การันตีเช็กเบี้ยประกันรถถูกลง 30%

รถยก คืออะไร ต่างจากรถลากอย่างไร ถ้ารถเสียควรเรียกใช้รถยกหรือรถลาก?


รถยก คือ

        อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากจะให้เกิดขึ้น การมีประกันรถยนต์ก็เปรียบเสมือนเกราะป้องกันที่คอยให้ความดูแล และเพิ่มความปลอดภัยให้กับรถยนต์ของคุณ คู่กรณี บุคคลภายนอก รวมไปถึงตัวคุณเองด้วยเช่นกัน แล้วถ้าเกิดเหตุการณ์ หรืออุบัติเหตุที่เป็นสาเหตุที่อาจทำให้รถยนต์ของคุณใช้งานไม่ได้ ใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือถ้าหากฝืนใช้งานต่ออาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ จึงจำเป็นที่จะต้องทำการเคลื่อนย้ายรถยนต์ออกไปจากสถานที่เกิดเหตุไปเพื่อทำการซ่อมบำรุง ไม่ว่าจะเป็นรถสตาร์ทไม่ติด รถเสียระหว่างทาง หรือเกิดความเสียหายจนไม่สามารถขับต่อไปได้ หากเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ควรต้องรับมือกับเหตุการณ์เหล่านี้อย่างไรดี การเลือกใช้บริการระหว่างรถยก และรถลากแบบไหนเหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละกรณีมากกว่ากัน แล้วการมีประกันรถยนต์สามารถช่วยในกรณีที่ต้องเรียกรถยก รถลากได้หรือไม่ SILKPSPAN มีคำตอบให้คุณ

 

รถยกกับรถลาก คืออะไร

        บริการรถลาก และรถยกให้บริการที่จะช่วยเคลื่อนย้ายรถของคุณให้ออกที่เกิดเหตุไปยังอู่ซ่อม หรือศูนย์ซ่อมที่คุณต้องการ โดยมีการให้บริการในกรณีที่แตกต่างกัน หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นที่ไม่สามารถทำการขับขี่ต่อไปได้ หรือถ้าหากมีการฝืนขับรถต่อไปก็อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น หรือจะเป็นเกิดเหตุการณ์รถเสีย สตาร์ทไม่ติด ไม่ว่าจะอยู่ข้างทาง ในห้าง กลางวัน หรือกลางคืน หากบริษัทประกันรถยนต์ที่ท่านทำให้ความคุ้มครอง หรือให้ความช่วยเหลือในการประสานงานหารถยก รถลากให้ก็จะสามารถเพิ่มความสะดวกสบายให้คุณขึ้นอีกอย่างแน่นอน ก่อนการเลือกใช้งานรถยก หรือรถลากนั้น คุณควรมีความรู้พื้นฐานในการขับขี่ และการประเมินเรื่องค่าใช้จ่ายโดยสามารถใช้การประเมินค่าใช้จ่าย ความเสียหายที่เกิดขึ้น และระยะทางที่ต้องทำการเคลื่อนย้ายรถยนต์ประกอบกันเพื่อทำการเลือกประเภทของบริการให้เข้ากับการใช้งาน และเมื่อทำการติดต่อบริษัทเคลื่อนย้ายรถ เพื่อทำการยกรถ หรือลากรถได้แล้ว คุณก็สามารถเดินทางไปยังอู่ซ่อมรถ หรือศูนย์ซ่อมที่ได้ทำการตกลง และติดต่อไว้ เพื่อรับทราบกับเรื่อง และจุดที่จะเคลม ก่อนจะส่งรถยนต์ของคุณเข้าสู่กระบวนการซ่อมแซมเป็นลำดับถัดไป

 

