รถยางแตกต้องทำอย่างไร
หลายๆ คนอาจเข้าใจว่า หากรถที่ขับมาเกิดยางแตก แปลว่าเราจะต้องเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงแน่นอน แต่จริงๆ แล้วเราสามารถควบคุมไม่ให้กลายเป็นอุบัติเหตุร้ายแรงได้ ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจอาการยางแตกกันก่อน
รถยางแตกได้อย่างไร?
ยางรถยนต์มีวัตถุดิบหลัก คือ ยางธรรมชาติ หรือยางดิบ ที่ผ่านกรรมวิธีผสมกับส่วนประกอบอย่างอื่น เช่น กำมะถัน ขดลวด ผงถ่าน และสารเคมีตัวอื่นๆ ซึ่งยิ่งเมื่อมีการใช้งานไปในระยะเวลาหนึ่งก็อาจมีการสึกหรอ และทำให้ยางรถยนต์เกิดการเสื่อมสภาพ และไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และอาจทำให้ยางรถแตก หรือมีโอกาสแตกได้ง่ายขึ้น
1.รถยางแตก เพราะยางเสื่อมคุณภาพ
เมื่อมีการใช้งานรถยนต์ และยางรถยนต์ไปได้ระยะเวลาหนึ่ง ยางรถยนต์ก็เกิดการเสื่อมสภาพ อาจสังเกตได้จากที่เราจะต้องเติมลมยางบ่อยขึ้น รถยางอ่อนเร็วกว่าปกติ โดยสามารถตรวจสอบคุณภาพอย่างได้จากการสังเกตด้วยตาในเบื้องต้นว่ามีจุดผิดปกติ เช่น หน้ายางมีรอยแตกร้าว มีรอยฉีกขาด ดอกยางสึก หรือสังเกตได้ในขณะขับขี่ เมื่อเข้าโค้ง หรือตอนเบรก อาจมีเสียงที่แปลกกว่าปกติ ซึ่งถ้าหากไม่รีบทำการเปลี่ยนยาง ก็อาจจะทำให้ยางรถแตกได้นั่นเอง
2.รถยางแตก เพราะใช้ของไม่ได้คุณภาพ
ราคาของรถยนต์ก็เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อ หรือการเปลี่ยนยางในแต่ละครั้งเช่นกัน การเปลี่ยนยางรถยนต์ก็จำเป็นจะต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก ยิ่งเป็นยางที่มียี่ห้อ มีคุณภาพสูง หรือมีประสิทธิภาพที่ดี ก็ย่อมมีราคาที่สูงตามคุณภาพด้วยเช่นกัน ผู้ใช้งานรถยนต์หลายคนก็อาจมองหาทางออกด้วยการเลือกใช้ยางที่มีคุณภาพที่ไม่สูงมาก ไม่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ที่มีราคาที่ถูกลง หรืออาจเลือกใช้ยางมือสองที่ไม่ได้ผ่านการตรวจเช็กคุณภาพก่อนการใช้งาน คุณภาพของยางก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้รถยางแตกได้ด้วยเช่นกัน
3.การขับขี่ด้วยความเร็วที่มากเกินไปอาจทำให้รถยางแตก
ยางรถยนต์แต่ละเส้นจะมีความเร็วที่ยางรถยนต์สามารถรองรับได้ หลายคนเมื่อทำการเปลี่ยนยางรถยนต์แล้ว อาจมองข้ามรายละเอียดเล็กๆ ตรงจุดนี้ไป และอาจทำให้เกิดการขับขี่ด้วยความเร็วที่เกินกำหนด หรือเกินความสามารถที่ยางจะรับไหว ก็จะทำให้ยางระเบิดได้เช่นกัน ซึ่งสามารถดูความเร็วที่ยางรถแต่ละเส้นจะรับไว้ได้จากตัวอักษรบนยางรถได้
4.การบรรทุกน้ำหนักมากเกินไปทำให้รถยางแตก
นอกจากความเร็วในการขับขี่ การบรรทุกน้ำมันหนักของรถยนต์ก็ผลต่อประสิทธิภาพในการใช้งานยางรถด้วยเช่นกัน ยางล้อทุกเส้น นอกจากจะมีสัญลักษณ์ระบุความเร็วที่ล้อสามารถรับได้แล้ว น้ำหนักเองก็มีระบุไว้บนยางรถยนต์ด้วยเช่นกัน อาจจะเป็นจุดที่หลายอาจไม่ค่อยสังเกต ยกตัวอย่างเช่น ถ้ามีเลขโชว์บนยางรถเป็น 94 ก็แสดงว่าสามารถรับน้ำหนักได้ 670 กิโลกรัมนั่นเอง และสามารถดูเลขอื่นๆ ได้ที่นี่
5.เติมยางมาก หรือน้อยเกินไป ส่งผลให้รถยางแตก
การเติมลมยางมาก ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ล้อมีการตึงมากเกินไป และถ้าควบคู่ไปกับการขับรถในสภาพพื้นถนนที่ไม่ดี ขรุขระ ก็อาจจะทำให้ยางรถแตกได้เช่นกัน รวมไปถึงถ้าหากยางรถยนต์ของเราเติมน้อย หรือเหลือน้อยเกินไป ก็จะทำให้ล้อรถยนต์ไม่สามาถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ หรืออาจจะเกิดการรั่วซึมของล้อยางรถยนต์ที่เราอาจไม่ทันสังเกตขึ้นได้
นี่คือสิ่งที่เราต้องเผชิญเวลารถยางแตก
1.ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น
หรือในบางกรณีอาจจะไม่มีก็ได้ ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้ยางแตก แต่โดยส่วนใหญ่เมื่อรถยางแตก มักจะสามารถได้ยินเสียงเป็นสัญญาณเตือนจากล้อมาทันที
2.รถวิ่งช้าลง
เมื่อล้อยางแตก หลังจากเกิดเสียงระเบิดขึ้น ตัวรถจะค่อยๆ ชะลอความเร็วลงเรื่อยๆ ในจังหวัดนี้ค่อยๆ ทำการควบคุมรถเข้าสู่ข้างทางเพื่อประสานงานขอความช่วยเหลือ
3.รถส่าย ซึ่งจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับความเร็วที่ขับมา
ความเร็วของรถที่ได้ทำการวิ่งมา มีผลเป็นอย่างมากให้การทรงตัวของคุณ หากรถยนต์วิ่งมาด้วยความเร็วสูง และเกิดรถยางแตกโดยฉับพลันก้อาจจะทำให้รถยนต์เสียการควบคุม และส่ายไปมา ผู้ขับขี่จะต้องมีสติ และประครองพวงมาลัยให้แน่น และค่อยๆ พารถเข้าจอด ณ จุดปลอดภัย ซึ่งในบางครั้ง การที่รถยนต์วิ่งมาด้วยความเร็วมากเกิดไป และเกิดยางระเบิด ยางแตกขึ้นก็อาจเป็นสาเหตุให้เกิดการพลิกคว่ำของรถได้เลย
4.ได้ยินเสียงลมพุ่งออกจากยาง
ในบางครั้งหลัง หรือก่อนรถจะยางแตก อาจมีเสียงฟู่ของลมที่พุ่งออกมาจากยางรถยนต์ ยิ่งเราฝืนขับขี่ต่อไปก็อาจจะเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดการระเบิดของล้อยางรถยนต์อย่างแน่นอน
5.ได้ยินเสียงยางแบนๆ ที่วิ่งไปตามถนน
นอกจากจะได้ยินเสียงยางแบนแล้ว สำหรับเจ้าของรถ หรือผู้ที่ขับขี่รถยนต์อยู่เป็นประจำ อาจจะสามารถจับความผิดปกติในการขับขี่ได้ เมื่อยางแบนอาจจะทำให้ความรู้สึกในตอนขับขี่แตกต่างกันออกไป หรืออาจะเป็นความสูง และระดับความเอียงของตัวรถ ที่สามารถช่วยเป็นจุดสังเกตได้อีกด้วย
เมื่อมีอาการตามที่กล่าวมาแล้ว คนขับจะต้องทำอย่างไร
เมื่อพบว่ารถของคุณยางแตก ให้ปฎิบัติตามข้อปฏิบัติตามนี้
- จับพวกมาลัยให้มั่น
- ประคองรถให้ดี
- เปิดไฟฉุกเฉิน
- ผ่อนความเร็ว เลี้ยงเบรกเบาๆ
- ค่อยๆ เอารถเช้าข้างทาง
เมื่อรถยางแตกห้ามทำสิ่งนี้
- ใช้เบรกมือ เพราะจะทำให้รถหมุนคว้าง
- หากรถเป็นเกียร์ธรรมดา อย่าเพิ่งใช้คลัชจนกว่ารถจะใกล้จอดแล้ว
รถยางแตก ประกันจ่ายไหม
ถ้ารถยางแตก ประกันจ่ายให้แน่นอน แต่ต้องเป็นการเคลมความเสียหายที่เกิดจาก “อุบัติเหตุ” เช่น การขับรถชนทั่วไปแล้วยางแตก สามารถเคลมได้ตามปกติ แต่ถ้าเป็นในกรณีที่เป็นกรณีที่ขับรถไปเหยียบตะปูจนทำให้ยางระเบิดเอง ถ้ามีประกันชั้น 1 สามารถเคลมได้ แต่ทางบริษัทประกันจะให้ความรับผิดชอบเพียง 50% เท่านั้น เนื่องจากมีค่าเสื่อมของยาง เว้นแต่จะสามารถพิสูจน์ได้ว่าเพิ่งเปลี่ยนยางไป แต่ถ้าเป็นประกันชั้นอื่นๆ เช่น ประกันชั้น2+ และประกันชั้น3+ จะให้ความคุ้มครองในกรณีที่เป็นความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุแบบรถชนรถเท่านั้น ถ้าเป็นการเหยียบตะปูจะไม่ได้รับความคุ้มครอง
เวลาเกิดเหตุไม่คาดคิดระหว่างขับรถ คำแนะนำแรกๆ ที่มักจะได้ยินกันคือให้ตั้งสติให้ดี แต่การได้อ่านข้อมูล หรือประสบการณ์ของคนอื่นๆ เพื่อเตรียมความพร้อม ก็จะช่วยให้เรารับมือและจัดการกับสถานการณ์ได้ดีขึ้น