ท้าพิสูจน์! คุณกำลังจ่ายเบี้ยประกันแพงกว่า 30%

กรมธรรม์ประกันภัยคืออะไร เกี่ยวข้องอย่างไรกับประกันรถยนต์


กรมธรรม์ประกันภัย

กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์เป็นสิ่งที่ใช้ยืนยัน และเป็นเครื่องหมายที่สามารถใช้บ่งบอกว่ารถยนต์ของคุณมีรายละเอียดตัวถัง รุ่น ยี่ห้อ สีอย่างไร ทำประกันรถยนต์ชั้นไหน ได้รับความคุ้มครองอย่างไร ทุนประกันเท่าไหร่ ได้รับส่วนลดหรือไม่ ค่าเบี้ยประกันรถยนต์เป็นจำนวนเท่าไหร่ มีวันที่เริ่มต้นได้รับความคุ้มครอง และวันเวลาสิ้นสุดการคุ้มครอง กรมธรรม์รถยนต์สามารถใช้เป็นเอกสารยืนยันเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เกิดเหตุการณ์ต่างๆ ที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อรถยนต์ คู่กรณี บุคคลภายนอก และตัวเจ้าของรถที่เอาประกันว่าจะได้รับความคุ้มครองหรือไม่ และได้รับความคุ้มครองอย่างไร ซึ่งประกันรถยนต์ในแต่ละชั้นก็จะให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกัน ดังนั้นการมีกรมธรรม์ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไว้เป็นสิ่งที่ระบุความคุ้มครอง เงื่อนไข และช่องทางในการติดต่อบริษัทประกัน ใช้เป็นเอกสารในการทำเรื่องเคลม ซึ่งถือว่าการเคลมประกันรถยนต์ ไม่มีกรมธรรม์ไม่ได้นั่นเอง

 

กรมธรรม์ประกันภัย คืออะไร

        กรมธรรม์ประกันภัย คือ เอกสารที่ใช้เป็นเครื่องยืนยันในความคุ้มครองที่จะได้รับจากบริษัทประกันภัย เมื่อได้ทำการทำประกันให้กับสินทรัพย์ต่างๆ สามารถใช้เพื่อระบุรายละเอียดต่างๆ ของสินทรัพย์ที่ทำประกัน รายละเอียดความคุ้มครองที่จะได้รับ ถ้าหากเกิดอุบัติเหตุ หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เกิดความเสียหายแก่สินทรัพย์ใดๆ ที่ได้ทำประกันไว้ ทางบริษัทประกันก็จะให้ความคุ้มครอง และจ่ายค่าชดเชยให้ตามที่ได้ระบุไว้ในกรมธรรม์ฉบับนั้นๆ สำหรับการทำประกันภัยรถยนต์นั้น เมื่อได้ทำการดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ผู้ที่ทำประกัน หรือผู้ที่เอาประกันก็จะได้รับกรมธรรม์ที่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับตัวรถยนต์ที่ทำประกัน และความคุ้มครองที่จะได้รับ ซึ่งจะแตกต่างกันตามประกันภัยรถยนต์แต่ละชั้นที่ได้เลือกทำไว้ รวมไปถึงทุนประกัน ส่วนลดที่ได้รับต่างๆ และเบี้ยประกันด้วยเช่นกัน ซึ่งตัวกรมธรรม์เองมักจะได้รับเป็นเอกสารส่งไปตามที่อยู่ที่ได้ระบุไว้ แต่ในปัจจุบันก็สามารถขอรับเป็นกรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้เช่นเดียวกัน ซึ่งกรมธรรม์ทั้งแบบกระดาษ และแบบอิเล็กทรอนิกส์ก็มีผลเช่นเดียวกัน ให้ความคุ้มครองเหมือนกัน และสามารถใช้เป็นหลักฐานในการทำเรื่องเคลม ถ้าหากเกิดอุบัติเหตุกับตัวรถยนต์ และคู่กรณีได้เช่นเดียวกัน

 