รถยกกับรถลากแตกต่างกันอย่างไร

        เมื่อทราบแล้วว่ารถยกกับรถลากนั้นหมายถึงอะไร ทีนี้เรามาดูกันค่ะว่าความแตกต่างของรถยกกับรถลากนั้นมีอะไรบ้าง ซึ่งความแตกต่างนั้นจะแตกต่างกันใน 3 ปัจจัยหลัก ๆ ได้แก่ ประเภทของรถ, ความปลอดภัยในการขนย้าย และอัตราค่าบริการ โดยมีรายละเอียดดังนี้

ควรเลือกใช้กับรถประเภทใด

รถยก

        เหมาะกับการใช้งานกับรถยนต์ที่ใช้แรงขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ และใช้ในกรณีที่รถยนต์มีปัญหาในการเคลื่อนย้าย เช่น รถยนต์เกิดอุบัติเหตุหนัก ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เกิดความเสียหายที่ล้อรถยนต์อย่างหนัก หรือจะเป็นอาการรถสตาร์ทไม่ติดก็สามารถใช้บริการรถยกได้เช่นกัน และที่สำคัญรถยกจะเป็นบริการที่จะนำรถยนต์ทั้งคันขึ้นไปไว้บนหลังรถกระบะ หรือหลังรถบรรทุกขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับช่วงล่างในระหว่างการเคลื่อนย้ายรถยนต์ได้เช่นกัน

รถลาก

        จะเป็นการเคลื่อนย้ายรถยนต์ออกจากจุดเกิดเหตุอีกประเภทหนึ่ง เหมาะกับรถยนต์ที่ขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อ หรือเป็นรถยนต์ที่เกิดความเสียหายไม่หนักมาก ล้อ และกลไกการขับเคลื่อน เช่นพวงมาลัย ยังสามารถทำงานได้ดีก็สามารถเลือกใช้รถลากได้เช่นกัน โดยจะทำการลากรถจากทางด้านหน้า หรือด้านหลังรถ โดยขึ้นอยู่กับแรงขับเคลื่อนของรถว่าจะเป็นขับเคลื่อนด้วยทางล้อหน้า หรือล้อหลัง โดยใช้สายสลิงเป็นตัวลากจูงรถยนต์ แต่การเลือกใช้วิธีการเคลื่อนย้ายรถด้วยรถลากอาจทำให้ช่วงล่างของรถยนต์อาจเกิดความเสียหาย 

ความปลอดภัยต่อการขนย้ายตัวรถ

        ความปลอดภัยในการเคลื่อนย้าย และขนย้ายตัวรถนั้น รถยกย่อมมีความปลอดภัยต่อตัวรถยนต์ และป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับช่วงล่างของรถยนต์ลงไปได้อีกด้วย เนื่องจากการเลือกใช้รถยกจะเป็นวิธีการที่นำรถยนต์ของคุณไปไว้บนหลังรถกระบะ หรือรถบรรทุกคันใหญ่ ที่ไม่สามารถทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติมกับรถได้

        ส่วนรถลาก ใช่ว่าจะเป็นวิธีที่ไม่ดี เนื่องจากใช้สลิงในการลากจูงจากทางด้านหน้า หรือด้านหลังของรถยนต์ ก็อาจทำให้เกิดความเสียหายให้แก่บริเวณที่ทำการลากจูง และอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อช่วงล่างของรถหากไม่ได้ระวังดีพอ 

อัตราค่าบริการ และระยะทางที่ให้บริการ

        สำหรับ “รถยก” จะมีค่าใช้จ่ายในการใช้บริการยกรถเริ่มต้นอยู่ที่ราวๆ 1,000-3,000 บาท และจะมีการใช้ระยะทางในการยกรถของคุณมาคำนวณเพื่อให้ได้ราคาที่ถูกต้อง และชัดเจน

        และ “รถลาก” มีค่าบริการเริ่มต้นอยู่ที่ราวๆ 1,000 บาท โดยต้องมีการคำนวณจำนวนระยะซึ่งก็มีผลด้วยเช่นกัน

 

บริการรถยก

 

