ประกันชั้น 1

ไขข้อข้องใจ ประกันรถยนต์ชั้น 1 รถเกิน 10 ปี ทำได้หรือไม่


รถอายุเกิน 10 ปี ทำประกันชั้น 1 ได้หรือไม่

ประกันภัยรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ใช้งานรถยนต์ที่ถือว่าทุกคนจะต้องมีเอาไว้ให้อุ่นใจ แม้ว่าเราจะแน่ใจว่าเราเป็นคนที่ขับขี่ดีแค่ไหน แต่เราก็ไม่มีวันรู้ว่าจะมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับเราได้เมื่อใด หลายผู้ใช้งานมักคิดว่าการที่รถมีอายุที่มากขึ้นแล้ว การทำประกันชั้น 1 อาจจะไม่คุ้มค่า แล้วถ้าเรายังอยากทำประกันรถยนต์ชั้น 1 รถเกิน 10 ปี ยังจะสามารถทำได้หรือไม่

ผู้ใช้งานหลากหลายคนมักมีความคิดว่า หากรถยนต์ของเรามีอายุการใช้งานที่มากกว่า 5-7 ปีขึ้นก็คงไม่มีบริษัทประกันที่ไหนที่จะรับทำประกันชั้น 1 ให้กับรถของเราอีกแล้ว หรือเป็นรถที่อายุมากกว่า 10 ปี ก็ยิ่งมีความคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ แต่ในความจริงนั้น รถยนต์ที่มีอายุการใช้งานเยอะ อาจจะมากกว่า 5-7 ปี หรืออาจจะมากถึง 10 ปี ก็ยังสามารถทำประกันชั้น 1 ได้โดยอาจมีเกณฑ์พิจารณาที่แตกต่างกันออกไป โดย SILKSPAN จะมาอธิบายเกี่ยวกับเกณฑ์การทำประกันรถยนต์ชั้น 1 รถเกิน 10 ปี มีอะไรที่ต้องพิจารณาเป็นพิเศษบ้าง ติดตามกันได้เลย

 

รถยนต์แบบไหนที่ยังสามารถทำประกันชั้น 1 ได้

รถยนต์ของใคร ใครก็รัก และอยากให้รถยนต์ของเราได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ไม่ว่ารถยนต์จะเป็นรถยนต์ใหม่ป้ายแดงที่เพิ่งถอยมา หรือจะเป็นรถยนต์ที่มีอายุแล้วก็ยังอยากให้รถยนต์ของเราได้รับการดูแลเป็นอย่างดี โดยเฉพาะความต้องการความคุ้มครองของประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ที่ยังให้ความครอบคลุมกับอุบัติเหตุในหลากหลายแบบไม่ว่าจะเป็นการชนแบบไม่มีคู่กรณี หรือความคุ้มครองเพิ่มเติม เช่น ความคุ้มครองในกรณีที่เสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือน้ำท่วมรถ  แล้วรถยนต์มีอายุที่มีคุณสมบัติแบบไหนที่ยังสามารถทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ได้

 

ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 รถเกิน 10 ปี ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง

1.สภาพรถ

หากรถยนต์ที่เราใช้งานอยู่ยังมีสภาพที่ดี 100% เป็นรถรุ่นที่ยังเป็นที่นิยมกันในท้องตลาด ยังมีอะไหล่ หรือยังสามารถหาอะไหล่สำรองได้ง่าย ก็มีสิทธิ์ที่เราจะทำ หรือต่อประกันชั้น 1 ให้กับรถเราได้ แต่ถ้าหากรถยนต์ของเราเป็นรถที่อาจจะหาอะไหล่ได้ยาก เป็นรถยนต์ที่อาจจะไม่ได้เป็นที่นิยมกันมากในท้องตลาด ก็อาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับการต่อประกันภัยในกรณีที่รถมีอายุค่อนข้างมาก และรวมไปถึงการนับอายุของรถยนต์รุ่นนั้นๆ ด้วยที่ไม่ได้เริ่มนับอายุของรถยนต์จากวันที่เราทำการซื้อ หรือรับรถยนต์ แต่เป็นนับจากวันที่ผลิตรถยนต์รุ่นนั้นๆ หรือสามารถเรียกง่ายๆ ว่าการเช็กว่ารถตกรุ่นแล้วหรือยังนั่นเอง หากรถยนต์ของเราตกรุ่นแล้ว ก็จะทำให้เกิดความลำบากในการเคลมอะไหล่ หรือการหาอะไหล่สำรองมาทดแทนอะไหล่จริงที่อาจจะไม่สามารถทำการหาได้แล้ว หรือหาได้ยากในท้องตลาด

