นอนหลับอย่างไรให้มีคุณภาพ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการหลับในขณะขับรถ
อาการหลับในเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดความสูญเสียบนท้องถนน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องขับรถเดินทางในระยะไกล หรือ ผู้ที่ต้องใช้รถเดินทางในช่วงเวลากลางคืนบ่อย ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสียที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น บทความนี้ SILKSPAN อยากจะมาแนะนำเคล็ดลับการ “นอนหลับอย่างมีคุณภาพ” ใครที่มีปัญหาการนอนหลับ เราอยากให้คุณอ่านบทความนี้ไปจนถึงตอนจบ รับรองว่ามีประโยชน์อย่างแน่นอน
ทำไมการ “นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ” ถึงอันตรายต่อการขับขี่ ?
ไม่ใช่แค่การขับขี่เท่านั้น แต่การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันแบบเต็ม ๆ ทั้งในระยะสั้น และ ในระยะยาว ทว่าในผู้ที่ต้องขับขี่ในขณะที่อดหลับอดนอนมาแล้ว จะค่อนข้างมีความเสี่ยงมากกว่า เนื่องจากการอดนอนส่งผลกระทบโดยตรงต่อการขับขี่ ยกตัวอย่างเช่น
ผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ
เมื่อพักผ่อนไม่เพียงพอ ทั้ง ร่างกาย และ จิตใจ จะไม่อยู่กับร่องกับรอยสักเท่าไหร่ ใครที่เคยอดนอนน่าจะรู้ดีว่าช่วงนั้นจะรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว ปวดหัว กระสับกระส่าย อารมณ์แปรปรวน โมโหง่าย และ ไม่มีค่อยมีสมาธิสักเท่าไหร่
ความเสี่ยงของ “หลับในอุบัติเหตุรถชน”
ผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอมักจะมาพร้อมกับปัญหา “การตอบสนองช้าลง” เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน สมองจะสั่งการได้ช้า ร่างกายก็จะตอบสนองได้ไม่ทันการณ์ แน่นอนว่าอาจจะส่งผลร้ายถึงขั้น เกิดอุบัติเหตุรถชนขึ้นมาได้เลย
สัญญาณเตือนว่าคุณกำลังเสี่ยง “หลับใน”
การหลับในหลายคนมักจะบอกว่าเป็น “มัจจุราชเงียบ” เพราะมักจะมาโดยไม่ให้สุ้มให้เสียง เมื่อรู้ตัวอีกทีก็เกิดอุบัติเหตุไปเสียแล้ว ซึ่งที่จริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย สำหรับผู้ที่กำลังจะเข้าสู่ภาวะหลับใน มักจะมีสัญญาณเตือนบางอย่างแสดงออกมาก่อนเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกทางร่างกาย หรือ พฤติกรรมบางอย่าง ยกตัวอย่างเช่น
- รู้สึกว่าหนังตาหนักมาก เหมือนตาจะปิดลงมาอยู่ตลอด จนต้องมีการขยี้ตาเพื่อคลายง่วง
- เมื่อไหร่ที่รู้สึกตัวว่าหาวติดต่อกัน บ่งชี้ได้ว่าคุณกำลังเข้าสู่อาการหลับในถ้ายังฝืนต่อไป
- เริ่มสับสนแล้วว่าตอนนี้ตนเองกำลังขับรถอยู่ในจุดไหน รู้สึกเบลอ ๆ จนหลงลืมว่ากำลังขับผ่านอะไรมา
- สังเกตเห็นว่าเราค่อย ๆ ขับเหยียบเส้นแบ่งเลนโดยไม่รู้ตัว เป็นอาการที่อันตรายมาก ควรต้องหยุดรถด่วน
- รู้สึก “สะดุ้ง” เหมือนตกจากที่สูง อาการนี้น่ากลัวมาก เพราะคุณได้เกิดอาการหลับในไปแล้ว
10 เคล็ดลับ สู่การ “นอนหลับ” อย่างมีคุณภาพ เพื่อป้องกันการหลับใน