หากต้องการใช้บริการรถยก ต้องทำอย่างไร

        เมื่อทำการตรวจสอบอาการ และความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้ทำการโทรเรียกประกัน หรือโทรขอความช่วยเหลือ และแจ้งเหตุการณ์คร่าวๆ อาการ และประเภทการขับเคลื่อนของรถยนต์ว่าเป็นประเภทขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อ หรือแบบ 4 ล้อ เพื่อที่ใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการพิจารณาว่าต้องเลือกใช้รถลาก หรือรถยก สำหรับผู้ที่มีประกันรถยนต์ โดยเฉพาะประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันรถยนต์ชั้น 2+ และประกันรถยนต์ชั้น 3+ บริษัทประกันจะมีการให้ความคุ้มครองในกรณีที่มีความจำเป็นต้องใช้รถลาก หรือรถยกอาจมีให้บริการเป็นบริการเสริมในกรณีที่มีการเกิดอุบัติเหตุแบบรถชนรถ แต่ก็ขึ้นอยู่กับรายละเอียดการคุ้มครองของประกันรถยนต์ในของแต่ละบริษัท และโดยทั่วไปหากรวมอยู่ในบริการพิเศษสำหรับประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็มักมีการจำกัดรถระยะทางไม่เกินกิโลเมตรที่ระบุ

        และถ้านึกไม่ออกว่าต้องติดต่อใครก่อน หรือต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม สามารถใช้เบอร์ดังต่อไปนี้

  • 1193 ตำรวจทางหลวง
  • 1677 วิทยุร่วมด้วยช่วยกัน
  • 1137 ศูนย์รับแจ้งอุบัติเหตุ จส.100
  • 1644 สถานีวิทยุ สวพ.91
  • 1543 สายด่วนการทางพิเศษ

 

ค่าใช้จ่ายการใช้รถยก ราคาเท่าไหร่

        รถยกมีค่าบริการเริ่มต้นที่ประมาณ 1,000-3,000 บาท และจะเพิ่มขึ้นตามระยะที่รถยกต้องทำการยกรถยนต์ของคุณไปยังอู่ซ่อม หรือศูนย์บริการที่คุณได้ทำการเลือก

 

ประกันรถยนต์ชั้น 1 เริ่มต้นเพียง 750

 

บริการรถยกมีข้อดีอย่างไร

มีความสะดวกในการเคลื่อนย้ายรถ

        สำหรับการใช้บริการรถยกนั้น เป็นวิธีการที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเคลื่อนย้ายรถยนต์ออกจากจุดเกิดเหตุ หรือเคลื่อนย้ายรถยนต์ออกไปเพื่อทำการขนส่งไปสู่อู่ซ่อม หรือศูนย์บริการที่คุณเป็นคนเลือก 

มีความปลอดภัยสูง

        การเคลื่อนย้ายรถยนต์ด้วยวิธีการใช้งานรถยกจะทำให้รถยนต์ของคุณมีความปลอดภัย โดยเฉพาะการป้องกันการเกิดความเสียหายต่อช่วงล่างของรถยนต์ที่อาจเกิดขึ้นได้หากเลือกใช้เป็นการเคลื่อนย้าย การใช้รถลากนอกจากจะสามารถสร้างความเสียหายให้ทั้งด้านล่างของรถยนต์ที่อาจเกิดการครูด และอาจเกิดความเสียหายกับด้านหน้า หรือด้านหลังของตัวรถที่ทำการลากจูงได้เช่นกัน

สามารถเคลื่อนย้ายระยะไกลได้

        เนื่องจากการเคลื่อนย้ายรถยนต์ด้วยรถยกเป็นการนำรถยนต์ขึ้นไปไว้บนรถกระบะ หรือรถบรรทุกคันใหญ่ จึงไม่ทำเกิดความเสียหายตอนเคลื่อนย้าย จึงสามารถเคลื่อนย้ายรถในระยะที่ไกลแบบข้ามจังหวัดได้ แต่ก็จะมีค่าบริการที่สูงตามระยะที่ต้องขนย้ายเช่นกัน

 

รถยก รถลาก

 

