การเคลือบสีรถคืออะไร ? จำเป็นต้องเคลือบหรือไม่ มีราคาเท่าไหร่

มั่นใจเหลือเกินว่า สำหรับคนรักรถแล้ว คงอยากจะดูแลให้รถดูใหม่อยู่ตลอดเวลา เหมือนกับเพิ่งถอยออกมาจากโชว์รูมเมื่อวานนี้ แต่ในเมื่อรถยนต์เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องถูกนำออกไปใช้งาน หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเผชิญกับคราบสกปรกต่าง ๆ จนทำให้ยิ่งใช้ตัวรถก็ยิ่งหม่นหมองลงไปเรื่อย ๆ บทความนี้ SILKSPAN พาทุกคนมารู้จักกับ “การเคลือบสีรถ” วิธีที่จะทำให้รถคันโปรดของคุณเงางามเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลา มาดูกันเลยว่ามีขั้นตอนอย่างไร ต้องจ่ายแพงไหม และ มีเรื่องน่าสนใจอะไรกันบ้าง

ทำไมต้องเคลือบสีรถ ?

การเคลือบสีรถคือ “เทคนิคการดูแลรักษาสีรถ” ซึ่งจะเป็นการใช้น้ำยาชนิดพิเศษมาขัดบนตัวรถ จนกลายเป็นชั้นฟิล์มบาง ๆ ที่ปกคลุมตัวรถเอาไว้ นอกจากจะช่วยให้รถดูเงางามเหมือนใหม่ ตัวชั้นฟิล์มจากการเคลือบสียังช่วยยืดอายุการใช้งานของสีรถอีกด้วย เพราะสามารถป้องกันคราบสกปรกได้ดี ปกป้องสีรถจากแสงแดดที่ร้อนแรงของประเทศไทย และยังสามารถลดโอกาสที่จะเกิดรอยขีดข่วนเล็ก ๆ ได้อีกด้วย

เคลือบสีรถคืออะไร แตกต่างจากการเคลือบแก้วรถยนต์อย่างไร

อาจเพราะมีชื่อเรียก และ วัตถุประสงค์เพื่อการดูแลรักษาสีรถเหมือน ๆ กัน ส่งผลให้ในบางครั้ง ก็ทำให้มีผู้ที่เข้าใจผิด คิดว่า “เคลือบสีรถ” กับ “เคลือบแก้ว”เป็นวิธีการเดียวกัน ซึ่งที่จริงแล้วมีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร มาดูกันเลยว่าต่างกันอย่างไร และเลือกแบบไหนถึงจะเหมาะสมที่สุด

จุดเด่นของการเคลือบสีรถ

การเคลือบสีรถจะใช้ผลิตภัณฑ์เคลือบผิว ซึ่งส่วนมากจะเป็น “แว๊กซ์” หรือ “โพลิเมอร์” จุดเด่นสำคัญคือ ราคาค่อนข้างย่อมเยา ทำแล้วเห็นความแตกต่างของความเงางามได้ในทันที อายุการใช้ไม่อาจไม่ได้ยืนยาวมากนัก มีผลิตภัณฑ์เคลือบเงาวางขายโดยทั่วไป สามารถทำได้เองหากมีความชำนาญมากพอ

จุดเด่นของการเคลือบแก้วรถยนต์

ในส่วนของการเคลือบแก้วรถยนต์ จะใช้ผลิตภัณฑ์เคลือบสีที่ทำมาจากส่วนผสมของ “ซิลิกา” และ “เซรามิก” การยึดเกาะจะเหนียวแน่น และแข็งแรงมากกว่าเคลือบสีรถโดยทั่วไป อายุการใช้งานเห็นผลยาวนาน 1 ถึง 5 ปี ขึ้นอยู่กับคุณภาพของผลิตภัณฑ์เคลือบสี และการดูแลรักษาตัวรถ ราคาจะแพงกว่า

เลือกแบบไหนดี เคลือบสีรถ vs เคลือบแก้วรถยนต์

หากจะให้เลือกแบบใดแบบหนึ่ง เราสามารถอนุมานได้ว่า การเคลือบแก้วรถยนต์นั้นเป็นการเคลือบสีรถแบบพรีเมียม เนื่องจากข้อดีเยอะกว่าในแทบจะทุก ๆ จุด สิ่งเดียวที่การเคลือบสีรถดีกว่า ก็จะเป็นในเรื่องของราคาที่ถูกกว่าอย่างชัดเจน เพราะฉะนั้นการจะเลือกแบบไหนดี ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีงบเท่าไหร่ และ ต้องการมากแค่ไหน

ขัดเคลือบสีรถราคาเท่าไหร่ ควรเตรียมงบประมาณไว้แค่ไหน

เป็นเรื่องยากสำหรับการฟันธง ว่าขัดเคลือบสีรถราคาเท่าไหร่ ? ควรต้องเตรียมงบประมาณมากน้อยแค่ไหน เพื่อรับบริการนี้ ? เนื่องจากราคาก็จะขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการแต่ละแห่ง ซึ่งจะแต่งต่างกันไปตามกระบวนการขัดสี หรือ ผลิตภัณฑ์เคลือบสีที่เลือกใช้ แต่สำหรับผู้ที่กำลังสนใจ เราได้รวบรวม “ราคากลาง” ของการเคลือบสีรถมาฝาก