การแก้ปัญหาไม่ให้เกิดอาการหลับใน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนน เราจะไม่ขอแนะนำเทคนิคการ “คลายง่วง” เพราะนั่นคือการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุจริง ๆ คือการ “นอนหลับให้เพียงพอ” ซึ่งเรามี 10 เคล็ดลับการนอนหลับอย่างมีคุณภาพมาฝากผู้อ่านทุกท่าน ดังนี้
1.กำหนดเวลาเข้านอนและตื่นนอนให้สม่ำเสมอ
การนอนหลับที่มีคุณภาพ ส่วนหนึ่งจะต้องเกิดจากการ “นอนหลับเป็นกิจวัตร” เราต้องมีการกำหนดเวลาเข้านอนเป็นเวลา และควรตื่นนอนเป็นเวลา ไม่ใช่อยากนอนตอนไหนก็นอน อยากตื่นเมื่อไหร่ก็ตื่น มิฉะนั้นนาฬิกาชีวิตของคุณจะพัง จนทำให้รู้สึกง่วงได้ทุกเมื่อ แม้จะเป็นในขณะที่ขับรถอยู่
2.สร้างบรรยากาศห้องนอนให้น่านอน
สภาพแวดล้อมสำคัญเป็นอย่างมากต่อการนอนหลับ ในห้องนอนควรจะจัดเตรียมทุกอย่างให้เหมาะกับการนอนมากที่สุด ควรเป็นห้องที่มีอากาศเย็นสบาย ไม่มีเสียงรบกวน ปิดไฟให้มืดสนิท และถ้าจะให้ดีควรมีกลิ่นอโรม่าหอมอ่อน ๆ ซึ่งช่วยในเรื่องของการผ่อนคลาย
3.หลีกเลี่ยงคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ก่อนนอน
เชื่อว่าทุกคนรู้กันดีอยู่แล้ว ว่าเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนไม่ว่าจะเป็น ชา กาแฟ น้ำอัดลม หรือ เครื่องดื่มชูกำลัง ทำให้หลับยาก ทว่าหลายคนไม่รู้มาก่อนว่า “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์” ก็ทำให้นอนหลับไม่เพียงพอเช่นกัน แม้จะออกฤทธิ์ทำให้ง่วง แต่ก็จะต้องคอยลุกมาเข้าห้องน้ำบ่อย ๆ บ้างก็สะดุ้งตื่นกลางดึก จึงไม่ทำให้เป็นการนอนที่มีคุณภาพ
4.งดเล่นมือถือ/หน้าจอต่าง ๆ ก่อนนอน
แสงหน้าจอจากโทรศัพท์มือถือ หรือหน้าจออุปกรณ์ต่าง ๆ คือสิ่งที่ควรเลี่ยงให้มากที่สุด หากอยากจะนอนหลับพักผ่อน เนื่องจากแสงสีฟ้าจากหน้าจอจะรบกวนการหลั่ง “เมลาโทนิน” ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำหน้าที่ควบคุมการนอน อย่างน้อย ๆ ควรงดมองจอก่อนเข้านอนสัก 30 นาที จะช่วยให้หลับง่ายยิ่งขึ้น
5.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
รู้หรือไม่ ? การออกกำลังกายสม่ำเสมอ ช่วยให้นอนหลับได้ง่ายยิ่งขึ้น แถมยังช่วยให้นอนหลับลึกอีกด้วย เพียงแค่ขยับร่างกายสักหน่อย ออกกำลังกายเบา ๆ อย่างน้อยวันละ 30 นาที แต่ขอเตือนเลยว่าไม่ควรออกกำลังกายหนักเกินไป และต้องเว้นช่วงการออกกำลังกาย ให้ห่างจากเวลานอนอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
6.จัดการความเครียดอย่างเหมาะสม
ปัจจุบันมีคนจำนวนไม่น้อย ที่ประสบปัญหาเรื่องการนอนหลับ ซึ่งมีสาเหตุมาจากความเครียดสะสม ส่งผลให้กว่าจะข่มตานอนได้ในแต่ละคืนเป็นเรื่องยากมาก ๆ เหมือนในหัวมีสิ่งให้คิดอยู่ตลอดเวลา หากคุณเป็นคนที่ต้องเผชิญกับความเครียดเช่นนี้ ให้หากิจกรรมคลายเครียด ออกกำลังกาย ดูหนัง ฟังเพลง แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง
7.หลีกเลี่ยงอาหารมื้อหนักก่อนนอน
ขณะที่เราหลับร่างกายของเรายังทำงานอยู่ อวัยวะภายในต่าง ๆ ก็ยังคงทำหน้าที่ของมันตามเดิม ในกรณีที่มีการกินอาหารมื้อใหญ่ก่อนจะเข้านอน ส่งผลให้มีกระบวนการย่อยอาหาร ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้พลังงาน นอกจากจะทำให้นอนหลับยาก นอนหลับ ๆ ตื่น ๆ ยังเสี่ยงต่อปัญหากรดไหลย้อนอีกด้วย
