ควรต้องล้างรถบ่อยแค่ไหน ? ถึงจะเหมาะสมกับตัวรถมากที่สุด

ไม่ว่าจะเป็น รถเก่า หรือ รถใหม่ แต่เชื่อว่าสำหรับผู้ที่รักรถแล้ว การดูแลรถให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด ย่อมเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนอยากจะทำอย่างแน่นอน บทความนี้ SILKSPAN มาพร้อมกับเกร็ดความรู้เกี่ยวกับ “การล้างรถ” มาดูกันเลยว่าตามจริงแล้วควรต้องล้างบ่อยแค่ไหนถึงจะเหมาะสม พร้อมด้วยเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการล้างรถ ที่เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนยังไม่รู้ สำหรับท่านใดที่เป็นเจ้าของรถ และอยากดูแลรถให้สภาพดีที่สุด ห้ามพลาดเนื้อหาจากบทความนี้

ล้างรถบ่อยเกินไป หรือไม่ล้างรถเลย อันไหนแย่กว่ากัน ?

การล้างรถเป็นหนึ่งในวิธีการดูแลรถที่ดีที่สุด เพราะจะช่วยในเรื่องของความสวยงามภายนอกของตัวรถ แน่นอนว่าถ้าให้เลือกระหว่าง “ล้างบ่อย” กับ “ไม่ล้างรถเลย” ตัวเลือกแรกย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าอยู่แล้ว แต่ ! ยังมีเบื้องลึกเบื้องหลังอีกหลายประเด็น ที่เราอยากให้ใส่ใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับการล้างรถ จะมีเรื่องอะไรบ้าง มาดูไปพร้อม ๆ กันได้เลย !

• ไม่ล้างรถเลย มีผลเสียต่อสีและตัวถังอย่างไร

ถ้าคุณปล่อยปละละเลยการดูแลรถ โดยเลือกที่จะ “ไม่ล้างรถเลย” แน่นอน ! มันย่อมส่งผลเสียตัวสีและตัวถังของรถยนต์โดยตรง เพราะสิ่งสกปรกที่เกาะบนตัวรถ โดยเฉพาะ ยางจากต้นไม้ หรือ มูลนก หากปล่อยให้สะสมไปนาน ๆ จะทำปฏิกิริยากับชั้นเคลือบผิวของสีรถ จนทำให้รถสีซีดจาง เป็นรอยด่างที่ล้างไม่ออก

• ล้างรถบ่อยเกินไป สีรถจะซีดจริงหรือไม่

การล้างรถเป็นประจำ ถือว่าเป็นการดูแลรถได้อย่างยอดเยี่ยม และมันไม่ได้ทำให้สีรถนั้นซีดแต่อย่างใด กลับกันมันจะยิ่งทำให้รถคุณอยู่ในสภาพที่สวยสดงดงาม เหมือนกับตอนที่เพิ่งถอยออกมาจากโชว์รูมใหม่ ๆ แต่จะต้องได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง โดยใช้อุปกรณ์ล้างรถที่เหมาะสมเท่านั้น

• ควรล้างรถทุกกี่วันถึงจะเหมาะกับสภาพแวดล้อมของคุณ

การที่จะให้ดูแลรถทุกวันก็คงเป็นเรื่องที่ยุ่งยากจนเกินไป ถ้าไม่มีเวลาว่างจริง ๆ ก็ดูแลตามความเหมาะสมขึ้นอยู่กับการใช้งาน และที่สำคัญคือขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของการใช้รถ เช่น หากอยู่ในเขตที่มีฝุ่นเยอะก็ล้างสักสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ถ้าอยู่ใกล้พื้นที่ชายทะเลก็อาจเพิ่มเป็น 2 ครั้ง หรือ ถ้ารถเลอะคราบสกปรกหนักมาก อาทิ ขับรถลุยโคลนมา ก็ควรต้องล้างในทันที

เลือกล้างรถแบบไหนดี ? ระหว่าง “ล้างรถเอง” กับ “ล้างรถอัตโนมัติ”

สำหรับผู้ที่อยากจะล้างรถ แต่ตัดสินใจไม่ถูกว่าควรจะต้อง “ล้างรถเอง” หรือใช้บริการ “ล้างรถอัตโนมัติ” แบบไหนจะเป็นทางเลือกที่ดีต่อ ตัวคุณ และ ตัวรถ มากที่สุด มาลองดูกันว่าควรเลือกอย่างไร โดยตัดสินใจจากปัจจัยดังต่อไปนี้

• ล้างรถเองดีไหม ต้องใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง ?

หากเลือกที่จะ “ล้างรถเอง” สิ่งที่ต้องมีอย่างแรกคือเวลาว่าง จากนั้นก็ต้องมีอุปกรณ์สำหรับการล้างรถ ที่จะต้องเตรียมให้พร้อม ที่สำคัญที่สุดก็จะเป็น น้ำยาสำหรับการล้างรถโดยเฉพาะ ห้ามใช้แชมพูหรือน้ำยาล้างจานเด็ดขาด และ ผ้าสำหรับการเช็ดรถโดยเฉพาะ อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ คือต้องรู้ว่าควรต้องล้างรถอย่างไร ถ้าถามว่าล้างรถเองดีไหม มันก็เป็นเรื่องดีที่ได้ดูแลรถสุดรักสุดหวงด้วยตัวเอง แต่อาจต้องใช้เวลากับมันสักหน่อย

• ล้างรถอัตโนมัติ สะดวก แต่ปลอดภัยจริงหรือ ?