ประเภทของกรมธรรม์ประกันภัย

        การแบ่งประเภทของกรมธรรม์ประกันภัย สามารถแบ่งได้ตามประเภทของประกันภัยตามประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ นั่นก็คือ การประกันชีวิต (Life Insurance) และการประกันวินาศภัย (Non-Life Insurance) โดยธุรกิจการประกันภัยทั้ง 2 ประเภทนั้นจะมีหลักเกณฑ์ และมีการกำกับดูแลภายใต้กฎหมายที่แตกต่างกัน ซึ่งการประกอบธุรกิจประกันชีวิตจะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ พ.ร.บ. ประกันชีวิต พ.ศ. 2535 และสำหรับการประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ พ.ร.บ. ประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535

        ซึ่งถ้าเป็นการแบ่งตามหลักการวิชาการประกันภัย ก็จะสามารถได้แบ่งประเภทของการประกันภัยออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้

การประกันภัยบุคคล (Insurance of the person)

        การประกันภัยบุคคลเป็นการประกันภัยที่มีความเกี่ยวกับภัยที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือที่เกิดกับบุคคล ได้แก่

  • การประกันชีวิต
  • การประกันอุบัติเหตุ
  • การประกันสุขภาพ

        ซึ่งเมื่อได้ทำการทำประกันภัยเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็จะได้รับกรมธรรม์ที่ใช้เอกสารยืนยันในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ หรือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่สามารถขอรับความคุ้มครองจากทางบริษัทประกันได้

การประกันภัยทรัพย์สิน (Property Insurance)

        การประกันภัยทรัพย์สินเป็นการประกันที่บริษัทผู้รับประกันภัยจะมีการทำสัญญายินยอมที่จะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน หรือชดใช้เงินจำนวนหนึ่งให้กับผู้เอาประกันภัย ในกรณีที่เกิดความเสียหายเกี่ยวกับทรัพย์สินที่เอาประกัน ได้แก่ 

  • การประกันอัคคีภัย
  • การประกันภัยทางทะเลและขนส่ง
  • การประกันภัยรถยนต์
  • การประกันภัยเบ็ดเตล็ดอื่นๆ

        ซึ่งเมื่อได้มีการทำประกันภัยเสร็จสิ้นแล้วก็จะได้รับกรมธรรม์เพื่อเอกสารยืนยันที่ใช้ในการทำเรื่องขอเคลมเมื่อเกิดเหตุการณ์ความเสียหาย หรือเมื่อเกิดอุบัติเหตุต่างๆ ในความคุ้มครองที่ได้รับจากบริษัทประกันที่ได้ทำไว้นั่นเอง

การประกันภัยเกี่ยวกับความรับผิดตามกฎหมาย (Liability Insurance)

        ประกันภัยประเภทนี้จะเป็นการประกันภัยที่เกิดขึ้นโดยผลของกฎหมาย ที่เกิดจากการประมาทเลินเล่อของผู้เอาประกันภัย บุคคลในครอบครัว หรือลูกจ้างของผู้เอาประกันภัยที่ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย เกิดการบาดเจ็บ เจ็บป่วย เสียชีวิต หรือทำให้ทรัพย์สินเกิดการเสียหาย ซึ่งสามารถแบ่งประเภทการประกันภัยเกี่ยวกับความรับผิดตามกฎหมาย แบ่งออกได้กว้างๆ ดังนี้

  • การประกันภัยความรับผิดต่อสาธารณะ (Public Liability Insurance)
  • การประกันภัยความรับผิดจากผลิตภัณฑ์ (Product Liability Insurance)
  • การประกันภัยความรับผิดจากวิชาชีพ (Professional Liability Insurance)

 

กรมธรรม์ประกันภัยคือ

กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ คืออะไร

        กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ เป็นเอกสารที่ใช้ยืนยัน และระบุความครองของรถยนต์ เมื่อเกิดความเสียหาย หรือได้รับความเสียหายในกรณีต่างๆ ที่จะมีความแตกต่างกันตามประกันรถยนต์ประเภทต่างๆ ที่ได้ทำการเลือกทำให้กับตัวรถยนต์ไว้ ประกันรถยนต์จัดว่าเป็นประกันประเภทประกันวินาศภัยประเภทหนึ่ง ที่ให้ความคุ้มครองแก่ผู้เอาประกันภัยเมื่อเกิดความสูญเสีย หรือความเสียหายอันเกิดจากการใช้รถยนต์ ซึ่งการประกันความเสียหายอันเกิดจากการใช้รถยนต์ จะประกอบด้วย

