ขับรถลุยน้ำท่วมช่วงหน้าฝน ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองไหม
หนึ่งในปัญหาที่เจ้าของรถหลายคนไม่รู้เกี่ยวกับการขับรถช่วงฝนตกรถติด ก็คือ เมื่อต้องขับลุยน้ำท่วมแล้วเกิดรถเสีย หรือมีอุบัติเหตุหน้าฝน แบบนี้ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ว่ากันว่าให้ความคุ้มครองที่ครอบคุ้มที่สุดจะยังให้ความคุ้มครองหรือไม่ และการแจ้งเคลมประกันรถยังสามารถทำได้หรือไม่ ในบทความนี้จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้กัน
ทำไม ประกันรถยนต์ชั้น 1 ถึงสำคัญในฤดูฝน?
เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน การขับขี่รถยนต์ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นถนนที่เปียกลื่น น้ำท่วมขัง หรือทัศนวิสัยที่ลดลงในขณะฝนตกหนัก ล้วนเพิ่มความเสี่ยงที่อาจนำไปสู่อุบัติเหตุโดยไม่คาดคิดได้ ประกันรถยนต์ชั้น 1 จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรมองข้าม เพราะให้ความคุ้มครองครอบคลุมเกือบทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในหน้าฝน ก็อุ่นใจได้
ความเสี่ยงที่มาพร้อมกับหน้าฝน
ในช่วงที่ฝนโปรยปรายอย่างต่อเนื่อง การขับรถต้องใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ เพราะบนถนนมีความเสี่ยงที่มาพร้อมหน้าฝน ดังนี้
- ถนนลื่น : พื้นผิวถนนที่เปียกอาจทำให้ล้อรถสูญเสียการยึดเกาะ ส่งผลให้เบรกได้ยากขึ้นหรือเกิดการลื่นไถล
- เบรกยาก : ระยะเบรกยาวขึ้นกว่าปกติ ทำให้เสี่ยงต่อการชนด้านหลังหากเว้นระยะห่างไม่เพียงพอ
- น้ำท่วมขัง : จุดอับน้ำที่สะสมตามถนน อาจทำให้รถติดน้ำท่วม หรือถึงขั้นเครื่องยนต์ดับกลางทาง
จุดเด่นของ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่เหนือกว่า
ประกันรถยนต์ชั้น 1 มีข้อได้เปรียบเหนือประกันรถยนต์ประเภทอื่นตรงที่คุ้มครองทั้งในกรณีที่มีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี รวมถึงเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้อย่าง ภัยธรรมชาติ ในช่วงหน้าฝน ที่หลายพื้นที่มักประสบกับน้ำท่วม หรือพายุฝน จึงมั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับการดูแลอย่างครอบคลุม ไม่ต้องกังวลถึงค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม
ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้างเมื่อเกิดเหตุในหน้าฝน?
แม้ว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 อาจมาพร้อมกับค่าเบี้ยประกันสูงกว่าประกันประเภทอื่น ๆ แต่เมื่อพิจารณาจากความคุ้มครองแล้วถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามากที่สุด นั่นก็เพราะประกันชั้น 1 คุ้มครองในหลายด้าน ต่อไปนี้
คุ้มครองความเสียหายจากน้ำท่วมรถยนต์
หนึ่งในสาเหตุที่พบได้บ่อยในฤดูฝน คือการขับลุยน้ำท่วม แล้วรถดับกลางทาง หรือได้รับความเสียหายที่เครื่องยนต์ ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมจากเหตุน้ำท่วม ไม่ว่าจะเกิดจากพายุฝนเฉียบพลันหรือฝนตกต่อเนื่องจนระดับน้ำสูงผิดปกติ
คุ้มครองอุบัติเหตุจากถนนลื่นและทัศนวิสัยต่ำ
