การันตีเช็กเบี้ยประกันรถถูกลง 30%

5 มะเร็งที่ผู้หญิงควรระวัง


5 มะเร็งที่ผู้หญิงควรระวัง

มะเร็งเป็นโรคที่ร้ายแรงที่คร่าชีวิตคนเราไปเป็นจำนวนมาก ทั้งเพศหญิงและเพศชายก็ต่างมีความเสี่ยงของโรคมะเร็งที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเกิดมาจากพฤติกรรมของตัวเรา หรือจะเป็นจากกรรมพันธุ์ ลองมาลองดูข้อมูลโรคมะเร็งที่เป็นอันตรายกับตัวผู้หญิงเพื่อเป็นข้อระวังให้กับตัวเอง

 

มะเร็งเต้านม

เป็นโรคมะเร็งที่พบมากที่สุดในผู้หญิงไทย มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามอายุที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป มะเร็งเต้านมเกิดจากความผิดปกติของเซลล์ที่อยู่ภายในท่อน้ำนมหรือต่อมน้ำนม เกิดการแบ่งตัวที่ผิดปกติและไม่สามารถควบคุมได้ และยังสามารถแพร่กระจายไปตามจุดต่างๆ ได้เหมือนมะเร็งในจุดอื่น

หากมีอาการผิดสังเกตบริเวณหน้าอก เช่น การคลำพบก้อนแข็งในเต้านม มีการเปลี่ยนแปลงที่ผิวหนัง มีรอยบุ๋ม หัวนมบุ๋ม เลือดออกจากหัวนม หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติเพียงข้างเดียว ควรรีบพบแพทย์และทำการรักษาอย่างเร่งด่วน

ผู้ชายก็เป็นมะเร็งเต้านมได้

มะเร็งเต้านมมีโอกาสเกิดขึ้นในผู้ชายเช่นเดียวกัน แต่ผู้หญิงมีโอกาสเกิดได้มากกว่าถึง 100 เท่า หรือ ถ้าเทียบเป็นสัดส่วน จำนวนผู้หญิงที่เป็นมะเร็งเต้านม 100 คน ผู้ชายจะมีโอกาสเป็นแค่ 0.5-1% เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยมาก

 

มะเร็งปากมดลูก

ถือว่าเป็นโรคมะเร็งที่พบได้มากของผู้หญิงรองลงมาจากมะเร็งเต้านม ซึ่งอาจเกิดจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า HPV (Human Papilloma Virus) ที่สามารถติดต่อได้จากการมีเพศสัมพันธ์ และบางครั้งสำหรับผู้ได้รับเชื้อแล้วอาจยังไม่แสดงผลในทันทีและอาจใช่เวลาก่อตัวถึง 10 ปีในการเป็นมะเร็ง

นอกจากการเกิดจากเชื้อไวรัส HPV ที่เป็นสาเหตุหลักแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่สามารถทำให้เป็นมะเร็งปากมดลูกได้ เช่น การสูบบุหรี่ การรับประทานยาคุมกำเนิดเป็นเวลานานโดยเฉพาะนานกว่า 5 ปีจะมียิ่งมีความเสี่ยงสูง การตั้งครรภ์และคลอดบุตรมากกว่า 4 ครั้ง การมีภูมิคุ้มกันไม่ดี และละเลยการตรวจภายในเพื่อคัดกรองโรค

ป้องกันได้อย่างไร

  1. หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง เช่น การสูบบุหรี่ การมีคู่นอนหลายคน มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน
  2. ตรวจคัดกรองโรค โดยการตรวจหาเชื้อ HPV หรือ การตรวจแปปสเมียร์ (Pap Smear)
  3. ฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ HPV

 

ประกันรถยนต์ชั้น 1 เริ่มต้นเพียง 750

 

มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก

เป็นโรคมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 3 มีโอกาสพบได้ทั้งชายและหญิง และพบมากโดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ทั้งกรรมพันธุ์และพฤติกรรมต่างๆ เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ ขาดการออกกำลังกาย น้ำหนักเกินเกณฑ์ หรือการทานอาหารที่มีไขมันสูง

อาการที่สังเกตและพบได้มักจะเป็นการขับถ่ายผิดปกติ เช่น การถ่ายบ่อยหรือน้อยกว่าปกติ ท้องผูก อุจจาระมีมูกเลือด หรือมีลักษณะลำเล็กกว่าปกติ หรือบางรายก็อาจไม่มีอาการใดๆ ที่เป็นที่สังเกตเลย ดังนั้นจึงควรไปทำการตรวจคัดกรอง ซึ่งมีหลายวิธี เช่น การตรวจโลหิตแฝงในอุจจาระทุก 1-2 ปี หรือการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ทุกๆ 5 ปี และในผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ก็ควรเฝ้าสังเกตอาการเป็นอย่างดี เพื่อจะได้แก้ไขได้ทันท่วงที

 