  • ความเสียหายที่เกิดแก่รถยนต์
  • ความเสียหายที่รถยนต์ได้ก่อให้เกิดขึ้นแก่ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก รวมทั้งบุคคลที่โดยสารอยู่ในรถยนต์นั้น

        เมื่อเกิดความเสียหายขึ้น กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ก็จะเอกสารที่ใช้ยืนยัน และระบุความคุ้มครองต่างๆ ที่จะได้รับ หรือจะได้รับการชดเชย โดยสำหรับรถยนต์จะเป็นค่าซ่อมรถยนต์ในส่วนที่ได้รับความคุ้มครองตามทุนประกันที่ทำไว้ รวมไปถึงความคุ้มครอง และการได้รับค่าชดเชย ค่าสินไหมทดแทนต่อความเสียหายในส่วนอื่นๆ ที่ได้มีการระบุไว้ในกรมธรรม์ ซึ่งจะมีความแตกต่างกันตามแต่ละประเภทของประกัน

 

กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ มีกี่ประเภท

        ประกันภัยรถยนต์สามารถออกเป็น 2 ประเภท คือ ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ ที่จะเป็นที่รู้จักกันว่า พ.ร.บ. ซึ่งรถยนต์ทุกคันไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันรถยนต์ชั้น 2+, ประกันรถยนต์ชั้น 3+ และประกันรถยนต์ชั้น 3 ก็ต้องทำประกันรถยนต์ประเภทนี้ ประกันรถยนต์ภาคบังคับจะเป็นการให้ความคุ้มครองแก่ร่างกาย ชีวิต และการรักษาต่างๆ ของผู้ที่ได้รับความเสียหายจากรถยนต์เท่านั้น โดยสามารถต่อพ.ร.บ. ได้หลังจากทำการเสียภาษีรถยนต์รายปีแล้ว

        และประกันภัยรถยนต์อีกประเภทก็คือ ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ซึ่งนั่นก็คือการทำประกันภัยรถยนต์กับบริษัทประกันต่างๆ เพื่อจะได้รับความคุ้มครองตามทุนประกันที่ประกันภัยประเภทต่างๆ ให้ความคุ้มครอง

กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ

กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1

        กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 (Comprehensive) จะเป็นการประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองมากกว่าการประกันภัยรถยนต์ประเภทอื่นๆ โดยมีความคุ้มครองหลักครบทั้ง 4 ประเภท ดังนี้

1.ให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก รวมถึงผู้โดยสารในรถยนต์คันเอาประกันภัย

2.ให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก

3.ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์

4.ให้ความคุ้มครองการสูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์

กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ประเภท 2

        กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ประเภท 2 (Third Party Liability, Fire and Theft) เป็นกรมธรรม์ประกันภัยประเภทที่ประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกับการประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 แตกต่างเพียงไม่มีความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวของรถยนต์ โดยมีความคุ้มครองหลัก ดังนี้

1.คุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก รวมถึงผู้โดยสารในรถยนต์คันเอาประกันภัย

2.คุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก

3.คุ้มครองการสูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์

กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ประเภท 3

        กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ประเภท 3 (Third Party Liability) เป็นการประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองน้อยกว่าการประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 และประเภท 2 โดยบริษัทประกันภัยจะให้ความคุ้มครอง และทำการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเฉพาะความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอก ดังนี้

1.คุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก รวมถึงผู้โดยสารในรถยนต์คันเอาประกันภัย

2.คุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก

กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ประเภท 4

        กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ประเภท 4 (Third Party Property Damage Only) ให้ความคุ้มครองต่อบุคคลภายนอกเท่านั้น โดยคุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก 100,000 บาทต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง

กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ประเภท 5

        กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ประเภท 5 เป็นแบบคุ้มครองภัยเฉพาะที่พัฒนาใช้งานขึ้นมาในภายหลัง แบ่งเป็น 2 แบบ ดังนี้

 

แบบประกัน 2 พลัส (2+)

เป็นประกันให้ความคุ้มครองรับผิดชอบต่อความเสียหายแบบประกันภัยชั้น 2 แต่เพิ่มความรับผิดต่อความเสียหายต่อตัวรถยนต์คันเอาประกันภัยกรณีที่ชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น และต้องมีคู่กรณี โดยให้ความคุ้มครอง ดังนี้

1.คุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก และผู้โดยสารในรถ

2.คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์คันเอาประกันภัย กรณีชนกับยานพาหนะทางบก

3.คุ้มครองการสูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย

 

แบบประกัน 3 พลัส (3+)

เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองรับผิดชอบต่อความเสียหายแบบประกันภัยชั้น 3 แต่เพิ่มความรับผิดต่อความเสียหายต่อตัวรถยนต์คันเอาประกันภัยกรณีที่ชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น และต้องมีคู่กรณี โดยให้ความคุ้มครอง ดังนี้

1.คุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก และผู้โดยสารในรถ

2.คุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก

3.คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์คันเอาประกันภัย กรณีชนกับยานพาหนะทางบก

 

และกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ประเภท 5 ทั้งประกัน 2 พลัส และประกัน 3 พลัส ต้องมีเงื่อนไขในการเคลมประกันรถยนต์ ดังนี้

1.ชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น

2.ต้องมีคู่กรณี ถ้าชนแล้วหนี หาพยานหลักฐานไม่ได้ จะไม่ได้รับความคุ้มครอง

 

AUTO ALERT - SILKSPAN

 

กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ

สำหรับกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือที่รู้จักกว่า “พ.ร.บ.รถยนต์” จะให้ความคุ้มครองคนที่ได้รับบาดเจ็บ หรือเกิดการเสียชีวิตที่เกิดเหตุจากรถยนต์ โดยทำการชดเชยค่าเสียหาย และดูแลค่ารักษาพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร คู่กรณี หรือบุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหายจะได้รับความคุ้มครองจากพ.ร.บ.รถยนต์ ซึ่งพ.ร.บ.รถยนต์ หรือกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ จำเป็นจะต้องทำการต่อทุกปี หากฝ่าฝืนถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย  ซึ่งตัวพ.ร.บ.นี้นอกจากรถยนต์แล้ว รถประเภทอื่นๆ เช่น รถจักรยานยนต์ รถบรรทุก หรืออื่นๆ ก็จำเป็นจะต้องทำการต่อพ.ร.บ.ด้วยเช่นกัน พ.ร.บ.จะให้ความคุ้มครองใน 2 ส่วน คือ

1.คุ้มครองต่อค่าเสียหายเบื้องต้น

        โดยไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ว่าฝ่ายใดถูกผิด ให้ความคุ้มครองกับผู้ประสบเหตุทุกคนภายใน 7 วันหลังจากได้รับเอกสารครบถ้วน 

        ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลตามการรักษาจริง ไม่เกินรายละ 30,000 บาท

        ให้ความคุ้มครองค่าชดเชยกรณีสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ หรือค่าปลงศพในกรณีเกิดการเสียชีวิต ไม่เกินรายละ 35,000 บาท

        ให้ความคุ้มครองในกรณีที่เกิดการบาดเจ็บ และต่อมาเกิดการทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต สูงสุดไม่เกินรายละ 65,000 บาท

 

2.คุ้มครองค่าสินไหมทดแทน

        คุ้มครองต่อผู้ประสบเหตุที่เป็นฝ่ายถูกที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว

        ให้ความคุ้มครองในกรณีบาดเจ็บ คุ้มครองรวมกับค่าเสียหายเบื้องต้น ไม่เกิน 80,000 บาท

        ให้ความคุ้มครองกรณีสูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวร คุ้มครองรวมกับค่าเสียหายเบื้องต้น ไม่เกิน 200,000 – 500,000 บาท