2.ประวัติของผู้ทำประกัน

ประวัติการขับขี่ของเจ้าของรถ หรือผู้ที่ทำประกันรถยนต์มีผลเป็นอย่างมากในการพิจารณาอนุมัติประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ซึ่งทางบริษัทจะทำการเช็ก และตรวจสอบว่ามีประวัติการขับขี่เป็นอย่างไร มีประวัติดี หรือประวัติเสียหรือไม่ สำหรับหลายคนที่อาจเคยมีประวัติในการเคลมประกันภัยรถยนต์มาก่อนอาจเกิดความกังวลใจว่าจะมีผลหรือไม่ ถ้าหากการเคลมประกันรถยนต์เกิดขึ้นเนื่องการเป็นการเคลมที่ตัวเราเป็นฝ่ายถูก ไม่ได้เป็นฝ่ายผิดก็สามารถสบายใจได้เลยว่าจะไม่มีผลต่อประวัติการขับขี่ของผู้ทำประกันอย่างแน่นอน โดยเฉพาะหากไม่เคยฝ่าฝืนกฎจราจร ทำทุกอย่างอย่างถูกต้อง ก็ถือว่าเป็นประวัติที่ดีที่ทางบริษัทจะนำข้อมูลไปร่วมพิจารณาอย่างแน่นอน แต่หากเคยมีการเคลมในกรณีที่เป็นฝ่ายผิด หรือการเคลมที่มีไม่มีคู่กรณีบ่อยๆ ก็มีผลต่อประวัติของผู้ทำประกัน รวมไปถึงมีผลต่อการพิจารณาการต่อประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ในปีถัดๆ ไปอย่างแน่นอน

การตรวจสอบประวัติผู้ทำประกันภัยรถยนต์ นอกจากตรวจสอบประวัติการขับขี่แล้ว ทางบริษัทประกันภัยก็ต้องมีความจำเป็นต้องต้องมีการตรวจสอบประวัติการชำระค่าเบี้ยในปีก่อนๆ ว่าตัวผู้ทำประกันเองเคยมีประวัติการค้างชำระเบี้ยประกันมาก่อนหรือไม่ ในกรณีที่เราไม่เคยมีประวัติเสีย ไม่เคยค้างค่าเบี้ยประกัน สามารถจ่ายเต็มจำนวน ตรงยอดทุกครั้งก็เป็นส่วนช่วยในการอนุมัติการทำ หรือต่อประกันรถยนต์ชั้น 1 รถเกิน 10 ปี ได้เช่นเดียวกัน

3.ประวัติการเคลม

โดยทั่วไปแล้วถึงแม้ว่าจะเป็นการต่ออายุประกันรถยนต์ชั้น 1 รถเกิน 10 ปี หรืออายุยังไม่เกิน ทางบริษัทประกันจะมีการเช็กประวัติการเคลมของเราอยู่เสมอเพื่อใช้เป็น 1 ในเกณฑ์พิจารณาการอนุมัติการต่อ หรือทำประกันภัย หากเรามีการเคลมอย่างสมเหตุสมผล ไม่ได้เคลมบ่อยจนเกินไป หรือเป็นการเคลมในกรณีที่เราเป็นฝ่ายถูก เคลมแบบมีคู่กรณี ไม่ได้เป็นการเคลมแบบผิดปกติ เคลมแบบไม่มีคู่กรณี หรือการเคลมที่เราเป็นฝ่ายผิด ก็สามารถทำให้เรามีโอกาสในการต่ออายุประกันชั้น 1 ต่อไปได้

