เบี้ยดีโดนใจ ประกันภัยชั้น 1 เบี้ยเริ่ม 750 บาท/เดือน พิเศษรับส่วนลดสูงสุด 30% เช็กเบี้ยที่นี่ กับ SILKSPAN

แบตเตอรี่รถยนต์มีกี่แบบ เลือกใช้แบบไหนดี


แบตเตอรี่รถยนต์มีกี่แบบ เลือกใช้แบบไหนดี

แบตเตอรี่รถในปัจจุบันมีหลายแบบ หลายยี่ห้อ หลายรุ่น ทำให้บางคนอาจสับสนว่าควรเลือกแบบไหนดี แต่ก่อนที่จะเลือกแบตเตอรี่ที่เหมาะกับรถ เรามาเข้าใจประเภทของแบตเตอรี่ก่อนดีกว่า

จริงๆ แล้วแบตเตอรี่มีหลายแบบ แต่แบตเตอรี่ที่นิยมใช้ในบ้านเรา ซึ่งเป็นประเทศภูมิอากาศแบบร้อนแบ่งออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ คือ

1. แบตเตอรี่แบบธรรมดา หรือแบบน้ำ ถึงแแม้ว่าแบตเตอรี่ชนิดนี้มีคุณสมบัติในการทนความร้อนสูง ทนต่อความเป็นกรดสูง ทนต่อประจุไฟฟ้าสูง มีอายุการใช้งานยาวนาน และราคาไม่แพง แต่ก็มีข้อเสียคือคายประจุไฟฟ้าเองอย่างรวดเร็ว อัดประจุไฟฟ้าช้า เกิดความร้อนสูงขณะชาร์ท ทำให้สูญเสียปริมาณน้ำกรดอย่างรวดเร็ว จึงทำให้ผู้ที่ใช้แบตเตอรี่ชนิดนี้จะต้องหมั่นเช็ก และเติมน้ำกลั่นทดแทนอยู่บ่อยๆ

2. แบตเตอรี่ประเภทไฮบริด เป็นแบตเตอรี่ที่พัฒนามาจากแบบธรรมดา คือมีการใช้ธาตุตะกั่วแคลเซียมเพื่อให้แบตเตอรี่สูญเสียไอน้ำกรดน้อยลงกว่าแบบน้ำ

3. แบตเตอรี่แบบกึ่งแห้ง หรือบางที่เรียกว่าแบบที่ไม่ต้องบำรุงรักษา (maintenance free) เป็นแบตเตอรี่ที่ใช้ตะกั่วแคลเซียมทั้งแผ่นธาตุบวก และธาตุลบ ราคาไม่แพงมาก จริงๆ แล้วเป็นแบตเตอรี่ที่ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นเลย แต่เนื่องจากบ้านเราเป็นประเทศเขตร้อน ทำให้เกิดการสูญเสียน้ำกรดได้ จึงจำเป็นต้องเติมน้ำกลั่นชดเชยทุกๆ 5-6 เดือน

 

ให้ประกันรถคุ้มครองทุกการเดินทาง ผ่อนประกันรถชั้น 1 0% ที่ SILKSPAN

 

4. แบตเตอรี่แบบแห้ง เป็นแบตเตอรี่ที่ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นเลย แต่ก็มีราคาแพงกว่าแบตเตอรี่แบบอื่นๆ เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลรถมากนัก ซึ่งแบบที่ใช้ในบ้านเราเป็นแบบ ที่มีน้ำกรดอยู่ภายในแบตเตอรี่ และถูกซีลปิดไว้ ทนต่อความร้อนสูง แบตเตอรี่ชนิดนี้จะมีรูหายใจอยู่ ถ้าหากรูนี้เกิดการอุดตัน อาจจะทำให้เกิดปัญหาความร้อนได้

ส่วนในต่างประเทศที่มีอากาศหนาว อาจจะใช้แบตเตอรี่แบบแห้งชนิดเจล ซึ่งเป็นแบตที่ใช้เจลแทนน้ำกรด ข้อดีคือทำให้น้ำกรดไม่สามารถรั่วซึมออกมาได้ แต่เจลก็สามารถละลายเป็นน้ำกรดได้หากเจออุณหภูมิสูง ซึ่งน้ำกรดนี้จะทำลายเซลในแบตเตอรี่ อีกแบบคือ แบตเตอรี่แบบแห้งชนิด AGM เป็นแบตเตอรี่ที่พัฒนามาจากแบบเจลอีกที มีคุณภาพสูง และให้พลังงานไฟฟ้ามากกว่า และใช้แผ่นใยแก้วเป็นวัสดุพิเศษที่ทำหน้าที่ดูดซับน้ำกรดทั้งหมดไว้ ทำให้น้ำกรดไม่สามารถรั่วไหลออกจากแบตเตอรี่ได้ แต่อุณหภูมิในการทำงานสูงสุดจะอยู่ที่ 55 องศาเซลเซียสเท่านั้น

เปลี่ยนแบตเตอรี่คราวหน้า นอกจากจะต้องพิจารณาปริมาณแอมป์ ขนาดของแบตเตอรี่กับที่วางแบตเตอรี่ และวันที่ผลิตแล้ว การใช้สไตล์การบำรุงรักษาของตัวเองมาพิจารณาก็จะทำให้คุณตัดสินใจเลือกแบตเตอรี่ได้ง่ายขึ้น


เขียนโดย : SILKSPAN ADVISOR
เผยแพร่วันที่ : 25/11/2021
รับข้อเสนอพิเศษ

จองสิทธิ์ประกันรถยนต์

ประกันรถยนต์ รับส่วนลดสูงสุด 30% กว่า 20 บริษัทชั้นนำ

  1. ต่ออายุล่วงหน้า รับส่วนลดเพิ่ม สูงสุดกว่า 500 บาท
  2. ผ่อนบัตรเครดิต ผ่อนเงินสด ได้สูงสุด 10 เดือน
  3. ฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม.
  4. ฟรีรถใช้ระหว่างซ่อม หรือ เบิกค่าเดินทาง 1,000 บาท

กรอกข้อมูล เพื่อ “รับข้อเสนอพิเศษ” ต่อประกันรถยนต์

taff-call
“เช็คเบี้ยประกันรถฟรี 24 ชม.”
line

กำลังโหลด