จะใช้บริการรถยกหรือรถลาก ควรเลือกอย่างไร

ความเสียหายของรถยนต์

        หากเกิดความเสียหายที่ไม่ร้ายแรง เสียหายไม่หนัก รถยนต์ยังอาจอยู่ในสภาพที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ แต่อาจไม่สะดวกหนัก แต่อาจต้องใช้ความพยายาม และอาจเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น แนะนำให้เลือกเป็นการใช้บริการ “รถลาก” 

        แต่ถ้าหากเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรง เสียหายอย่างรุนแรง จนไม่อยากสามารถเคลื่อนย้ายออกไปได้ ก็ขอแนะนำให้เลือกเป็นการใช้บริการ “รถยก”

ค่าใช้จ่ายและงบประมาณ

        แน่นอนว่าการเลือกใช้บริการ “รถลาก” ย่อมมีราคาที่ย่อมเยากว่า และมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาท และ “รถยก” อยู่ที่ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,000-3,000 และไม่ว่าจะเป็นรถลาก หรือรถยกไม่ว่าจะเป็นด้วยวิธีไหนก็ต้องมีการคำนวณค่าใช้จ่ายจากจำนวนระยะทางด้วยเช่น

ระยะทางที่ต้องนำรถเข้าอู่ซ่อม

        ระยะทางที่เดินทางจากจุดเกิดเหตุมายังอู่ซ่อม หรือศูนย์บริการ สำหรับผู้ที่ต้องการส่งรถยนต์ไปซ่อมที่อู่ซ่อม หรือศูนย์ซ่อมประจำที่อาจอยู่ไกลไปจากจุดเกิดเหตุสามารถเลือกใช้ “รถยก” ได้ ซึ่งรถยกมีการออกแบบให้รับน้ำหนักได้มาก เหมาะสำหรับการเดินทางไกล

แต่ถ้าหากจากจุดเกิดเหตุอยู่ใกล้กับอู่ซ่อม หรือศูนย์บริการของคุณ สามารถเลือกใช้บริการรถลากได้เช่นกัน

 

บริการรถยก บริการเสริมสุดพิเศษที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง

        สำหรับบริการรถยก แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ แบบแรก คือ รถเสีย บริการรถยกสำหรับกรณีที่รถเสียจะไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ แต่ถ้าหากมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินก็จะสามารถใช้บริการรถยกได้ บริการรถยกจะสามารถบริการเป็นบริการเสริมที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท ในหลายบริษัทประกันก็จะมีบริการนี้แถมให้ แต่ในบางบริษัทก็จะไม่มี โดยหลักอาจจะมีกำหนดจำนวนครั้งต่อปี เช่น ไม่เกิน 3 ครั้ง/ปี และจำมีการกำหนดระยะทางว่าสามารถใช้บริการรถยกฟรีได้ภายในกี่กิโลเมตร ถ้ามีส่วนเกินผู้ทำประกันจะต้องทำการรับผิดชอบส่วนต่างเอง และถ้าหากต้องการบริการเสริมนี้อาจทำการสอบถามรายละเอียดกับทางบริษัทประกัน หรือโบรกเกอร์ประกันภัยก่อนทำการสมัคร

        แต่สำหรับในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ เมื่อทำประกันออนไลน์กับ SILKSPAN มีบริการรถยกให้ทุกบริษัทที่ให้ความคุ้มครองต่อความเสียหายต่อตัวรถยนต์ แต่ถ้าเป็นประกันรถยนต์ชั้น 2+ และประกันรถยนต์ชั้น 3+ สามารถใช้บริการได้ในกรณีที่เป็นอุบัติเหตุชนกับรถยนต์ด้วยกันตามเงื่อนไขในกรมธรรม์เท่านั้น แต่ในกรณีที่ไปเกิดอุบัติเหตุ และมีความเสียหายที่ต่างจังหวัด ผู้เอาประกันต้องการลากรถ หรือยกรถมาซ่อมใกล้บ้านซึ่งอยู่กันคนละจังหวัด กรณีนี้จะต้องค่าส่วนต่างเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ควรมีการตกลงกับทางบริษัทประกันภัยก่อนว่าทั้งหมดค่าบริการเป็นจำนวนเท่าไหร่ และมีส่วนต่างเท่าไหร่