4.บริษัทที่เลือกทำประกัน

สำหรับบางบริษัทอาจมีเงื่อนไขที่จะต้องต่อประกันกับที่เดิมมาโดยตลอด โดยเฉพาะรถที่มีอายุมากกว่า 10 ปีก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่สำหรับบางบริษัทอาจไม่จำเป็นต้องต่อประกันกับบริษัทเดิมมาโดยตลอด แต่มีประวัติการเคลมที่ดี มีประวัติการขับขี่ที่ดี ก็สามารถนำปัจจัยเหล่านี้ไปพิจารณาได้ง่ายขึ้น

 

ประกันรถยนต์ชั้น 1 เบี้ยเริ่มต้นที่ 750 บาท

 

เปลี่ยนไปทำประกันชั้นอื่นจะกลับมาทำประกันชั้น 1 ได้หรือไม่

 

ถ้าเปลี่ยนไปทำประกันชั้นอื่น เราสามารถเปลี่ยนกลับมาทำประกันชั้น 1 ได้หรือไม่

        ในบางช่วงของการทำประกันภัยรถยนต์ เราอาจมีการเปลี่ยนใจไปทำประกันภัยชั้นอื่นๆ เช่น การเปลี่ยนจากประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เป็นประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ ก็มักจะเกิดขึ้น เพื่อให้ราคาค่าเบี้ยประกันมีจำนวนที่น้อยลง แต่ถ้าหากเกิดอยากเปลี่ยนกลับไปทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เหมือนเดิม ยังจะทำได้อยู่หรือไม่ คำตอบคือ ยังสามารถทำได้ในบางบริษัทประกัน รถยนต์โดยปกติที่อายุไม่เกิน 5-10 ปี หากมีการทำประกันชั้นอื่นมาก่อน และต้องการกลับมาต่อประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ก็ยังสามารถทำได้ แต่ในกรณีของรถที่มีอายุมาก อาจมากกว่า 10 ปี อาจมีเงื่อนไขในการตรวจสอบที่มากขึ้น เช่น การตรวจสอบประวัติการเคลม ประวัติการขับขี่ สภาพของตัวรถยนต์ แต่สำหรับบริษัทประกันภัยบางแห่ง ก็อาจไม่รับทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้กับรถยนต์ที่มีอายุมากกว่า 10 ปีทั้งที่เคย และไม่เคยเปลี่ยนไปทำประกันชั้นอื่นแล้ว และต้องการกลับมาต่อประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 อีก 

        สำหรับการเปลี่ยนไปเป็นประกันชั้นอื่น แล้วอาจเกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถกลับมาทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ได้อีก มักจะมีการแจ้งผู้ทำประกันไว้เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจก่อนการเปลี่ยนอย่างแน่นอน หรือถ้าหากไม่มั่นใจลองสอบถามบริษัทประกันที่เรามีได้เลย

สรุปเกี่ยวกับประกันรถยนต์ชั้น 1 รถเกิน 10 ปี

ถึงแม้ว่ารถของเราจะมีอายุที่เยอะ แต่ถ้าสภาพรถยังดี มีประวัติที่ดีทั้งผู้ขับขี่ที่เป็นคนทำประกัน และมีประวัติที่ดีในการเคลมก็จะช่วยให้คุณสามารถทำประกันรถยนต์ชั้น 1 รถเกิน 10 ปีได้ไม่ยากนัก และถ้าใครกำลังมองหาประกันดีๆ ประกันชั้น 1 ที่มีให้เลือกมากกว่า 20 บริษัท ลองเข้ามาดูกันได้ที่ WWW.SILKSPAN.COM ได้เลย

 


เขียนโดย : Ecomoney
เผยแพร่วันที่ : 12/09/2023
โปรโมชั่นแนะนำ
“เช็คเบี้ยกับเราซิคะ”