        ให้ความคุ้มครองกรณีทุพพลภาพถาวร หรือเกิดการเสียชีวิต คุ้มครองรวมกับค่าเสียหายเบื้องต้น สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท

 

ตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัย

การตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัย

        เคยกันหรือไม่ที่จำไม่ได้ว่าทำประกันไปกี่ฉบับ ทำประกันภัยให้รถยนต์คันไหนกับบริษัทไหนไว้บ้าง สามารถเช็คประกันรถยนต์ได้ง่ายๆ ด้วยวิธีดังนี้

 

  1. เช็คประกันรถยนต์ด้วยตัวเองที่สำนักงาน คปภ.

สามารถทำการขอเช็คประกันภัยรถยนต์ได้กับทางคปภ. โดยผู้ยื่นข้อมูลจำเป็นจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับกรมธรรม์ที่ต้องการทำการตรวจสอบ หรือเป็นผู้รับมอบอำนาจมาแทนเพื่อทำการตรวจสอบ โดยจะต้องมีการเตรียมเอกสารเพื่อทำการยื่นดังต่อไปนี้

  • แบบฟอร์มขอตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัย
  • สำเนาบัตรประชาชน
  • หนังสือมอบอำนาจ/สำเนาบัตรประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ                                                                                                                                           
  • สำเนาหนังสือเดินทาง (Passport)
  • สำเนารายงานประจำวันเกี่ยวกับคดี                                                                                            
  • สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถยนต์/จักรยานยนต์
  • หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท

 

      2. เช็คประกันรถยนต์ด้วยแอปพลิเคชัน “กรมธรรม์ของฉัน” หรือ “My Policy”

สามารถทำได้ผ่านทาง Line Official Account “คปภ. รอบรู้ (@OICConnect)” โดยทำได้ง่ายๆ ผ่าน 4 ขั้นตอนดังนี้

1.ทำการค้นหา และ Add friend ของ Line Official Account “คปภ. รอบรู้” (@OICConnect)

2.ลงทะเบียน และทำการยืนยันตัวตนด้วยภาพถ่ายบัตรประชาชน และภาพถ่ายของบัตรประชาชนคู่กับตนเอง

3.ใส่หมายเลขโทรศัพท์ เพื่อทำการขอรับรหัส OTP เพื่อยืนยันตัวบุคคล

4.เมื่อทำการยืนยันตัวเสร็จสิ้น สามารถกดเลือกใช้บริการ “กรมธรรม์ของฉัน” เพื่อดูข้อมูลกรมธรรม์ที่เคยมี

 

        3. เช็คประกันรถยนต์กับคปภ.ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ หรือสายด่วน

โดยสามารถทำการเช็คได้เลยที่นี่ https://www.oic.or.th/th/consumer หรือติดต่อไปยังสายด่วนประกันภัย 1186 โทรศัพท์ 02-515-3999 ต่อ 5360, 5362, 5304

 

        4. เช็คประกันรถยนต์กับทางบริษัท หรือโบรกเกอร์ประกันภัย

สามารถทำได้ผ่านการติดต่อผ่านทาง Call Center เว็บไซต์ หรือช่องทางการติดต่ออื่นๆ เช่น Line Official Account โดยทำการแจ้งข้อมูลดังต่อไปนี้

  • ชื่อ – นามสกุล
  • เลขบัตรประชาชน
  • เลขทะเบียนรถ
  • เลขตัวถังรถ

 