มะเร็งปอด

เป็นโรคมะเร็งที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เป็นโรคที่ความรุนแรงและมีอัตราการเสียชีวิตสูงมากกว่า 60% ของผู้ป่วย เมื่อเซลล์มะเร็งลุกลามเข้าสู่ระยะที่ 4 ซึ่งเป็นระยะที่อัตราอยู่รอด 5 ปี ไม่ถึง 5%

โรคมะเร็งปอด มีสาเหตุหลักเกิดจากการบุหรี่สูงถึง 80-90% ผู้ที่สูบมีโอกาสเป็นมากกว่าผู้ที่ไม่สูบถึง 10 เท่า และผู้ที่อยู่ใกล้ชิดที่ทำการสูดดมเข้าไป ก็มีโอกาสเป็นถึง 2 เท่าจากคนทั่วไป และนอกจากนี้โรคมะเร็งปอดยังมีโอกาสการเกิดจากสารพิษ หรือการสัมผัสแร่ใยหินที่มีอยู่ในวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ ก่อสร้าง สิ่งท่อและเหมืองแร่ และที่สำคัญสำหรับผู้ที่เคยมีรอยแผลที่ปอดจากการเป็นโรคอื่นมาก่อน เช่น วัณโรคหรือโรคถุงลมโป่งพอง ก็มีโอกาสเกิดมะเร็งปอดสูงเช่นกัน

 

มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก

หลายๆ คนมักจะสับสนกับโรคมะเร็งปากมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูก คือ ผิวด้านในของมดลูกที่จะทำหน้าที่รับการฝังตัวของตัวอ่อน หากเดือนใดไม่มีการตั้งครรภ์ เยื่อบุโพรงมดลูกจะสลายตัวและออกมาเป็นประจำเดือน เป็นโรคมะเร็งอีกตัวที่มีโอกาสพบได้สูงของมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิง โดยพบในสัดส่วน 3คน : 1แสนคน / ปี มีโอกาสพบทั้งในฝั่งยุโรปและเอเชีย ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอายุ 40-70 ปี ซึ่งมักอยู่ในวัยหมดประจำเดือนแล้ว และมีโอกาสพบในผู้หญิงวัยใกล้หมดประจำเดือนได้สูงขึ้นในปัจจุบัน

นอกจากอายุจะเป็นปัจจัยหลักในการเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกแล้ว ก็ยังมีสาเหตุอย่างอื่นเช่น

  • ปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงผิดปกติเกิดความไม่สมดุลกับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ส่งผลให้เยื่อบุมดลูกไม่สามารถลอกตัวออกได้ จนหนาผิดปกติและกลายเป็นมะเร็งในที่สุด
  • การได้รับฮอร์โมนเสริมเช่น การรับฮอร์โมนเอสโตรเจนทดแทนในผู้หญิงบางรายที่เข้าสู่ภาวะวัยทอง
  • ยาบางชนิดการได้รับยาบางชนิดติดต่อกันอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหนึ่ง เช่น การรับยารักษาสำหรับมะเร็งเต้านมที่ชื่อ Tamaxifen ก็อาจทำให้เกิดการกระตุ้นการทำงานของเยื่อบุโพรงมดลูกและกลายเป็นมะเร็งไปในที่สุด
  • ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบPCOS (Polycystic Ovary Syndrome) เป็นความผิดปกติที่เกิดจากต่อมไร้ท่อจนส่งผลให้ฮอร์โมนในร่างกายเกิดการเสียสมดุล เช่น การที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ อาจมีการแสดงอาการอื่นร่วม เช่น สิว ผิวหน้ามัน
  • พันธุกรรมในปัจจุบันมีข้อมูลที่แสดงถึงความผิดปกติทางพันธุกรรมซึ่งเกิดจากยีนที่ใช้ในการซ่อมแซมมีความผิดปกติ และนำไปสู่สาเหตุของการเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกร่วมกับมะเร็งลำไส้ใหญ่ในผู้ป่วยรายเดียวกันได้

หากศึกษาข้อมูลแล้วพบว่าเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคควรทำการตรวจคัดกรองเพื่อถ้าเจอจะได้ทำการรักษาตั้งแต่ระยะแรกๆ ซึ่งเป็นช่วงที่เมื่อทำการรักษาแล้วจะสามารถเห็นผลได้ดีกว่า แต่ถ้าหากใครไม่มีความเสี่ยงหรือเมื่อตรวจแล้วไม่พบ ก็ไม่ควรมองข้ามความน่ากลัวของโรคร้ายนี้ หมั่นเช็กร่างกายสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้น และทำการตรวจร่างกายประจำปีหรือทำการตรวจคัดกรองโรคตามระยะเวลาที่แนะนำเพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง

 


เขียนโดย : SILKSPAN ADVISOR
เผยแพร่วันที่ : 28/04/2021
โปรโมชั่นแนะนำ
“เช็กเบี้ยประกันรถ เซฟกว่าเดิม 30%”

กำลังโหลด