หากเกิดอุบัติเหตุหน้าฝนที่ทำให้รถเสียหลักบนถนนลื่น หรือชนสิ่งกีดขวางเนื่องจากมองไม่เห็นขณะ ฝนตกหนัก ก็สามารถยื่นเคลมประกันรถได้โดยไม่ต้องมีคู่กรณี ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของประกันประเภทนี้ที่หลายคนมองหา
คุ้มครองกรณีภัยธรรมชาติอื่นๆ (เช่น ต้นไม้ล้มทับ)
ไม่เพียงแต่น้ำท่วมเท่านั้น เหตุการณ์อื่น ๆ เช่น พายุฝนที่พัดต้นไม้ล้มทับรถ หรือวัตถุตกใส่จากลมแรง ก็ถือเป็นภัยธรรมชาติที่อยู่ในขอบเขตความคุ้มครองของ ประกันรถยนต์ชั้น 1 เช่นกัน ช่วยลดภาระทางการเงินเมื่อต้องซ่อมรถจากเหตุสุดวิสัยเหล่านี้
ข้อควรรู้เมื่อต้อง เคลมประกันหน้าฝน และขับขี่ปลอดภัย
ไม่เพียงแค่ความคุ้มครองเท่านั้นที่ต้องรู้ แต่การเคลมประกันรถยนต์ชั้น 1 ช่วงหน้าฝน และการขับขี่อย่างปลอดภัยในวันที่ฝนตกหนักก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรู้เช่นเดียวกัน ดังนี้
สิ่งที่ต้องทำเมื่อรถเกิดความเสียหายจากหน้าฝน
เพื่อให้การเคลมประกันรถยนต์เป็นไปอย่างราบรื่น และรวดเร็วมากที่สุด แนะนำให้ปฏิบัติตามขั้นตอนแจ้งเคลมประกัน ดังนี้
- ถ่ายรูป จุดเกิดเหตุและความเสียหายโดยละเอียด
- แจ้งบริษัทประกัน ทันที เพื่อให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ
- หลีกเลี่ยงการสตาร์ทรถ หากมีความเสี่ยงว่าน้ำเข้าระบบเครื่องยนต์
- เก็บหลักฐาน เช่น ใบแจ้งความหรือพยานแวดล้อม หากจำเป็น
หลังจากปฏิบัติตามขั้นตอนแจ้งเคลมประกันรถยนต์ชั้น 1 เหล่านี้แล้ว ก็เหลือเพียงขั้นตอนของทางบริษัทประกันที่จะดำเนินการต่อ เพื่อนัดวันสำหรับซ่อมแซมรถยนต์อีกครั้ง
เทคนิคขับรถให้ปลอดภัยในฤดูฝน
การขับรถยนต์ด้วยความไม่ประมาท และขับขี่ด้วยเทคนิคเหล่านี้ จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้รถยนต์ในช่วงหน้าฝนให้กับคุณได้
- เว้นระยะห่าง จากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ
- ใช้ความเร็วต่ำ โดยเฉพาะบนถนนที่มีน้ำขัง
- เปิดไฟหน้า ขณะฝนตก เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยให้ผู้อื่นมองเห็นได้ชัด
- หลีกเลี่ยงการขับผ่านพื้นที่ที่เคยมีประวัติ น้ำท่วม
- ตรวจเช็กใบปัดน้ำฝนและสภาพยางสม่ำเสมอ
นอกจากการขับขี่ด้วยเทคนิคเหล่านี้แล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างคือการขับอย่างมีสติ แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่มีฝนตกหนัก หรือต้องลุยน้ำท่วม หากขับรถอย่างมีสติก็จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างแน่นอน
สรุป ประกันรถยนต์ชั้น 1 คือเพื่อนแท้ในหน้าฝน
เมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าฝน ฝนตกหนัก หรือมีน้ำท่วมขัง ต้องไม่ลืมว่าความเสี่ยงต่าง ๆ จากการขับขี่ใน หน้าฝน อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ แต่ด้วยการมี ประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็เปรียบเหมือนมีเพื่อนคู่ใจที่พร้อมช่วยเหลือคุณในยามคับขัน ไม่ว่าจะเป็นรถติดน้ำท่วมเกิดความเสียหาย อุบัติเหตุหน้าฝน หรือความเสียหายจากภัยธรรมชาติ ที่คุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะความอุ่นใจและความปลอดภัยขณะขับขี่ ไม่ควรปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตา แต่ควรเริ่มจากการมีความคุ้มครองที่เหมาะสมตั้งแต่วันนี้