การต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัย

        เมื่อทราบว่าประกันภัยรถยนต์ของคุณใกล้จะถึงเวลาหมดอายุ หรือได้หมดอายุไปแล้ว สิ่งที่จำเป็นนั่นก็คือการต่ออายุกรมธรรม์รถยนต์ สำหรับผู้ที่ต้องการต่อกรมธรรม์กับทางบริษัทเดิมที่เคยได้ทำไว้ก็สามารถติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ผ่านทาง Call Center เว็บไซต์ทางการ หรือช่องทางติดต่ออื่นๆ ของบริษัท หรือโบรกเกอร์ประกันภัยนั้นๆ สำหรับผู้ที่ต้องการต่ออายุประกันรถยนต์ แต่ยังลังเลว่าจะทำการต่อประกันกับบริษัท หรือเปลี่ยนบริษัทใหม่ดี ยังไม่แน่ใจว่าเจ้าไหนให้ความคุ้มครองที่คุ้มค่าในราคาที่เหมาะสมก็สามารถเข้าไปทำการเปรียบเทียบค่าเบี้ยประกันกับทาง SILKSPAN ที่เป็นผู้ช่วย คอยให้บริการเปรียบเทียบประกันภัยรถยนต์ที่มีให้พร้อมให้เปรียบเทียบกว่า 20 บริษัท และสำหรับคนที่หลงลืมหรือจำไม่ได้ว่าประกันรถยนต์ของคุณที่มีอยู่จะหมดอายุเมื่อไหร่ก็สามารถทำการสมัครบริการแจ้งเตือนสำหรับคนมีรถ Auto Alert ผ่านทาง SILKSPAN Line Official Account (@SILKSPAN) ที่นอกจากจะเตือนการต่อประกันล่วงหน้า ก็ยังมีบริการแจ้งเตือนการจ่ายภาษีรถยนต์ การต่อพ.ร.บ.รถยนต์ และแจ้งเตือนการนำรถยนต์เข้าเช็คที่ศูนย์บริการ ทั้งหมดแบบฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย สมัครได้เลยวันนี้ผู้ช่วยที่จะทำให้คุณไม่ลืมต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์อย่างแน่นอน

 

การยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย

        การยกเลิกกรมธรรม์ หรือการเวนคืนกรมธรรม์ “สามารถทำได้” ไม่มีปัญหา สามารถทำการยกเลิกได้ทั้งประกันรถยนต์ที่คุณได้ทำการซื้อด้วยตนเอง และประกันรถยนต์ที่ทางไฟแนนซ์แถมมาให้เป็นโปรโมชัน เช่น แถมมาให้เมื่อคุณทำการออกรถยนต์คันใหม่ ทั้งสองแบบนี้สามารถทำการยกเลิกได้ และสามารถทำการยกเลิกได้ทั้งก่อนที่ได้รับความคุ้มครอง หรือหลังจากได้รับความคุ้มครองแล้วก็ได้เช่นกัน และยังสามารถทำการขอยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยจากบริษัทเดิม เนื่องจากต้องการทำการเปลี่ยนไปทำประกันรถยนต์กับทางบริษัทใหม่ก็ได้เช่นกัน สามารถทำได้โดยการแจ้งไปยังบริษัทประกันภัยที่คุณทำให้รถยนต์ของคุณอยู่ ยกเลิกได้ก่อนครบรอบปี จะได้รับเบี้ยประกันตามอัตราส่วนที่มีการระบุไว้ในเอกสารแนบท้าย และอาจจะได้รับค่าเงินคืนหลังจากยกเลิกกรมธรรม์บางส่วน โดยมีการหักตามอัตราวันที่ได้รับความคุ้มครองที่ผ่านมา และค่าธรรมเนียม โดยใช้เวลาดำเนินการคืนเงินหลังทำการยกเลิกโดยประมาณ 1-2 เดือนตามขั้นตอนของแต่ละบริษัทประกัน

 

