แนะนำ 7 ระบบความปลอดภัยภายในรถยนต์ ที่คุณควรต้องรู้ !

เนื่องจากในแต่ละปี จะมีผู้ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นจำนวนมาก นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ ได้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อมาใช้เป็น “ระบบความปลอดภัย” ภายในรถยนต์แต่ละคัน โดยในทุก ๆ ปีก็จะมีการพัฒนาระบบความปลอดภัยในตัวรถให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพให้สามารถลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุให้น้อยลงเรื่อย ๆ บทความนี้ SILKSPAN จะพาผู้อ่านทุกท่านไปทำความรู้จักกับ 7 ระบบความปลอดภัยในรถยนต์ ที่ควรรู้จักในปัจจุบัน ไปดูกันเลยว่าจะมีอะไรกันบ้าง

ระบบความปลอดภัยรถยนต์คืออะไร ? สำคัญแค่ไหนกับชีวิตผู้ขับขี่

“ระบบความปลอดภัยในรถยนต์” คือเทคโนโลยีที่มาพร้อมกับการออกแบบตัวรถ วัตถุประสงค์เพื่อลดความสูญเสียที่จะเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากสถิติจากองค์การอนามัยโลก ชี้ให้เห็นว่าอุบัติเหตุบนท้องถนน เป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ของการเสียชีวิตของคนทั่วโลก นั่นจึงทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ได้ทำการพัฒนาระบบความปลอดภัย ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในทุก ๆ ปี นั่นเอง

ประเภทของระบบความปลอดภัยในรถ

ปัจจุบันถูกแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบคือ “ระบบความปลอดภัยเชิงรับ” ซึ่งจะทำงานเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เช่น ระบบถุงลมนิรภัย โครงสร้างของห้องโดยสาร และ เข็มขัดนิรภัย เป็นต้น อีกหนึ่งรูปแบบก็จะเป็น “ระบบความปลอดภัยเชิงรุก” ที่จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ เช่น ระบบเบรก ABS , ระบบเตือนการหลับใน และ ระบบช่วยควบคุมการทรงตัว เป็นต้น

ระบบความปลอดภัยพื้นฐาน vs ระบบขั้นสูง

ระบบความปลอดภัยภายในรถยนต์ก็จะถูกแบ่งออกเป็นหลายระดับ เริ่มต้นจากระดับพื้นฐานก็จะพบได้ในรถยนต์ทั่วไป เช่น เข็มขัดนิรภัย , เบรก ABS และ ระบบถุงลมนิรภัย เป็นต้น ส่วนระบบความปลอดภัยชั้นสูง มักจะพบได้ในรถยนต์รุ่นใหม่ หรือ รถที่มีราคาแพง อาทิเช่น ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ , ระบบช่วยหลบหลีกกะทันหัน และ ระบบเซนเซอร์ช่วยตรวจจับรอบตัวรถ เป็นต้น

7 ระบบความปลอดภัยในรถยนต์ ที่ควรรู้ก่อนซื้อรถ

เนื่องจากรถยนต์แต่ละรุ่น ผลิตมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยที่แตกต่างกัน ดังนั้นในการเลือกซื้อรถในปัจจุบัน นอกจากดีไซน์ความสวยงามที่จะต้องถูกใจ สมรรถนะของตัวรถที่ตอบโจทย์การใช้งาน อย่าลืมทำความเข้าใจกับระบบความปลอดภัยในรถยนต์ที่สนใจอีกด้วย มาดูกันเลยว่า 7 ระบบความปลอดภัยในปัจจุบัน มีอะไรที่ควรรู้จักกันบ้าง !

1. ระบบถุงลมนิรภัย

ระบบถุงลมนิรภัย (Airbags) เป็นระบบความปลอดภัยพื้นฐานของรถยนต์สมัยใหม่ จะทำงานโดยทันทีหากเซ็นเซอร์บริเวณหน้ารถตรวจจับการกระแทกอย่างรุนแรง จากนั้นถุงลมภายในรถจะทำการพองตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยลดแรงกระแทกที่เกิดขึ้นกับผู้โดยสารภายในรถได้ ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้ถึง 30% เลยทีเดียว

2. ระบบเบรก ABS

ระบบเบรก ABS (Anti-lock Braking System) หลักการทำงานจะเป็นการใช้เซนเซอร์ตรวจจับการหมุนที่ผิดปกติของล้อ ในกรณีที่มีการเหียบเบรกแรง ๆ จากกรณีที่ต้องเบรกฉุกเฉิน ปกติแล้วล้อจะล็อกตาย แต่เมื่อมีระบบเบรก ABS จะทำให้ล้อยังหมุนได้บ้าง เป็นตัวช่วยที่ทำให้การควบคุมรถในกรณีฉุกเฉินทำได้ดีมากยิ่งขึ้น ป้องกันการพลิกคว่ำได้ดี

3. ระบบควบคุมการทรงตัว ESC

ระบบควบคุมการทรงตัว ESC (Electronic Stability Control) เป็นระบบที่มีการทำงานร่วมกับระบบเบรก ABS พบในรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ในปัจจุบัน จะมีการใช้เซนเซอร์ในหลาย ๆ จุด อาทิเช่น เซนเซอร์วัดความเร็วของล้อ , เซนเซอร์จับการหมุนของพวงมาลัย และ เซนเซอร์จับการหมุนของตัวรถ ช่วยในกรณีที่รถยนต์เกิดการเสียการควบคุม ช่วยลดโอกาสเสียชีวิตได้มากถึง 67%

4. ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตา

ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning) จะทำหน้าที่เป็นหูเป็นตาให้กับเรา ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยที่พบในรถรุ่นใหม่ โดยจะตรวจจับรถยนต์คันอื่นที่แล่นในจุดที่เรามองไม่เห็น แล้วจะส่งเสียงเตือนหากเราพยายามเปลี่ยนเลยไปทางรถคันนั้น พร้อมกับควบคุมพวงมาลัยให้ดึงรถกลับมาในทิศทางที่ปลอดภัยในทันที

5. ระบบเตือนการชนด้านหน้า

ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning) จะทำงานโดยมีเซนเซอร์บริเวณหน้ารถ มีหน้าที่ตรวจจับระยะห่างจากรถยนต์คันหน้า หรือสิ่งของที่อยู่ด้านหน้าของตัวรถ หากอยู่ในระยะที่อันตรายก็จะส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่ ช่วยลดโอกาสการชนท้าย และ ช่วยป้องกันการชนสิ่งของในมุมอับสายตาบริเวณหน้ารถได้

6. ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC

ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control System) จะทำงานในสถานการณ์ที่รถลื่นไถล เมื่อเซนเซอร์ตรวจพบจะเพิ่มแรงบิดเข้าไปที่ล้อนั้น ๆ ทำให้ล้อที่เกิดการลื่นกลับมาเกาะถนนได้ดีขึ้น ช่วยให้การขับขี่บนทางลาดชัน หรือ ถนนที่มีน้ำขัง เป็นเรื่องที่ปลอดภัยมากกว่าเดิม

7. ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ

ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ (Autonomous Emergency Braking) เป็นอีกหนึ่งระบบความปลอดภัยในรถยนต์ที่พบได้บ่อยในรถยนต์รุ่นใหม่ในปัจจุบัน ช่วยเบรกในกรณีฉุกเฉินจากเซนเซอร์บริเวณหน้ารถ หากผู้ขับขี่ไม่อยู่ในจุดที่สามารถเบรกด้วยตนเองได้ รถยนต์จะทำการเบรกด้วยตนเองในทันที เพื่อลดความเสียหายที่เกิดขึ้น

เหตุผลที่ระบบความปลอดภัยในรถยนต์สำคัญต่อชีวิต

• ลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ

ระบบความปลอดภัยในรถยนต์ ช่วยลดความรุนแรงของอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น พร้อมกับช่วยลดความเสี่ยงซึ่งเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อีกด้วย แม้จะไม่ได้ช่วยป้องกันได้อย่างสมบูรณ์ 100% แต่ก็สามารถทำโอกาสรอดชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

• ช่วยให้ผู้ขับขี่มีสติและมั่นใจมากขึ้น

สำหรับผู้ขับขี่ที่เลือกซื้อรถที่มีระบบความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะกับผู้ที่ยังไม่ชำนาญในการขับรถยนต์บนท้องถนนจริง ทำให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ลดความรู้สึกกล้า ๆ กลัว ๆ สร้างความอุ่นใจให้กับผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว

เลือกซื้อรถใหม่ ต้องเช็กว่ามีระบบความปลอดภัยเหล่านี้หรือไม่ ?

• รถใหม่ปี 2024-2025 ควรมีระบบใดเป็นพื้นฐาน ?

ในรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ในช่วงปี 2024 ถึง 2025 ส่วนมากมักจะมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยที่ครบครัน อาทิเช่น เบรก ABS , ระบบถุงลมนิรภัย , ระบบควบคุมการทรงตัว , ระบบช่วยเตือนในจุดอับสายตา และ ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน เป็นต้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่น ว่าระบบนั้น ๆ มีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด

• เปรียบเทียบรถที่มีระบบความปลอดภัยครบ vs ไม่มี

การจะเลือกรถยนต์ต้องมีการเปรียบเทียบคุณภาพของตัวรถอยู่แล้ว ทั้งในส่วนของราคา ความสวยงาม สมรรถนะ และ ที่ขาดไม่ได้คืออย่าลืมมองถึงเรื่องของ ระบบความปลอดภัยในรถ ต้องมาประเมินว่ารถรุ่นนี้มีระบบอะไรบ้าง รถรุ่นนี้มีระบบอะไรบ้าง เมื่อนำทุกอย่างมาตัดสินใจร่วมกัน ก็จะช่วยให้คุณเจอกับรถที่เหมาะกับตัวคุณมากที่สุด

บทส่งท้าย

หากการซื้อรถต้องมีการเปรียบเทียบระบบความปลอดภัยของรถในรุ่น การ “ซื้อประกันภัยรถยนต์” ก็ไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ เนื่องจากประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภท มีความคุ้มครองที่ต่างกัน ในเนื้อประกันที่ที่สูงต่ำไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นการที่คุณจะได้รับความคุ้มครอง ในงบประมาณที่ตั้งเป้าเอาไว้ บางครั้งต้องได้รับพาร์ทเนอร์ดี ๆ ที่ช่วยให้คุณเปรียบเทียบระหว่าง เบี้ยประกันที่ต้องจ่าย กับ ความคุ้มครองที่ได้รับ ซึ่ง SILKSPAN พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์คนสำคัญให้กับคุณ หากสนใจซื้อประกันภัยรถยนต์ เพียงกรอกรายละเอียดทิ้งเอาไว้ด้านล่างของบทความนี้เท่านั้น