ประกันรถยนต์ชั้น 1 เบี้ยเริ่มต้น 750 บาท/เดือน ที่ SILKSPAN

ผู้ป่วยตาบอดสี ยังสามารถสอบใบขับขี่ได้หรือไม่


ตาบอดสีสอบใบขับขี่ได้ไหม ผู้พิการแบบไหนสามารถขับรถได้

เชื่อว่าเราทุกคนรู้จักกับอาการ “ตาบอดสี” กันเป็นอย่างดี ซึ่งนี่คืออาการผิดปกติด้านการมองเห็น ที่จะทำให้แยกแยะความแตกต่างของสีได้ลำบาก นั่นทำให้มีความเชื่อที่ว่า หากมีอาการตาบอดสีจะไม่สามารถสอบใบขับขี่ได้ และ ไม่ควรขับขี่ยานพาหนะโดยเด็ดขาด บทความนี้เราจะมาอธิบาย ถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอาการตาบอดสี และขั้นตอนการสอบใบขับขี่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อสรุปว่าที่จริงแล้ว ผู้ที่มีอาการตาบอดสีสามารถทำใบขับขี่ได้หรือไม่ ? พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจว่า ผู้พิการสามารถขับรถได้ไหม ถ้าพร้อมแล้วไปชมกันเลย

 

อาการ “ตาบอดสี” คืออะไร ยังคงสอบใบขับขี่ได้หรือไม่ ?

ก่อนที่จะเจาะลึกข้อมูล ในเรื่องของการสอบใบขับขี่ของผู้ที่มีอาการตาบอดสี เราขอแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับอาการนี้กันเสียก่อน โดยตาบอดสีเป็นภาวะบกพร่องด้านการมองเห็นชนิดหนึ่ง เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ทั้ง พันธุกรรม , การบาดเจ็บที่ดวงตา , โรคเกี่ยวกับจอประสาทตา หรือ อายุที่เพิ่มมากขึ้น เป็นต้น ส่วนมากมีโอกาสเกิดขึ้นกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง สามารถจำแนกอาการได้ 3 รูปแบบ ดังต่อไปนี้

• ตาบอดสี แดง และ เขียว

ผู้ที่มีอาการตาบอดสี แดง และ เขียว จะแยกแยะความแตกต่างของสีทั้งสองได้ยากลำบาก รวมถึงสีที่เกี่ยวข้องกับสีนี้ เช่น สีส้ม และ สีเหลือง แน่นอนว่า เขียว เหลือง และ แดง เป็นสีของสัญญาณไฟจราจร นั่นทำให้ผู้ที่มีปัญหาตาบอดประเภทนี้ ค่อนข้างยากลำบากเมื่อจะต้องสอบใบขับขี่ แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะผ่านการทดสอบ หากสามารถจำแนกสัญญาณไฟจราจรได้อย่างแม่นยำ

ตาบอดสี น้ำเงิน และ เหลือง

เช่นเดียวกัน ในผู้ที่มีอาการตาบอดสี น้ำเงิน และ เหลือง จะแยกความต่างของสีทั้งสองได้ยาก ซึ่งอาจจะซับซ้อนกว่าสีแดง และ เขียว อยู่พอสมควร เพราะสีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่าง ม่วง เขียว ส้ม แดง ชมพู ก็จะมีปัญหาเช่นเดียวกัน หากว่ากันตามข้อมูลเชิงการแพทย์ ผู้ที่มีอาการตาบอดสีประเภทนี้ ถือว่ามีปัญหาค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับอาการอื่น ๆ แนวโน้มที่จะผ่านการทดสอบร่างกายจึงสูงมากกว่า

ตาบอดสีโดยสิ้นเชิง

สุดท้ายจะเป็นอาการตาบอดสีโดยสิ้นเชิง ผู้ที่มีอาการนี้จะมองไม่เห็นสีอะไรเลยแม้แต่น้อย โลกที่พวกเขาเห็นจะเป็นสีเทาทั้งหมด แต่จะมีความแตกต่างในด้านความเข้มของสี เป็นอาการตาบอดสีที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก ส่งผลให้โอกาสที่จะสอบใบขับขี่ผ่านนั้นน้อยริบหรี่ ซ้ำร้ายผู้ที่มีอาการตาบอดสีสมบูรณ์ มักจะมีปัญหาบกพร่องด้านการมองเห็นอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ดวงตาไวต่อแสง , อาการตาบอดกลางวัน หรือ สายตาสั้น เป็นต้น

ตาบอดสีทำใบขับขี่ได้หรือไม่

สาเหตุที่ต้องมีการคัดกรองผู้ป่วยตาบอดสี ในขั้นตอนการสอบใบขับขี่

วัตถุประสงค์ที่จะต้องทำการทดสอบคัดกรองผู้ที่มีปัญหาตาบอดสี ในกระบวนการสอบใบขับขี่นั้นก็เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน เพราะระหว่างการขับรถการมองเห็นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก การที่ไม่สามารถแยกสัญญาณไฟจราจร หรือ ไม่สามารถระบุป้ายจราจร มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุสูงมาก ทว่าผู้ที่มีปัญหาตาบอดสีก็ยังมีโอกาสผ่านใบขับขี่ หากอาการที่เป็นไม่ได้รุนแรงมากนัก ยังสามารถแยกแยะสัญญาณไฟจราจรได้อย่างไม่ติดขัด ซึ่งปัจจุบันมีการอบรมสอบใบขับขี่ออนไลน์ น่าจะมีการอธิบายถึงวัตถุประสงค์เหล่านี้ได้เป็นอย่างดี