กรมธรรม์ประกันภัยหายต้องทำอย่างไร

        หาก “กรมธรรม์หาย” ต้องทำอย่างไร เหตุการณ์อาจเคยเกิดขึ้นกับใครหลายคน บ้างก็อาจจะรู้วิธีในการขอกรมธรรม์ฉบับใหม่ หรือบางคนก็อาจไม่ได้ทำการขอกรมธรรม์ฉบับใหม่ และอาจภาวนาขอให้ไม่เกิดอุบัติเหตุในระหว่างนี้เพื่อที่จะไม่ต้องใช้กรมธรรม์ประกันภัย หรืออาจเกิดความกลัวว่าถ้ากรมธรรม์ประกันภัยหาย จะโดนยกเลิกความคุ้มครองที่จะได้รับหรือไม่ คำตอบก็คือ ถ้าหากกรมธรรม์ประกันภัยหายยังได้รับความคุ้มครองเช่นเดิม หากเกิดอุบัติเหตุก็สามารถทำการขอเคลมได้ แต่ก็สามารถดำเนินการขอใหม่ได้โดยการแจ้งความ นำใบแจ้งความทำการยื่นกรมธรรม์ฉบับใหม่ อาจต้องยื่นควบคู่กับสำเนาบัตรประชาชนของผู้เอาประกันด้วย และสำหรับลูกค้าของทาง SILKSPAN สามารถทำการขอรับกรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ออนไลน์ได้ผ่านทาง SILKSPAN Line Official Account (@SILKSPAN) ที่สามารถขอได้ตลอดไม่ว่าจะเป็นเวลาไหน ที่ใดใช้งานง่าย มีผล และความคุ้มครองเช่นเดียวกับกรมธรรม์ประเภทกระดาษเช่นเดียวกัน

 

รู้จักคำสำคัญในกรมธรรม์ประกันภัย

ผู้รับประโยชน์

        บุคคลที่มีการระบุไว้ในกรมธรรม์สำหรับเป็นผู้ได้รับสินไหมทดแทนกรณีที่รถยนต์เกิดการสูญหาย หรือเกิดความเสียหายโดยสิ้นเชิง จำเป็นต้องคืนทุนประกัน และจะไม่ได้รับผลประโยชน์อื่นๆ เช่น ค่าสินไหมค่ารักษาพยาบาล หรืออุบัติเหตุส่วนบุคคล

ผู้เอาประกันภัย

        เจ้าของประกัน ที่ได้ทำการทำประกันภัยให้กับรถยนต์ หากไม่ได้มีการระบุผู้รับประโยชน์ไว้ หมายความว่าผู้เอาประกัน และผู้รับประโยชน์เป็นบุคคลเดียวกัน เมื่อตอนรับค่าสินไหมทดแทนจำเป็นจะต้องแสดงหลักฐานว่าเป็นเจ้าของที่แท้จริง 

หมายเลขประจำรถยนต์

        หมายเลขประจำรถยนต์ หรือที่มักจะรู้จักกันในชื่อ เลขตัวถังรถ VIN (Vehicle Identification Number) เป็นชุดตัวอักษร และตัวเลข 17 หลัก ที่จะระบุยี่ห้อรถยนต์ รุ่นรถยนต์ ปีของรถ รวมถึงรายละเอียดเชิงลึกต่างๆ ของรถยนต์ ใช้ในการจดทะเบียนรถยนต์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย 

 

สรุปกรมธรรม์ประกันภัยคืออะไร สำคัญอย่างไรกับการทำประกัน

        กรมธรรม์ประกันภัยเป็นสิ่งที่ใช้ระบุ และยืนยันรายละเอียดของตัวรถยนต์ ความคุ้มครองต่างๆ ที่จะได้รับเมื่อเกิดความอุบัติเหตุ หรือเกิดความเสียหาย ระบุความคุ้มครองต่างๆ ที่ให้การคุ้มครองที่ครอบคลุมตามประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภทที่จะได้รับความคุ้มครองที่แตกต่างกัน ถือว่าเป็นเอกสารสำคัญในของการทำประกันภัยรถยนต์ ที่นอกจากจะระบุความคุ้มครองต่างๆ ที่จะได้รับแล้ว ก็ยังระบุถึงรายละเอียดต่างๆ ของตัวรถยนต์คันที่ทำประกัน เพื่อใช้ยืนยันในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุว่าเป็นรถยนต์คันเดียวกันหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นการทำประกันรถยนต์โดยตรงที่เคาน์เตอร์ของบริษัทประกัน หรือโบรกเกอร์ประกัน หรือจะเป็นการทำประกันออนไลน์ก็จะได้รับกรมธรรม์ที่จะต้องใช้เมื่อเคลมประกันอย่างแน่นอน


เขียนโดย : Ecomoney
เผยแพร่วันที่ : 21/03/2023
บริการแจ้งเตือนผ่านช่องทางต่างๆ

กำลังโหลด