การล้างรถอัตโนมัติโดยใช้เครื่องจักร เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับการล้างรถ ที่ให้ความสะดวกสบาย ใช้ระยะเวลาการล้างเพียง 10 ถึง 15 นาทีเพียงเท่านั้น แถมยังมีราคาที่ค่อนข้างย่อมเยา แต่ก็มีความเสี่ยงที่ตามมาเยอะพอสมควร เพราะเครื่องจักรนั้นไม่ได้ละเอียดเหมือนมนุษย์ การใช้บริการล้างรถอัตโนมัติบ่อย ๆ อาจทำให้เคลือบสีของตัวรถเสื่อมสภาพได้เร็ว และอาจเกิดรอยขนแมวขึ้นได้ในบางกรณี

• ล้างรถที่คาร์แคร์ มืออาชีพมีข้อได้เปรียบอย่างไร ?

อีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ นอกจากการล้างรถเอง และการล้างรถอัตโนมัติ คือการใช้บริการ “ร้านคาร์แคร์” อาจจะมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็แลกกับการล้างรถโดยผู้เชี่ยวชาญ ที่พร้อมด้วยประสบการณ์ และอุปกรณ์ที่เพียบพร้อม แน่นอนว่าสะดวกมากกว่าแน่ ๆ และรถยังสะอาดเอี่ยม เนื่องจากมีบริการที่ครบวงจร นอกจากล้างรถยังมีการเคลือบเงา บริการดูดฝุ่นในรถ ไปจนถึงบริการเสริมอื่น ๆ อีกหลายอย่าง

น้ำยาล้างรถสำคัญไหม ? ใช้อะไรถึงไม่ทำร้ายสีรถ

น้ำยาล้างรถสำคัญมาก ! แบบมากที่สุด ! สำหรับใครที่อยากล้างรถด้วยตนเอง ต้องใช้น้ำยาล้างรถที่ถูกสร้างมาเพื่อล้างรถโดยเฉพาะเท่านั้น ห้ามใช้สบู่เหลว แชมพูสระผม ผงซักฟอก หรือ น้ำยาล้างจาน โดยเด็ดขาด เพราะจะเป็นการทำลายสีรถโดยที่เราไม่รู้ตัว และถ้าอยากจะถนอมสีรถให้สวยงามเงางามไปนาน ๆ เรามีเกร็ดความรู้ดี ๆ มาฝาก ดังนี้

• หลังล้างรถควรเคลือบสีหรือไม่

หลังจากล้างรถด้วยน้ำยาล้างรถเรียบร้อยแล้ว ไม่จำเป็นจะต้องเคลือบสีรถตามหลังทุกรอบ เพราะการเคลือบสีรถจะเป็นการลงน้ำยา ให้รถนั้นมีความเงางาม โดยเฉพาะรถสีเข้มที่ควรเคลือบสีหลังล้างรถทุก 2 สัปดาห์ ส่วนรถสีอ่อนก็อาจจะเดือนละ 1 ครั้งเป็นอย่างน้อย

• วิธีดูแลสีรถให้ใหม่อยู่เสมอ

การจะดูแลรถให้สีดูใหม่อยู่เสมอ ไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงย้อนกลับไปอ่านช่วงต้นของบทความอีกครั้ง แค่ต้องล้างรถอย่างสม่ำเสมอ ไม่ปล่อยให้เกิดคราบสะสมเกาะบนตัวรถ และ ใช้อุปกรณ์ล้างรถที่ถูกต้อง ใช้น้ำยาล้างรถดี ๆ ที่สำคัญคือถ้าล้างรถเอง จะต้องล้างรถด้วยวิธีที่ถูกต้องเท่านั้น

• เทคนิคง่าย ๆ ที่ช่วยยืดอายุสีและความเงาของรถ

นอกจากการใช้น้ำยาล้างรถที่มีประสิทธิภาพ หากอยากยืดอายุของสีรถ ควรมีการเคลือบสีเป็นประจำ ล้างรถอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการจอดรถเอาไว้กลางแจ้งเป็นเวลานาน ๆ เพราะแสงแดดอันร้อนแรงของประเทศไทย เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เร่งให้สีของรถยนต์เสื่อมสภาพได้เร็ว หากจำเป็นต้องจอดกลางแจ้ง ก็ควรมีผ้าคลุมรถเสมอ

บทส่งท้าย

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เหล่าคนรักรถ จะมองหาวิธีการดูแลรถที่ดีที่สุดให้กับรถของตนเอง ซึ่งการล้างรถก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยทำให้รถดูใหม่เอี่ยมอยู่เสมอ แต่จะต้องเป็นการล้างอย่างถูกวิธี และควรต้องใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม มิฉะนั้นอาจกลายเป็นผลเสียที่จะทำให้รถเกิดริ้วรอยระหว่างการล้างได้

ก่อนจากกันเราขอฝากเกร็ดความรู้อีกสักเล็กน้อย สำหรับผู้ที่ทำ “ ประกันชั้น 1 ” ติดรถเอาไว้ หากรถของคุณเกิดริ้วรอยจากการล้างรถ ซึ่งต้องเกิดจากความไม่ตั้งใจ ในกรณีนี้สามารถเคลมสีได้ เห็นแล้วใช่ไหมว่าประกันภัยรถยนต์นั้นมีประโยชน์ ถ้าตอนนี้ประกันเดิมของคุณใกล้จะหมด แล้วยังไม่รู้จะซื้อประกันรถยนต์แบบไหนดี SILKSPAN พร้อมมอบข้อเสนอที่ดีที่สุดให้กับคุณ เพียงกรอกข้อมูลด้านล่างบทความนี้เอาไว้เท่านั้น