
พ.ร.บ.อากาศสะอาด ความหวังสุดท้าย แก้ปัญหา PM 2.5

ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญ หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรได้รับหลักการในวันที่ 17 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา การพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับความสนใจจากหลายพรรคการเมือง และมีการเสนอร่างกฎหมายเพิ่มเติมรวมทั้งสิ้น 7 ฉบับ เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองในมิติต่าง ๆ
ร่าง พ.ร.บ.นี้มีวัตถุประสงค์หลักในการปกป้องสุขภาพของประชาชนโดยการสร้างระบบจัดการอากาศที่มีประสิทธิภาพ โดยครอบคลุมมาตรการต่าง ๆ เช่น การกำหนดมาตรฐานคุณภาพอากาศ การพัฒนาระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศ และการควบคุมมลพิษจากแหล่งกำเนิดที่หลากหลาย รวมถึงการใช้มาตรการทางเศรษฐศาสตร์เพื่อสนับสนุนการส่งเสริมอากาศสะอาด
คณะกรรมาธิการฯ มีแผนที่จะเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นี้ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2568 และคาดว่าจะสามารถผ่านการพิจารณาได้ก่อนการปิดสมัยประชุมในวันที่ 9 เมษายน 2568 ซึ่งจะช่วยให้ประเทศไทยมีกฎหมายที่ชัดเจนในการจัดการปัญหามลภาวะฝุ่น PM2.5 จากที่ปัจจุบันการแก้ไขปัญหานี้เป็นภาระของหลายกระทรวงและมักจะเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจเฉพาะในช่วงที่ฝุ่นมีปริมาณสูง

ร่าง พ.ร.บ.นี้มีการกำหนดมาตรการที่ครอบคลุมการควบคุมต้นเหตุของฝุ่นใน 6 ด้านหลัก ได้แก่ การเกษตร, ป่าไม้, อุตสาหกรรม, การคมนาคม, พื้นที่เมือง และฝุ่นที่มาจากต่างประเทศ อีกทั้งยังได้ตั้งกองทุนอากาศสะอาดเพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงคุณภาพอากาศให้ดีขึ้นในระยะยาว
ก่อนหน้านี้ ในปี 2562 คณะรัฐมนตรีได้ประกาศให้ปัญหาฝุ่นละอองเป็นวาระแห่งชาติ แต่กลับพบว่าแนวทางนี้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาฝุ่นได้อย่างจริงจัง ดังนั้น การเสนอกฎหมายเฉพาะสำหรับการจัดการฝุ่นอาจเป็นความหวังสุดท้ายที่สามารถนำไปสู่การแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขอบคุณข้อมูลจาก : กรุงเทพธุรกิจ