 

อาการพิการรูปแบบใดบ้าง ที่ไม่สามารถสอบทำใบขับขี่ได้

นอกจากปัญหาตาบอดสีแล้ว ในการสอบใบขับขี่ก็ยังมีอาการบกพร่องทางร่างกายอีกหลายอย่าง ที่อาจส่งผลให้ไม่สามารถผ่านการทดสอบได้ ซึ่งประเทศไทยมีการเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีอาการพิการยังสามารถขับรถได้ แต่จะต้องพิสูจน์ได้ว่าความพิการที่มีไม่ส่งผลต่อการขับขี่ ในส่วนของอาการพิการที่มีการระบุอย่างชัดเจน ว่าไม่สามารถขับขี่ยานพาหนะบนท้องถนนประเทศไทยได้ มีดังต่อไปนี้

  • ความบกพร่องด้านการมองเห็นหรือการได้ยิน ขั้นรุนแรง
  • ความผิดปกติด้านสติปัญญาขั้นรุนแรง รวมถึงผู้ที่มีปัญหาอัลไซเมอร์
  • ความผิดปกติในระบบประสาทขั้นรุนแรง เช่น ลมบ้าหมู และ โรคพาร์กินสัน เป็นต้น
  • ความพิการด้านการเคลื่อนไหวขั้นรุนแรง ซึ่งไม่สามารถชดเชยได้ด้วยการปรับเปลี่ยนยานพาหนะ
  • ผู้พิการทางจิตเวช ผู้ที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้
  • ผู้ป่วยโรคร้ายแรงบางประเภทซึ่งอาจส่งผลต่อการขับขี่ เช่น ผู้ป่วยหลอดเลือดหัวใจขั้นร้ายแรง หรือ โรคเกี่ยวกับทางเดือนหายใจขั้นรุนแรง เป็นต้น

ขับดีมีคืน ต่ออายุประวัติดี ปีต่อไปแบบเบี้ยคุ้มๆ

ผู้ที่มีปัญหาทางร่างกาย ยังคงได้รับความคุ้มครองจากประกันภัยรถยนต์หรือไม่ ?

จากเนื้อหาข้างต้น ทำให้เราได้รู้ว่าผู้ป่วยตาบอดสีและผู้พิการ ที่ปัญหาความบกพร่องของร่างกาย แต่ไม่ได้ร้ายแรงจนทำให้ลดทอนความสามารถด้านการขับขี่ จะยังสามารถสอบใบขับขี่ได้ถูกต้องตามกฎหมาย แน่นอนว่าในเรื่องของการซื้อประกันภัยรถยนต์ ก็ยังสามารถทำได้ตามปกติ ไม่มีข้อยกเว้นใด ๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่อาจจะมีเงื่อนไขพิเศษขึ้นมา หรือ อาจจำเป็นต้องเลือกรูปแบบประกันภัยสำหรับคนพิการ ซึ่งบริษัทประกันภัยบางแห่งจะมีไว้รองรับ ในส่วนเบี้ยประกันก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่โดยรวมถือว่ายังคงเป็นเงื่อนไขตามปกติกับผู้คนทั่วไป

 

บทส่งท้าย

หากคุณเป็นผู้ที่มีปัญหาตาบอดสี อย่าเพิ่งท้อแท้จนล้มเลิกความตั้งใจ ให้ลองเดินทางไปสอบใบขับขี่ เพื่อทดสอบร่างกายดูเสียก่อน หากดวงตาของคุณยังเห็นอย่างคมชัด สามารถจำแนกความแตกต่างของสัญญาณไฟจราจรได้อย่างถูกต้อง สุดท้ายแล้วคุณก็จะผ่านการทดสอบได้อย่างง่ายดาย และเมื่อมีใบขับขี่แล้ว ก็อย่าลืมมองหา “ประกันภัยรถยนต์” ติดรถเอาไว้ ซึ่ง SILKSPAN พร้อมให้คำแนะนำผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่เหมาะกับคุณมากที่สุด พร้อมส่วนลดสุดพิเศษ ที่ทำให้ได้เบี้ยประกันที่ถูกกว่าที่อื่น ๆ สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ตลอด 24 ชั่วโมง


เขียนโดย : SILKSPAN ADVISOR
เผยแพร่วันที่ : 10/09/2024
รับข้อเสนอพิเศษ

จองสิทธิ์! ซื้อประกันรถยนต์ล่วงหน้ากับ SILKSPAN รับสิทธิ์ประโยชน์

  1. ส่วนลดสูงสุด 30%
  2. แบ่งจ่ายได้สูงสุด 10 เดือน (บัตรเครดิต และเงินสด)
  3. บริการเสริมช่วยเหลือฉุกเฉิน และเบิกค่าเดินทาง
  4. บริการเปรียบเทียบเบี้ยประกันจากบริษัทประกันกว่า 20 แห่ง

กรอกรายละเอียดเพื่อรับข้อเสนอจากพนักงานของเรา

“เช็คเบี้ยประกันรถฟรี 24 ชม.”

กำลังโหลด