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับบริการรถยก หรือรถสไลด์

บริการรถยก อยู่ในความคุ้มครองของประกันชั้นไหนบ้าง

        บริการรถยกในกรณีที่รถเสีย มักจะเป็นบริการเสริมที่มีให้เพียงบางบริษัท ซึ่งเงื่อนไขก็มีความแตกต่างกันไปตามแต่ละบริษัทเช่นกันน

        บริการรถยกในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ มีให้บริการกับทุกบริษัทที่มีความคุ้มครองต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อตัวรถยนต์ 

        ประกันรถยนต์ชั้น 1 สามารถใช้บริการรถยกได้ในกรณีที่มีความเสียหายต่อตัวรถยนต์ ได้ทั้งในแบบกรณีรถชนรถ และแบบรถชนแบบไม่มีคู่กรณี สามารถใช้บริการได้เลย

        ส่วนประกันรถยนต์ชั้น 2+ และประกันรถยนต์ชั้น 3+ สามารถใช้งานบริการรถยกในกรณีที่เป็นอุบัติเหตุแบบรถชนรถตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์เท่านั้น

ถ้าจำเป็นต้องเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อยๆ และเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุสามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้หรือไม่

        สำหรับคนที่มีการขับขี่ใช้งานรถยนต์โดยการเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อยๆ ก็อาจจะมีความกังวลใจว่าถ้าเกิดรถเสียกลางทางจะต้องทำอย่างไร สามารถเลือกซื้อประกันรถยนต์ที่มีบริการรถยก รถลากให้เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความอุ่นใจในการขับขี่ได้อีกด้วย

 

สรุปรถยกคืออะไร ควรเรียกใช้บริการตอนไหน

        สรุปกันง่ายๆว่าบริการ “รถยก” และ “รถลาก” มีจุดประสงค์เดียวกัน คือ เพื่อการเคลื่อนย้ายรถยนต์ออกจากจุดเกิดเหตุเพื่อไปทำการส่งซ่อมที่อู่ซ่อม หรือศูนย์บริการ บริการรถยกที่ให้บริการในกรณีที่รถเสีย อาจมีให้บริการเพียงประกันบางบริษัท แต่ถ้าในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ บริการรถยกมีให้บริการทุกบริษัทต่อความคุ้มครองต่อความเสียหายต่อตัวรถยนต์

        ในสำหรับการเลือกใช้ “รถยก” เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ขับเคลื่อน 4 ล้อ รถยนต์ที่มีความเสียหายหนัก ไม่สามารถบังคับทิศทางได้ หรือเกิดความเสียหายกับรถยนต์ของคุณแบบข้ามจังหวัด และต้องการที่จะนำรถกลับมาซ่อมอู่ใกล้บ้าน ก็สามารถใช้งาน “รถยก” ได้เช่นเดียวกัน ค่าบริการรถยกมีราคาที่สูงกว่ารถลาก แต่สามารถช่วยปกป้องช่วงล่างของรถยนต์ได้มากกว่า และสำหรับ “รถลาก” มีจุดประสงค์เดียวกับรถยก แต่เหมาะสมรถยนต์ที่อาจเกิดความเสียหายไม่ร้ายแรง ยังสามารถควบคุมทิศทางของรถยนต์ ข้อดี คือ ค่าบริการเริ่มต้นถูกกว่ารถยก แต่อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสี่ยงหายต่อช่วงล่างของรถยนต์

 


เขียนโดย : Ecomoney
เผยแพร่วันที่ : 13/02/2023
โปรโมชั่นแนะนำ
“เช็กเบี้ยประกันรถ เซฟกว่าเดิม 30%”

กำลังโหลด