ขับรถหน้าร้อนต้องเช็กอะไร เตรียมตัวอย่างไร
การขับรถในหน้าร้อนมีข้อควรระวังเฉพาะทางอยู่ วันนี้เรามาเตรียมรับมือกับการขับรถในหน้าร้อนกันดีกว่า
การเตรียมรถ
- เช็กระดับน้ำในหม้อน้ำว่าอยู่ในเกณฑ์หรือไม่ มีจุดรั่วซึมหรือไม่
- เช็กระบบแอร์ และน้ำยาแอร์ ถ้าถึงกำหนดล้างแล้ว ก็ควรล้าง
- เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกเมื่อถึงระยะ เพราะน้ำมันเบรกเก่าจะทำให้เกิดความชื้น และร้อน
- ตรวจสอบสภาพยาง หากจะต้องเดินทางไกล
สิ่งที่ควรทำ
- ใส่แว่นกันแดด เพื่อลดอาการเมื่อยล้าของดวงตา ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการง่วงนอน
- เติมลมยางให้มากกว่าปกติ 2-3 ปอนด์ เนื่องจากการขับรถบนถนนร้อนๆ ที่มีอุณหภูมิสูงกว่าในยาง จะทำให้ยางขยายตัว และบวม
- เมื่อต้องขับรถระยะไกล ควรหยุดพักทุกๆ 150-200 กิโลเมตร หรือทุกๆ 2 ชั่วโมง
- หากต้องจอดตากแดด ให้ลดกระจกไว้นิดหน่อย เพื่อให้ลมพัดเข้าไปช่วยระบายความร้อนในห้องโดยสาร
- หลังจากจอดตากแดด ก่อนสตาร์ทรถ ให้เปิดประตูทุกบานทิ้งไว้ประมาณ 1-2 นาที เพื่อระบายความร้อน จากนั้นจึงค่อยสตาร์ทรถ เมื่ออุณหภูมิใกล้เคียงกับภายนอกแล้ว จึงค่อยๆ เร่งความเย็นขึ้นที่ละระดับ
สิ่งที่ไม่ควรทำ
- ไม่ควรลดแรงดันลมยาง เพราะจะทำให้ยางอ่อน บิดตัว และร้อนง่ายกว่าปกติ เป็นเหตุให้เกิดยางระเบิดได้
- ไม่จอดรถในที่ๆ มีน้ำนองเป็นเวลานาน เพราะเมื่อคุณขับรถไปเจอกับถนนร้อนๆ จะทำให้อุณหภูมิของยางเปลี่ยนกะทันหัน ซึ่งจะทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
- ไม่จอดบนพื้นที่ร้อนจัดนานๆ เพราะจะทำให้ยางแข็ง และเสื่อมสภาพเร็วขึ้นเช่นกัน
- ไม่จอดตากแดดนานๆ เพราะอุณหภูมิของห้องโดยสารจะสูงขึ้น เป็นเหตุให้อุปกรณ์ในห้องโดยสารเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
- หลังจากที่จอดตากแดดนานๆ เมื่อขึ้นรถแล้ว ไม่ควรเร่งความเย็นในทันที เพื่อไม่ให้อุกปรณ์ภายในห้องโดยสารเสื่อมสถาพจากอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ข้อควรระวัง
- หากชับรถอยู่แล้วไฟอุณหภูมิที่แผงหน้าปัดสว่างขึ้น หรือแอร์เริ่มไม่ค่อยเย็น อุณหภูมิในรถสูงกว่าปกติ นั่นแปลว่าเครื่องยนต์ร้อน คุณควรปิดแอร์ แล้วค่อยๆ เอารถเข้าข้างทาง ติดเครื่องเดินเบา จากนั้นเปิดฝากระโปรงหน้ารถเพื่อช่วยลดอุณหภูมิของห้องเครื่อง แต่ถ้ามีไอน้ำพุ่งออกมาจากกระโปรงหน้ารถ ควรปล่อยให้ไอน้ำหรือความร้อนลดลงก่อน จึงค่อยเปิดฝากระโปรง และไม่ควรเปิดฝาหม้อน้ำทันทีเพราะอาจมีน้ำพุ่งขึ้นมา และทำให้คุณบาดเจ็บได้ รวมถึงไม่ราดน้ำใส่ห้องเครื่องเพราะจะทำให้ชิ้นส่วนเครื่องยนต์เสียหายได้