8.สร้างกิจวัตรก่อนนอน
การนอนหลับที่ดี ควรเป็นการนอนหลับในเวลาที่ควรจะนอน และควรตื่นนอนในช่วงที่ควรจะตื่น การสร้างกิจวัตรประจำวันก่อนจะเข้านอน ช่วยทำให้ร่างกายจดจำเวลาการนอนได้ดี เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมอาการง่วงก็จะปรากฏขึ้นมาเอง โดยไม่ต้องพยายาม ซึ่งรวมถึงกิจวัตรอื่น ๆ ก่อนเข้านอนอีกด้วย ถ้าทำเหมือนกันทุกวัน ก็จะเป็นสิ่งที่ดี
9.ลองอาบน้ำอุ่นก่อนนอน
การอาบน้ำอุ่นก่อนนอน ช่วยให้คุณหลับได้ง่ายขึ้นจริง เพราะน้ำอุ่นจะไปกระตุ้นหลอดเลือดต่าง ๆ ในร่างกาย ช่วยคลายความเหนื่อยล้าสะสมระหว่างวัน และยังเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายเตรียมเข้าสู่โหมดพักผ่อนได้ง่ายขึ้น โดยน้ำอุ่นควรมีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 37 ถึง 40 องศาโดยประมาณ อาบก่อนถึงเวลานอนสัก 1 ชั่วโมงกำลังพอดี
10. ปรึกษาแพทย์หากมีปัญหาการนอนเรื้อรัง
สุดท้ายถ้าลองทุกวิธีแล้ว ก็ยังมีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับอยู่ดี ก็ควรต้อง “ปรึกษาแพทย์” เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพหลายอย่าง ที่ส่งผลให้การนอนไม่มีคุณภาพ อาจจะเป็นปัญหาด้านจิตใจ ความเครียดสะสม หรือ อาจเป็นภาวะหยุดหายใจขณะหลับ อาจต้องเข้ารับการทดสอบ Sleep Test เพื่อหาเหตุผลที่แท้จริง เป็นต้น
ขับขี่ปลอดภัย มั่นใจด้วย “ประกันรถยนต์” ที่ครอบคลุม
ไม่ว่าเราจะหลีกเลี่ยงมากแค่ไหน ระวังตัวมากเท่าไหร่ แต่อุบัติเหตุเวลาจะเกิดขึ้นก็มักจะไม่ค่อยแจ้งเตือน และบางครั้งก็ไม่ค่อยจะปรานีเราสักเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นการทำ “ประกันรถยนต์” ติดรถเอาไว้ จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด เนื่องจากใช้เป็นหลักประกัน ลดความเสียหายที่เกิดขึ้น มีเงินชดเชยกรณีต้องเข้ารับการรักษา ถ้ารถยนต์เกิดความเสียหาย ก็สามารถเข้ารับการซ่อมแซมได้ทันที ยิ่งเป็นประกันรถชั้น 1 ความคุ้มครองก็จะครอบคลุมที่สุด แม้จะเป็นการถอยรถชนเสาบ้านตัวเอง ก็ยังสามารถเอารถเข้าเคลมได้ตามความคุ้มครอง
บทส่งท้าย
สุดท้ายนี้หากคุณไม่อยากมีปัญหาหลับใน จนทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน แนะนำเลยว่าต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ด้วยเทคนิคช่วยให้นอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพที่เราแนะนำ หวังว่าจะทำให้ผู้ที่กำลังประสบปัญหาการนอน แก้ไขปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ได้ในเร็ววัน และถ้าวันไหนที่ขับรถแล้วรู้สึกเพลีย ง่วงนอน เริ่มมีอาการที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าน่าจะขับต่อไม่ไหว ห้ามฝืนขับต่อไปโดยเด็ดขาด ให้หาที่จอดที่ปลอดภัย นอนหลับสักตื่น หาอะไรกินให้สดชื่น แล้วค่อยเดินทางต่อ อาจถึงที่หมายช้าหน่อย แต่รับรองว่าถึงที่หมายแน่นอน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
- Facebook : SILKSPAN
- Instagram : silkspan
- Line Official : @SILKSPAN
- X (twitter) : SILKSPAN
- Youtube : SILKSPAN
- TikTok : silkspan