เคลือบสีรถราคาโดยทั่วไป

ราคาของการเคลือบสีรถโดยทั่วไป จะอยู่ที่ “หลักร้อย” พบได้ตั้งแต่ 300 บาท หรือ 500 บาท เป็นบริการเสริมหลังจากการล้างรถ ส่วนในราคาเคลือบสีระดับพรีเมียม ราคามักจะอยู่ที่ “หลักพัน” ไปจนถึง “หลักหมื่น” เนื่องจากจะมีขั้นตอนการขัดสี เก็บรอยถลอกต่าง ๆ ก่อนการลงน้ำยาเคลือบ

ขั้นตอนการขัดเคลือบสีรถที่ควรรู้

ขั้นตอนการเคลือบสีรถ ขึ้นอยู่กับราคาที่เลือกใช้บริการ รวมถึงขั้นตอนเฉพาะบางอย่าง ของผู้ให้บริการแต่ละเจ้า หากเป็นในการเคลือบสีในราคาหลักร้อย ก็จะมีเพียงการลงน้ำยาเคลือบ หลังจากล้างรถเสร็จสิ้นแล้วเท่านั้น ไม่ได้มีขั้นตอนที่สลับซับซ้อนแต่อย่างใด ดังนั้นเพื่อให้เห็นถึงขั้นตอนการเคลือบสีแบบครบวงจรจริง ๆ เราจะขอยกตัวอย่าง ขั้นตอนการเคลือบสีแบบพรีเมียม มาดูกันเลยว่าจะมีขั้นตอนอะไรกันบ้าง

• ทำความสะอาดตัวรถ ซึ่งจะเป็นการกำจัดสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่เกาะบนตัวรถออกให้หมดจด และเช็ดตัวรถให้แห้งสนิท
• ประเมินสภาพพื้นผิว โดยจะเช็คว่ามีรอยขีดข่วนตรงไหนบ้าง มีคราบสกปรกตรงไหนฝังแน่นยังล้างไม่ออก หรือมีจุดที่สีเป็นรอยด่างหรือไม่
• ปรับสภาพพื้นผิว เมื่อประเมินถึงตำหนิต่าง ๆ บนตัวรถเรียบร้อยแล้ว ก็จะเป็นการปรับสภาพตัวรถ ขจัดคราบฝังแน่นต่าง ๆ ขัดเก็บรอยขีดข่วนเล็ก ๆ และ รอยหมองคล้ำรอบคันรถ
• ขัดเงาครั้งแรก เป็นกระบวนการที่จะใช้เครื่องขัด ขัดเงาตัวรถรอบคัน เพื่อให้พื้นผิวของตัวรถเรียบสนิท และยังช่วยให้น้ำยาเคลือบเกาะกับตัวรถอย่างเหนียวแน่นอีกด้วย
• ลงน้ำยาเคลือบ ในขั้นตอนนี้ค่อนข้างจะแตกต่างกันไป ตามเทคนิคเฉพาะของผู้ให้บริการ บางแห่งก็มีการลงเคลือบหลายครั้ง เพื่อความคงทน และ ความเงางาม
• ขัดเงาครั้งสุดท้าย เป็นการเก็บรายละเอียดครั้งสุดท้าย จะเป็นการขัดน้ำยาเคลือบเงาให้เรียบเนียนเสมอกันตลอดทั้งตัวรถ และยังเป็นกระบวนการที่ทำให้รถเงางามมากขึ้นอีกด้วย

เคล็ดลับดูแลรถหลังเคลือบสี

การดูแลหลังจากเคลือบสีรถมาแล้ว ไม่ได้มีขั้นตอนอะไรที่ยุ่งยากแต่ประการใด เพียงหมั่นดูแลความสะอาดของตัวรถ หากมีคราบที่อาจทำลายชั้นสีอย่าง มูลนก หรือ ยางต้นไม้ ก็ควรรีบทำความสะอาดโดยเร็ว ที่ต้องระวังคือการล้างรถด้วยตนเอง ควรใช้น้ำยาล้างรถโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีค่า pH ที่ไม่ทำลายชั้นเคลือบของสีรถ รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ก็ควรเป็นสิ่งที่ถูกใช้สำหรับการล้างรถโดยเฉพาะ เช่น ฟองน้ำ หรือ ผ้าเช็ดรถ เป็นต้น ที่สำคัญที่สุดคือต้องล้างรถด้วยวิธีที่ถูกต้อง

หากไม่รู้ว่า ล้างรถที่ถูกต้องทำอย่างไร ? ลองมาอ่าน 5 สิ่งที่คนล้างรถเองมักจะเข้าใจผิด !

บทส่งท้าย เคลือบสีรถคุ้มค่าหรือไม่ ?

เมื่อได้อ่านบทความนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้เวลาคุณนำรถไปล้างที่ร้านคาร์แคร์ เวลาถูกพนักงานถามว่า “ต้องการเคลือบสีรถเพิ่มไหมครับ ?” คุณน่าจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะเลือก Say Yes หรือ Say No สุดท้ายนี้หากคุณต้องการสิ่งที่จะปกป้องทั้งตัวรถและตัวคุณเอง การเคลือบสีอย่างเดียวคงไม่พอ SILKSPAN ขอแนะนำให้ทำ “ประกันภัยรถยนต์” ติดรถเอาไว้อุ่นใจที่สุด ถ้าไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อจากที่ไหนดี เพราะพร้อมให้คุณเปรียบเทียบเบี้ยประกัน จากบริษัทชั้นนำกว่า 20 บริษัทชั้นนำในประเทศไทย มอบส่วนลดสูงสุดกว่า 30% สนใจติดต่อได้ที่

• Facebook : SILKSPAN
• Instagram : silkspan
• Line Official : @SILKSPAN
• X (twitter) : SILKSPAN
• Youtube : SILKSPAN
• TikTok : silkspan