำนวณยอดที่สามารถช่วยให้คำปรึกษากับเราในตรงนี้ได้
ทำไมต้องเพิ่มวงเงิน บัตรเครดิต?
เหตุผลที่ผู้ถือบัตรเครดิตต้องการเพิ่มวงเงินนั้นมีหลากหลาย บางครั้งอาจเป็นเพราะความจำเป็นในการใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน หรือบางครั้งก็เพื่อรองรับการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นตามไลฟ์สไตล์
- ความจำเป็นในการใช้จ่ายฉุกเฉิน : เช่น ค่ารักษาพยาบาล, ค่าซ่อมรถครั้งใหญ่ หรือค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่นๆ ที่ไม่สามารถเลื่อนได้
- การเดินทางหรือท่องเที่ยว : หากวางแผนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ หรือจองแพ็กเกจทัวร์ที่มีมูลค่าสูง วงเงินบัตรเครดิตที่สูงขึ้นจะช่วยให้การใช้จ่ายสะดวกขึ้น
- การซื้อสินค้าชิ้นใหญ่ : การซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีราคาสูง ซึ่งวงเงินเดิมอาจไม่เพียงพอ
- บริหารจัดการสภาพคล่อง : การมีวงเงินบัตรเครดิตที่สูงขึ้นอาจช่วยให้การบริหารจัดการสภาพคล่องทางการเงินในระยะสั้นเป็นไปได้ง่ายขึ้น แต่ก็ต้องใช้อย่างระมัดระวัง

เกณฑ์พิจารณาการเพิ่มวงเงิน บัตรเครดิต
การอนุมัติการเพิ่มวงเงินบัตรเครดิตโดยเฉพาะแบบถาวร ธนาคารจะพิจารณาจากปัจจัยหลายอย่าง เพื่อประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ถือบัตร
คุณสมบัติหลักที่ธนาคารพิจารณา
- ประวัติการชำระหนี้ที่ดี : ผู้ถือบัตรเครดิตที่ชำระเงินตรงเวลาและเต็มจำนวนอย่างสม่ำเสมอ จะมีโอกาสได้รับการอนุมัติสูงกว่า
- ระยะเวลาการเป็นลูกค้า : ยิ่งเป็นลูกค้าบัตรเครดิตของธนาคารนั้นๆ มานาน และมีประวัติการใช้งานที่ดี ยิ่งมีโอกาสได้รับการพิจารณา
- รายได้ที่เพิ่มขึ้น : หากมีรายได้ประจำที่สูงขึ้น หรือมีฐานะทางการเงินที่มั่นคงขึ้น ธนาคารจะพิจารณาเพิ่มวงเงินให้
- สัดส่วนภาระหนี้ต่อรายได้ : ธนาคารจะพิจารณาภาระหนี้สินรวมทั้งหมดของคุณเทียบกับรายได้ หากภาระหนี้ไม่สูงเกินไป โอกาสอนุมัติก็มีมากขึ้น
ผลกระทบและความเสี่ยงที่ควรระวังในการเพิ่มวงเงิน บัตรเครดิต
การเพิ่มวงเงินบัตรเครดิตอาจดูน่าสนใจ แต่ก็มีทั้งผลดีและผลเสียที่คุณควรทราบและพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ
ผลกระทบต่อคะแนนเครดิต
- ผลดี : หากได้รับการอนุมัติวงเงินที่สูงขึ้น และคุณยังคงใช้จ่ายในสัดส่วนที่เท่าเดิม (เช่น เคยใช้วงเงิน 10,000 บาท จาก 20,000 บาท = 50% แต่เมื่อเพิ่มเป็น 40,000 บาท คุณก็ยังใช้ 10,000 บาท = 25%) สัดส่วน Credit Utilization Ratio จะลดลง ซึ่งส่งผลดีต่อคะแนนเครดิตของคุณ
- ผลเสีย : การขอเพิ่มวงเงินบัตรเครดิตบ่อยครั้ง หรือการที่ธนาคารทำการตรวจสอบประวัติเครดิต (Hard Inquiry) อาจส่งผลให้คะแนนเครดิตลดลงเล็กน้อยในช่วงสั้นๆ
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
- ใช้จ่ายเกินตัว : วงเงินที่สูงขึ้นอาจเป็นสิ่งล่อใจให้คุณใช้จ่ายเกินความจำเป็นและก่อให้เกิดหนี้สินมากขึ้นได้ หากขาดวินัยทางการเงินที่ดี
- ภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้น : หากคุณมียอดค้างชำระ และมีวงเงินที่สูงขึ้น ดอกเบี้ยที่ถูกคำนวณจากยอดหนี้ที่สูงขึ้นก็อาจจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
- หนี้เสีย : หากไม่สามารถบริหารจัดการการชำระคืนได้ดี วงเงินที่สูงขึ้นอาจนำไปสู่การเป็นหนี้เสียได้ง่ายขึ้น
เคล็ดลับเพิ่มโอกาสอนุมัติ
- ชำระหนี้ตรงเวลาและเต็มจำนวน : นี่คือปัจจัยสำคัญที่สุดในการสร้างประวัติการเงินที่ดี.
- ใช้ บัตรเครดิต สม่ำเสมอ : แสดงให้เห็นว่าคุณมีการใช้งานบัตรอย่างต่อเนื่อง.
- อัปเดตข้อมูลรายได้กับธนาคาร : หากรายได้เพิ่มขึ้น ควรรีบแจ้งธนาคารเพื่อพิจารณาปรับวงเงิน.
- ลดภาระหนี้สินอื่นๆ : หากมีหนี้สินอื่นๆ ควรพยายามชำระให้ลดลงก่อนยื่นขอเพิ่มวงเงิน.
- ไม่ยื่นขอพร้อมกันหลายธนาคาร : การยื่นขอบัตรเครดิตหรือเพิ่มวงเงินพร้อมกันหลายๆ แห่ง อาจส่งผลเสียต่อคะแนนเครดิต.
อย่างไรก็ตามก่อนการขอเพิ่มยอดวงเงินบัตรเครดิตก็อย่าลืมพิจารณาความสามารถในการชำระบัตรเครดิตที่เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ถึงแม้ว่าจะได้เพิ่มวงเงินการใช้งานบัตรเครดิตไปแล้ว ก็อย่าลืมวางแผนการใช้เงินและชำระให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดโอกาสค้างชำระและเกิดหนี้ขึ้นในภายหลัง
*การใช้งานบัตรเครดิตควร “ใช้เท่าที่จําเป็นและชําระคืนได้เต็มจํานวนตามกําหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี”
เงื่อนไขและการพิจารณาอนุมัติเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด