เบี้ยดีโดนใจ ประกันภัยชั้น 1 เบี้ยเริ่ม 750 บาท/เดือน พิเศษรับส่วนลดสูงสุด 30% เช็กเบี้ยที่นี่ กับ SILKSPAN

เคลมประกันรถยนต์ได้หรือไม่ ? หากคดีความยังไม่ถึงจุดสิ้นสุด


เคลมประกันรถยนต์ได้หรือไม่ ? หากคดีความยังไม่ถึงจุดสิ้นสุด

กลับมาพบกันเช่นเคย กับบทความแนะนำความรู้เกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์จาก SILKSPAN บทความนี้เราจะขอกล่าวถึงเรื่องของการ “เคลมประกันรถยนต์” ในข้อสงสัยที่ว่า ถ้าเป็นรถติดคดีความ และ ตัวคดีนั้นยังไม่ถึงจุดสิ้นสุด จะสามารถนำรถเข้ารับการเคลมได้หรือไม่ ? หมายถึงที่ประสบอุบัติเหตุ แล้วในอุบัติเหตุครั้งนั้นมีเรื่องของคดีความเข้ามาเกี่ยวข้อง จะสามารถนำรถเข้ารับการเคลมได้เลยไหม ? ต้องรอคดีสิ้นสุดก่อนจริงหรือไม่ ? ทุกข้อสงสัยตามหาคำตอบได้ในบทความนี้


คดียังไม่จบ ห้ามเคลมประกันรถยนต์ เรื่องนี้จริงหรือไม่ ?

เรื่องของ ประกันรถยนต์ ยังเต็มไปด้วยข้อสงสัยมากมาย ที่หลายคนอาจยังไม่รู้คำตอบที่แน่ชัด ซึ่งในเรื่องของการเคลมประกันรถยนต์ ของรถที่มีปัญหาคดีความค้างอยู่ หากถามว่าเคลมได้เลยหรือไม่ ? คำตอบคือ “ส่วนใหญ่เคลมได้เลยทันที” ไม่จำเป็นต้องรอให้คดีความสิ้นสุดอย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจ ที่ต้องใช้คำว่าส่วนใหญ่ เพราะอาจมีบางคดีความที่ส่งผลให้เกิดปัญหาของการเคลมประกันภัยรถยนต์ เช่น คดีเมาแล้วขับ , ขับขี่โดยไม่มีใบขับขี่ หรือ ใช้รถกระทำสิ่งผิดกฎหมาย เคสเหล่านี้บริษัทประกันภัยรถยนต์จะไม่ให้ความคุ้มครอง จึงเคลมไม่ได้


ประกันแต่ละรูปแบบ เคลมประกันรถยนต์แตกต่างกันอย่างไร หากมีคดีความ

อย่างที่เรารู้ ๆ กันดี ว่าประกันภัยรถยนต์นั้นถูกแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบคือ “ภาคสมัครใจ” และ “ภาคบังคับ” ดังนั้นเพื่อให้เข้าใจกันอย่างถูกต้อง เราจะขออธิบายการเคลมประกันรถยนต์ของทั้งสองรูปแบบ เมื่ออุบัติเหตุครั้งนี้มีเรื่องของคดีความเข้ามาเกี่ยวข้อง

ประกันภาคบังคับ

ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือ พรบ. รถยนต์ ที่เรารู้จักกันดี เมื่อเกิดอุบัติเหตุจะเคลมประกัน ได้ในทันที โดยจะเป็นการจ่ายค่ารักษาพยาบาล และเงินชดเชยเมื่อเกิดความเสียหายต่อร่างกาย ไปจนถึงเคสที่ถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งจะเป็นการ “จ่ายก่อนพิสูจน์ทีหลัง” หากมีความผิดทางกฎหมายก็จะมีการไล่เบี้ยในภายหลัง

ประกันภาคสมัครใจ

ส่วนประกันภาคสมัครใจ ไม่ว่าจะเป็น ประกันรถยนต์ชั้น 1 , ประกันชั้น 2 , ประกันรถยนต์ 2+ หรือ ประกันรถยนต์ 3+ ก็มาในรูปแบบของการ “จ่ายก่อนพิสูจน์ทีหลัง” เช่นเดียวกัน ความคุ้มครองก็จะขึ้นกับชั้นของประกันที่เลือก หากมีกรณีผิดถูกประการใดในด้านคดีความ บริษัทประกันก็จะมาไล่เบี้ยคืนในภายหลัง ส่วนประกันชั้น 3 ไม่มีความคุ้มครองค่าเสียหายต่อตัวรถ เพราะฉะนั้นสามารถตัดประกันชั้นนี้ทิ้งไปได้เลย


ยกตัวอย่าง สถานการณ์จริงที่พบได้บ่อยเกี่ยวกับคดีความบนท้องถนน

คดีความยังไม่สิ้นสุด เคลมประกันรถยนต์ได้ไหม ?

จากเนื้อหาช่วงต้น น่าจะพอเห็นภาพรวมกันแล้ว ว่าการเคลมรถยนต์หลังจากเกิดอุบัติเหตุ ในเมื่อทำประกันภัยรถยนต์เอาไว้ หากไม่ได้กระทำผิดกฎหมายที่ส่งผลร้ายแรงต่อการเคลมประกัน โดยส่วนมากก็ยังเคลมประกันรถยนต์ได้ตามปกติ เพื่อให้ทุกข้อสงสัยกระจ่างมากยิ่งขึ้น เรามาลองดูสถานการณ์จริงที่พบได้บ่อยบนท้องถนนกันดีกว่า มาดูกันเลยว่าแต่ละกรณีจะเคลมประกันได้อย่างไร

ชนแล้วมีคู่กรณี

พบได้บ่อยที่สุด กรณีมีการเฉี่ยวชนแล้วมีคู่กรณี ส่วนมากจะไม่ได้จบลงด้วยมีคดีความ เพียงแค่โทรให้บริษัทประกันของฝ่ายตนเองเข้ามาที่เกิดเหตุ มีการไกล่เกลี่ยเพื่อหาว่าฝ่ายใด เป็นฝ่ายถูก หรือ เป็นฝ่ายผิด หากหาข้อตกลงไม่ได้ก็ต้องถึงมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนด้านของความคุ้มครองก็สามารถส่งเคลมได้เลยทันที

ชนแล้วคู่กรณีไม่มีประกัน

หากคุณทำประกันภัยรถยนต์ แล้วไปชนกับรถที่ไม่ได้ทำประกันภัยรถยนต์เอาไว้ ในเคสนี้คุณสามารถได้รับความคุ้มครองทันที สามารถเคลมประกันรถยนต์ตามความเสียหายของรถยนต์ได้เลย ที่เหลือก็จะเป็นหน้าที่ของบริษัทประกัน ที่จะไปดำเนินการต่อ เพราะถ้าคู่กรณีเป็นฝ่ายผิด ก็ต้องมีการไล่เบี้ยประกันกับคู่กรณีในภายหลัง

ชนแล้วหนี

เคสของการถูกชนแล้วหนี อันนี้จะซับซ้อนขึ้นมาเล็กน้อย เพราะถ้าเป็นประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ก็จะสามารถเคลมได้เลย แต่ถ้าเป็นประกันภัยชั้นอื่น ๆ เช่น ชั้น 2 , 2+ หรือ 3+ อาจจะซับซ้อนมากขึ้น เนื่องจากมีความคุ้มครองกรณีที่มีคู่กรณีเท่านั้น ถ้าระบุตัวคู่กรณีไม่ได้ ก็อาจจะไม่ได้รับความคุ้มครองในกรณีนี้

ขับรถชนทรัพย์สินทางการ

ถ้ามองในเรื่อง “ความคุ้มครองตัวรถ” หากคุณทำประกันชั้น 1 เอาไว้ สามารถเคลมประกันรถยนต์ได้ทันที ส่วนประกันชั้นอื่น ๆ ก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่ามีคู่กรณีหรือไม่ ? ส่วนในเรื่องของ “ความคุ้มครองทรัพย์สินภายนอกรถ” ก็จะได้รับความคุ้มครองทั้งหมด ขึ้นอยู่กับเงินทุนประกันของประกันที่คุณทำเอาไว้ หากความเสียหายเกินไปจากทุนประกัน เงินส่วนนั้นคุณจะต้องรับผิดชอบด้วยตนเอง


อธิบายหลักการเคลมประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ ตามขั้นตอนที่ถูกต้อง

เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดด้านการเคลมประกันรถยนต์ “ภาคสมัครใจ” เมื่อเกิดเหตุขึ้นมาจริง ๆ ในสถานการณ์นั้นสิ่งแรกคือ “ตั้งสติ” ห่วงความปลอดภัยของชีวิตคนเป็นอันดับแรก จากนั้นให้ดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ถูกต้องที่สุดของการเคลมประกัน

  • หลังจากตรวจสอบความปลอดภัยของผู้โดยสารภายในรถแล้ว ให้โทรแจ้งบริษัทประกันให้เร็วที่สุด เพื่อให้พนักงานเข้ามายังที่เกิดเหตุ
  • ห้ามเคลื่อนย้ายรถโดยเด็ดขาด และควรมีการเก็บบันทึกภาพในจุดเกิดเหตุเอาไว้ หรือจะเป็นการถ่ายวิดีโอสถานที่เกิดเหตุเอาไว้ ก็ได้เช่นเดียวกัน
  • ไม่ควรทำการไกล่เกลี่ยใด ๆ กับคู่กรณีโดยเด็ดขาด ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันเข้ามาเดินเรื่องไกล่เกลี่ยให้ มิฉะนั้นคุณอาจตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
  • เมื่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันภัยเข้ามายังที่เกิดเหตุเรียบร้อยแล้ว ไกล่เกลี่ยกับบริษัทประกันของคู่กรณีเบื้องต้นแล้ว หากไม่ติดปัญหาอะไร เจ้าหน้าที่จะมอบ “ใบเคลม” ให้กับคุณ
  • นำรถเข้าไปซ่อมที่ อู่ หรือ ศูนย์บริการ ในเครือของบริษัทประกันที่คุณได้ทำเอาไว้ ซึ่งต้องดูว่าเลือกความคุ้มครองแบบ ซ่อมอู่ หรือ ซ้อมห้าง
  • หากมีการร้องขอเอกสารการเคลมประกันเพิ่มเติมจากบริษัทประกันภัยรถยนต์ ต้องยื่นเอกสารต่าง ๆ ตามที่บริษัทประกันแจ้งความประสงค์เข้ามาให้ครบถ้วน

 

ให้ประกันรถคุ้มครองทุกการเดินทาง ผ่อนประกันรถชั้น 1 0% ที่ SILKSPAN


บทส่งท้าย

บทความนี้เราได้หยิบเอาเรื่องของการ “เคลมประกันรถยนต์” โดยเน้นย้ำไปที่เรื่องของการซ่อมรถเป็นหลัก ที่จริงแล้วการเคลมยังมีส่วนอื่น ๆ อีกหลายอย่าง อาทิเช่น ค่ารักษาพยาบาล , ค่าทรัพย์สินที่เสียหาย หรือ ค่าชดเชยต่าง ๆ ยังไม่รวมกับเรื่องความคุ้มครองของ พรบ. อีกด้วย

จะเห็นแล้วว่าเรื่องขอประกันภัยรถยนต์ ยังมีอีกหลายเรื่องที่คุณยังไม่รู้ เพราะฉะนั้นเวลาอยากซื้อประกันภัยรถยนต์ ควรซื้อจาก “ผู้เชี่ยวชาญ” ที่พร้อมให้คำแนะนำกับคุณจะดีที่สุด นั่นคือเหตุผลที่ SILKSPAN เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับใครก็ตามที่กำลังตามหาความคุ้มครองที่ตอบโจทย์มากที่สุด หากสนใจอยากซื้อประกันภัยรถยนต์ หรือ อยากจะสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อเข้ามาได้เลย ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้


เขียนโดย : SILKSPAN ADVISOR
เผยแพร่วันที่ : 16/10/2025
รับข้อเสนอพิเศษ

จองสิทธิ์ประกันรถยนต์

ประกันรถยนต์ รับส่วนลดสูงสุด 30% กว่า 20 บริษัทชั้นนำ

  1. ต่ออายุล่วงหน้า รับส่วนลดเพิ่ม สูงสุดกว่า 500 บาท
  2. ผ่อนบัตรเครดิต ผ่อนเงินสด ได้สูงสุด 10 เดือน
  3. ฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม.
  4. ฟรีรถใช้ระหว่างซ่อม หรือ เบิกค่าเดินทาง 1,000 บาท

กรอกข้อมูล เพื่อ “รับข้อเสนอพิเศษ” ต่อประกันรถยนต์

taff-call
“เช็คเบี้ยประกันรถฟรี 24 ชม.”
line

กำลังโหลด